ด้านที่ 1 : ด้านการจัดการเรียนรู้
ข้าพเจ้าได้ดำเนินการวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เพื่อจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา ปีการศึกษา 2564 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ 2564 ) ศึกษาสาระ มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้ เพื่อจัดทำคำอธิบายรายวิชา ออกแบบหน่วยการเรียนรู้โดยคลอบคลุมเนื้อหาของหลักสูตร มีการจัดทำแบบประเมินการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ประจำปีการศึกษา 2564 เมื่อนำหลักสูตรไปใช้ได้จัดทำรายงานการปรับปรุง พัฒนา และการประเมินการใช้หลักสูตร ปีการศึกษา 2564 การนิเทศติดตามและประเมินผลการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านปวงคำ(ประชาอุทิศ) (ฉบับปรับปรุง พ.ศ 2564 )
นอกจากนั้นโดยดำเนินการจัดทำหลักสูตรรายวิชา เอกสารประกอบหลักสูตรภาษาไทยระดับชั้นประถมศึกษาและชั้นมัธยมศึกษา หน่วยการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้ ตามหลักสูตรเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาสมรรถนะและการเรียนรู้เต็มตามศักยภาพ โดยมีการประยุกต์ให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ผู้เรียน และชุมชน สามารถแก้ไขปัญหาในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาสมรรถนะและการเรียนรู้เต็มตามศักยภาพ ส่งผลให้คุณภาพการจัดการเรียนรู้สูงขึ้น และเป็นแบบอย่างที่ดีในการสร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร โดยได้ ตามภาระงานสอนที่ได้รับมอบหมาย ทั้งนี้หลักสูตรรายวิชาที่จัดทำขึ้นสามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม ตามบริบทของสถานศึกษา และช่วงวัยของผู้เรียน โดยมีการบันทึกผลการใช้หลักสูตรรายวิชาเพื่อนำผลไปใช้ในการปรับปรุงหรือพัฒนาหลักสูตรในครั้งต่อไป ส่งผลให้คุณภาพการจัดการเรียนรู้สูงขึ้นและเป็นแบบอย่างที่ดี
ผลการปฏิบัติงาน
ผู้เรียนร้อยละ 100 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน สูงกว่าระดับที่คาดหวังคือ ร้อยละ 70 (ปฏิบัติได้สูงกว่าระดับที่คาดหวัง 4 คะแนน)
ผู้เรียนร้อยละ 100, 90.00, 100 มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การอ่าน การคิดวิเคราะห์ การเขียน และสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน อยู่ในระดับ ดี ขึ้นไป สูงกว่าที่คาดหวัง คือ ร้อยละ 70 (ปฏิบัติได้สูงกว่าระดับที่คาดหวัง 4 คะแนน)
ข้าพเจ้าได้ริเริ่ม คิดค้น การออกแบบการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สามารถแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ให้สูงขึ้น เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะประจำวิชา คุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะที่สำคัญ ตามหลักสูตร มีกระบวนการคิดและค้นพบองค์ความรู้ด้วยตนเอง และสร้างแรงบันดาลใจและเป็นแบบอย่างที่ดีในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ ตลอดจนได้ดำเนินการจัดทำและพัฒนาหน่วยการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับคำอธิบายรายวิชา ธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ เหมาะสมกับผู้เรียน บริบทของสถานศึกษาและท้องถิ่น ตามภาระงานสอนที่ได้รับมอบหมาย
โดยใช้นวัตกรรม เรื่อง การพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะ คำสันธาน คำบุพบทและคำอุทาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยมีการออกแบบสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ การสอนโดยให้นักเรียนลงมือปฏิบัติให้คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น โดยผ่านกิจกรรม Active Learning มีการออกแบบ การจัดการเรียนรู้ที่สามารถแก้ไขปัญหาในการจัดการเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนมีความรู้ด้วยตนเองและพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ให้สูงขึ้น
ผลการปฏิบัติงาน
ผู้เรียนร้อยละ 100 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน สูงกว่าระดับ ที่คาดหวังคือ ร้อยละ 70 (ปฏิบัติได้สูงกว่าระดับที่คาดหวัง 4 คะแนน)
ผู้เรียนร้อยละ 100, 90.00, 100 มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การอ่าน การคิดวิเคราะห์ การเขียน และสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน อยู่ในระดับ ดี ขึ้นไป สูงกว่าที่คาดหวัง คือ ร้อยละ 70 (ปฏิบัติได้สูงกว่าระดับที่คาดหวัง 4 คะแนน)
ข้าพเจ้ามีการริเริ่ม คิดค้น และพัฒนานวัตกรรม การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่สามารถแก้ไขปัญหาในการจัดการเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพ เรียนรู้และทำงานร่วมกัน มีกระบวนการคิดและค้นพบองค์ความรู้ด้วยตนเอง และสร้างแรงบันดาลใจ และเป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้นวัตกรรม เรื่อง การพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะ คำสันธาน คำบุพบทและคำอุทาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เน้นวิธีการปฏิบัติและมีความหลากหลาย สอดคล้องกับสาระ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดและจุดประสงค์การเรียนรู้ในแผนการจัดการเรียนรู้ มีการอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ และส่งเสริมผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพ เรียนรู้และทำงานร่วมกัน โดยมีการปรับประยุกต์ให้สอดคล้องกับความแตกต่างของผู้เรียน
พัฒนาและออกแบบสื่อการเรียนรู้ สำหรับใช้ประกอบการจัดการเรียนการสอน โดยใช้รูปแบบการสอนแบบออนไลน์ (Online) , ออนแฮนด์ (On-hand) และ Onsite เพื่อปรับประยุกต์ให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยมีการพัฒนาสื่อการสอน ตลอดจนใช้ช่องทางเทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอนและติดต่อสื่อสาร ระหว่างภาคีเครือข่าย องค์การในสถานศึกษา คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง และนักเรียน เช่น Zoom , Line , Google Meet , Google Form , Google Drive เป็นต้น
การวัดประเมินผลผู้เรียนครอบคลุมทุกด้าน ทั้งในด้านพุทธิพิสัย หรือด้านความรู้ (K), ด้านทักษะพิสัยหรือด้านทักษะ (P), และด้านเจตพิสัยหรือด้านเจตคติ (A) โดยใช้แบบทดสอบก่อนเรียน, แบบทดสอบหลังเรียน, แบบประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม และแบบประเมินผลคุณลักษณะอันพึงประสงค์
กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning จึงเป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างสรรค์ทางปัญญา (Constructivism) ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้มากกว่าเนื้อหาวิชา เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ หรือสร้างความรู้ให้เกิดขึ้นในตนเอง ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงผ่านสื่อหรือกิจกรรมการเรียนรู้ ที่มีครูผู้สอนเป็นผู้แนะนำ กระตุ้น หรืออำนวยความสะดวก ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ขึ้น โดยกระบวนการคิดขั้นสูง กล่าวคือ ผู้เรียนมีการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการประเมินค่าจากสิ่งที่ได้รับจากกิจกรรมการเรียนรู้ ทำให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีความหมายและนำไปใช้ในสถานการณ์อื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลักษณะของการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning เป็นดังนี้
๑. เป็นการเรียนการสอนที่พัฒนาศักยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด การแก้ปัญหา และการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
๒. เป็นการเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้สูงสุด
๓. ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้และจัดกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง
๔. ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนทั้งในด้านการสร้างองค์ความรู้ การสร้างปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน ร่วมมือกันมากกว่าการแข่งขัน
๕. ผู้เรียนเรียนรู้ความรับผิดชอบร่วมกัน การมีวินัยในการทำงาน และการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ
๖. เป็นกระบวนการสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนอ่าน พูด ฟัง คิดอย่างลุ่มลึก ผู้เรียนจะเป็นผู้จัดระบบการเรียนรู้ด้วยตนเอง
๗. เป็นกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นทักษะการคิดขั้นสูง
๘. เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนบูรณาการข้อมูลข่าวสาร หรือสารสนเทศ และหลักการความคิดรวบยอด
๙. ผู้สอนจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง
๑๐. ความรู้เกิดจากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้ และการสรุปทบทวนของผู้เรียน
ผลการปฏิบัติงาน
ผู้เรียนร้อยละ 100 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน สูงกว่าระดับ ที่คาดหวังคือ ร้อยละ 70 (ปฏิบัติได้สูงกว่าระดับที่คาดหวัง 4 คะแนน)
ผู้เรียนร้อยละ 100, 90.00, 100 มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การอ่าน การคิดวิเคราะห์ การเขียน และสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน อยู่ในระดับ ดี ขึ้นไป สูงกว่าที่คาดหวัง คือ ร้อยละ 70 (ปฏิบัติได้สูงกว่าระดับที่คาดหวัง 4 คะแนน)
1.4 สร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้
ข้าพเจ้ามีการริเริ่ม คิดค้น และพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ สามารถแก้ไขปัญหาในการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ ทำให้ผู้เรียนมีทักษะการคิด และสามารถสร้างนวัตกรรมได้ และเป็นแบบอย่างที่ดีในการสร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้ โดยได้ดำเนินการสร้างและพัฒนาสื่อการเรียนการสอนโดยใช้โดยใช้นวัตกรรม เรื่อง การพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะ คำสันธาน คำบุพบทและคำอุทาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เพื่อใช้ประกอบเนื้อหาในการจัดการเรียนรู้ โดยมุ่งหวังให้ผู้เรียนได้รับความรู้และวิธีการเรียนรู้ที่หลากหลาย และเกิดผลสัมฤทธิ์ตรงตามเป้าหมายของสถานศึกษาอย่างสูงสุด การจัดทำนวัตกรรมเรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านสะกดคำมาตราตัวสะกดโดยใช้ชุดการเรียนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เพื่อแก้ปัญหาการอ่านสะกดคำของนักเรียนที่บกพร่องทางการเรียนรู้ ทั้งนี้ได้เผยแพร่สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี ในรูปออนไลน์ มีการนำเสนอ Platform หลายรูปแบบ ทั้ง E-book และจัดทำเป็นรูปเล่ม
ผลการปฏิบัติงาน
ผู้เรียนร้อยละ 100 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาไทย ระดับ มาก ขึ้นไป สูงกว่าระดับ ที่คาดหวังคือ ร้อยละ 70 (ปฏิบัติได้สูงกว่าระดับที่คาดหวัง 4 คะแนน)
ผู้เรียนร้อยละ 100, 90.00, 100 มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การอ่าน การคิดวิเคราะห์ การเขียน และสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน อยู่ในระดับ ดี ขึ้นไป สูงกว่าที่คาดหวัง คือ ร้อยละ 70 (ปฏิบัติได้สูงกว่าระดับที่คาดหวัง 4 คะแนน)
คลิปวิดีทัศน์ สาธิตการเล่นเกมเศรษฐีเรื่องคำกริยา
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
คลิปวิดีทัศน์ สาธิตการเล่นเกมชนิดคำหรรษา
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ข้าพเจ้ามีการริเริ่ม คิดค้น และพัฒนารูปแบบการวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตามสภาพจริง ด้วยวิธีการที่หลากหลายเหมาะสม และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ และนำผลการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ มาใช้แก้ไขปัญหาการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และเป็นแบบอย่างที่ดีในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ โดยได้ดำเนินการสร้างและพัฒนาเครื่องมือเพื่อใช้ในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้อย่างหลากหลาย และครอบคลุมทั้งด้านพุทธิพิสัยหรือด้านความรู้ (K), ด้านทักษะพิสัยหรือด้านทักษะ (P) และด้าน เจตพิสัยหรือด้านเจตคติ (A) โดยใช้แบบทดสอบก่อนเรียน, แบบทดสอบหลังเรียน, แบบประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม และแบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สอดคล้องกับสาระ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้ และจุดประสงค์การเรียนรู้ นำผลประเมินมาใช้ในการส่งเสริมหรือปรับปรุงแก้ไขการเรียนรู้ของผู้เรียน ส่งผลทำให้นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์การอ่าน การเขียน คิดวิเคราะห์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนที่ดีขึ้น สะท้อนพัฒนาการของผู้เรียนที่ดีขึ้น
ผลการปฏิบัติงาน
ผู้เรียนร้อยละ 100 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน สูงกว่าระดับ ที่คาดหวังคือ ร้อยละ 70 (ปฏิบัติได้สูงกว่าระดับที่คาดหวัง 4 คะแนน)
ผู้เรียนร้อยละ 100, 90.00, 100 มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การอ่าน การคิดวิเคราะห์ การเขียน และสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน อยู่ในระดับ ดี ขึ้นไป สูงกว่าที่คาดหวัง คือ ร้อยละ 70 (ปฏิบัติได้สูงกว่าระดับที่คาดหวัง 4 คะแนน)
ข้าพเจ้ามีการศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน และนำผลการศึกษา มาวิเคราะห์ สังเคราะห์ และแก้ไขปัญหานักเรียนที่ขาดทักษะทางภาษา และพัฒนาการเรียนรู้ภาษาไทยให้มีคุณภาพ และพัฒนาผู้เรียนได้ตรงจุด
ผลการปฏิบัติงาน
ผู้เรียนร้อยละ 100 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน สูงกว่าระดับ ที่คาดหวังคือ ร้อยละ 70 (ปฏิบัติได้สูงกว่าระดับที่คาดหวัง 4 คะแนน)
ผู้เรียนร้อยละ 100, 90.00, 100 มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การอ่าน การคิดวิเคราะห์ การเขียน และสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน อยู่ในระดับ ดี ขึ้นไป สูงกว่าที่คาดหวัง คือ ร้อยละ 70 (ปฏิบัติได้สูงกว่าระดับที่คาดหวัง 4 คะแนน)
ข้าพเจ้ามีการริเริ่ม คิดค้น และพัฒนาการจัดบรรยากาศที่เหมาะสม สอดคล้องกับความแตกต่าง ผู้เรียนเป็นรายบุคคล สามารถแก้ไขปัญหาการเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจ ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้เกิดกระบวนการคิด ทักษะชีวิต ทักษะการทำงาน ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี และเป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน โดยได้ดำเนินการจัดสภาพแวดล้อม บรรยากาศในชั้นเรียนที่ส่งเสริมและเอื้อต่อการเรียนรู้ กระตุ้นความสนใจใฝ่รู้ ใฝ่ศึกษา อบรม บ่มนิสัย ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการคิด จากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ทักษะชีวิตจากการให้ผู้เรียนได้ลงมือคิด ดำเนินกิจกรรม และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ทักษะการทำงาน จากการปฏิบัติกิจกรรมที่มอบหมายทั้งลักษณะงานเดี่ยวและกระบวนการทำงานเป็นกลุ่ม เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดทักษะและ
กระบวนการคิด ในการเรียนรู้อย่างสูงสุด ส่งผลให้ผู้เรียนมีความสุขในการเรียน
ผลการปฏิบัติงาน
ผู้เรียนร้อยละ 100 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาไทย ระดับ มาก ขึ้นไปสูงกว่าระดับที่คาดหวังคือ ร้อยละ 70 (ปฏิบัติได้สูงกว่าระดับที่คาดหวัง 4 คะแนน)
ภาพการประเมินห้องเรียนคุณภาพ ปีการศึกษา 2566
ภาพการประเมินห้องเรียนคุณภาพ ปีการศึกษา 2566
ข้าพเจ้ามีการอบรมคุณธรรม จริยธรรม ผ่านกิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมการเยี่ยมบ้านนักเรียน อบรมนักเรียนผ่านช่องสัญญาณทรูปลูกปัญญา นักเรียนสามารถรับชมได้ทางโทรทัศน์ในแต่ละห้องเรียน ริเริ่ม คิดค้น พัฒนารูปแบบการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ คำนึงถึงความแตกต่างของผู้เรียนเป็นรายบุคคล และสามารถแก้ไขปัญหาและพัฒนาผู้เรียนได้ เป็นแบบอย่างที่ดีในการอบรมและพัฒนาคุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน โดยได้ปลูกฝังค่านิยม และคุณลักษณะที่ดี เหมาะสมกับผู้เรียนให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้เรียนมีค่านิยมที่ดีงาม ตลอดจนการส่งเสริมให้ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมเนื่องในวันสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาที่ตนนับถือ สถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งที่โรงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดความมั่นใจในการพัฒนาตนเองเต็มตามศักยภาพ เพื่อค้นหาความถนัดและความชอบของตน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและความสุขของผู้เรียนเป็นสำคัญ
ผลการปฏิบัติงาน
ผู้เรียนร้อยละ 100 มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์อยู่ในระดับดีขึ้นไป สูงกว่าระดับที่คาดหวังคือ ร้อยละ 80 (ปฏิบัติได้สูงกว่าระดับที่คาดหวัง 4 คะแนน)