สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์เป็นการเอาทัศนธาตุต่าง ๆ มาประกอบกันและจัดวางอย่างเหมาะสมผู้สร้างสรรค์งานต้องเข้าใจพื้นฐานการรับรู้ของผู้ชม คำนึงถึงการออกแบบ การจัดวางงานให้มีความกลมกลืนและรู้จักวิเคราะห์คุณสมบัติของทัศนธาตุที่นำมาใช้ มีการพัฒนาผลงานของตนเอง รวมถึงมีการศึกษาและวิเคราะห์รูปแบบทัศนธาตุและแนวคิดในการสร้างสรรค์ของตนเองและศิลปินเพื่อนำความรู้มาประยุกต์ใช้
บทเรียนที่ 1
เนื้อหาทัศนธาตุและพื้นฐานการรับรู้
เกร็ดความรู้เพิ่มเต็มเกี่ยวกับทัศนธาตุ
ความรู้เกี่ยวกับทัศนธาตุ
ศิลปินนำทัศนธาตุมาใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน สื่อความหมายตามแนวคิด โดยนำมาประกอบเข้าด้วยกัน โดยอาศัยหลักการจัดองค์ประกอบศิลป์
ศิลปินอาจใช้ทัศนธาตุอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างรวมกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้ว่าศิลปินจะใช้เพียงทัศนธาตุเดียวในการสร้างสรรค์ผลงาน ทัศนธาตุอื่นๆ ก็จะปรากฏขึ้นเอง
เมื่อใช้เส้นวาดรูปทรงขึ้นชิ้นหนึ่ง จะเกิดพื้นที่ว่างและรูปร่างขึ้นพร้อมกับเส้น เมื่อระบายสีลงในรูปทรงที่ใช้เส้นวาดนั้น ทัศนธาตุอื่นก็จะปรากฏขึ้นมาด้วย โดยมีทั้งเส้นที่เป็นขอบเขตของรูปทรง สี พื้นที่ว่าง น้ำหนักอ่อน-แก่ แม้แต่สีที่ระบายลงไปก็จะปรากฏให้เห็นในลักษณะหยาบ ละเอียด มัน หรือด้าน
กล่าวได้ว่าผลงานทัศนศิลป์จะมีทัศนธาตุเป็นองค์ประกอบสำคัญ คือ เมื่อมีรูปทรงของงานทัศนศิลป์ปรากฏขึ้น ทัศนธาตุทั้งหลายจะประสานและรวมตัวกันอยู่ในงานทัศนศิลป์นั้นอย่างครบถ้วน ดังนั้นหากจะทำการวิเคราะห์รูปแบบของทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์ จำเป็นต้องแยกทัศนธาตุออกเป็นอย่างๆ ให้ง่ายต่อการศึกษาวิเคราะห์ จะได้เข้าใจแนวความคิดและวัตถุประสงค์ของศิลปินในการเลือกรูปแบบทัศนธาตุมาสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ชิ้นนั้น
การรับรู้ทางการมองเห็น
การรับรู้ที่เกิดจากจักษุสัมผัส เป็นการรับรู้ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเทียบกับการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสอื่นๆ โดยใช้นัยน์ตาเป็นอวัยวะรับภาพและมีสมองทำหน้าที่แปลความหมายของภาพที่ได้รับมาจากการมองเห็น สามารถแบ่งออกได้ ๒ ลักษณะ
การมอง (Looking)
อาการที่กระทำโดยไม่ได้ตั้งใจลงลายละเอียด แต่เป็นไปเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งในขณะนั้น เช่น เวลาเราเดินข้ามถนน เป้าหมายของเราเป็นฝั่งตรงข้าม เราก็จะมองดูให้แน่ใจว่าไม่มีรถวิ่งผ่านมา ถนนว่าง เราจึงเดินข้าม การมองลักษณะนี้ถือเป็นการมองแบบธรรมดาผู้มองจะไม่ใส่ใจว่ารถที่ผ่านหน้าไปมีสีอะไร เป็นรถประเภทใด หรือมีคนนั่งทั้งสิ้นกี่คน เราจะไม่เก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้ นอกจากรู้ว่ามีรถผ่านไป
การเห็น (Seeing)
กระบวนการรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสทางตา สามารถจะบอกรายละเอียดสิ่งที่เห็นได้
การเห็นมีกระบวนการเก็บข้อมูลของสมองไปตามระดับการเห็น โดยอาจเป็นการเห็นแบบธรรมดาที่ไม่มีรายละเอียดมากนัก การเห็นความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน ที่เป็นระดับการเห็นที่มีความทะลุปรุโปร่งมีความละเอียดลึกซึ้ง