ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทาย
ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทาย
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
ความท้าทายการศึกษาในศตวรรษที่ 21 ในการเตรียมผู้เรียนให้มีความพร้อมกับการมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เป็นเรื่องสำคัญของการปรับเปลี่ยนของสังคมที่ส่งผลต่อวิถีการดำเนินชีวิต ครูจึงจำเป็นต้องตื่นตัวและเตรียมความพร้อมในการจัดการเรียนรู้ เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้เรียน มีทักษะสำหรับการนำไปดำรงชีวิตในยุคปัจจุบัน (3R8C) แนวคิดและหลักการของการจัดการเรียนการสอนที่ท้าทายการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 คือ การสอนที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะในการดำรงชีวิต ครูผู้สอนต้องมีคุณสมบัติมากกว่าทำหน้าที่ในการสอน (Instructor) ครูผู้สอนต้องมีลักษณะของผู้ที่มีความสามารถในการชี้แนะการเรียนรู้ (Learning Coaching) ที่สามารถนำผู้เรียนไปสู่โลกแห่งการเรียนรู้ที่ผู้เรียนจะต้องเกิดการเรียนรู้จากการมีส่วนร่วมและเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง (Active Learning)
จากสถานการณ์โลกมีการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสังคมและเทคโนโลยี ระบบการศึกษาจึงต้องมีการพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะความเป็นจริงทั้งครูและผู้เรียนจำต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการเรียนการสอนเพื่อมุ่งไปสู่ผลสัมฤทธิ์ตามทักษะการเรียนรู้ผู้เรียนมีความสามารถในการเรียนรู้ได้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องและแสวงหาความรู้อยู่ตลอดเวลา ครูต้องเปลี่ยนจากการสอนแบบเดิมด้วยการ “พูด บอก เล่า” เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ปรับเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้ชี้แนะวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นบทบาทและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเองอย่างมีความหมาย ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพในการปรับปรุงกระบวนการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย AI สามารถนำมาใช้เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล (Personalized Learning) ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ AI ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อระบุจุดอ่อนของนักเรียน และเสนอแนวทางปรับปรุงที่เหมาะสมได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาของผู้เรียนได้
การเรียนการสอนในรายวิชาการงานอาชีพ เป็นวิชาที่มุ่งสร้างให้ผู้เรียนเกิดทักษะในด้านอาชีพ ซึ่งเป็นทักษาหนึ่งที่สำคัญในศตวรรษที่ 21 ดังนั้นกลุ่มสาระการงานอาชีพ จึงจำเป็นต้องมุ่งส่งเสริมพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้เกิดทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เน้นการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำเพื่อให้นักเรียนเกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับทักษะอาชีพ สามารถนำองค์ความรู้มาเชื่อมโยงกันในแต่ละสาระการเรียนรู้นำไปสู่การระยุกต์ใช้ได้จริงให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนให้สูงขึ้น จากความสำคัญดังกล่าวข้างต้นโรงเรียนเพ็ญพิทยาคม ได้ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนให้นักเรียนโรงเรียนเพ็ญพิทยาคม มีทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 ข้าพเจ้าจึงมีแนวคิดในการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านการลงมือทำและจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในรายวิชาการงานอาชีพ เพื่อมุ่งพัฒนานักเรียนทุกคน ซึ่งเป็นกำลังของชาติให้เป็นมนุษย์ที่มีความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม และสามารถพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพเกิดทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 คือ มีทักษะอาชีพ ทักษะการแสวงหาความรู้ ทักษะการคิด ทักษะการวิเคราะห์และทักษะการแก้ปัญหาผ่านกระบวนการจัดการเรียนการสอนด้วยการพัฒนาทักษะอาชีพของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 กับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) ด้วยรูปแบบ Lesson Study และวิธีแบบเปิด Open Approach โดยการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาปรับใช้ในการจัดการเรียนรู้ใน เรื่อง การเขียนแบบ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
วิธีการดำเนินการให้บรรลุผลสามารถดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้
2.1. วิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐานและหลักสูตรสถานศึกษา
2.2. จัดทำแผนการเรียนรู้ เรื่อง การเขียนแบบ โดยกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยรูปแบบ Lesson Study และวิธีแบบเปิด Open Approach ซึ่งมีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาปรับใช้ โดยการวิเคราะห์ความเหมาะสมของเนื้อหาและกำหนดเนื้อหาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
2.3. จัดเตรียมสื่อการเรียนรู้ที่ใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้ซึ่งมีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาปรับใช้ในการออกแบบสื่อการเรียนการสอนตลอดจนการเรียนรู้ของนักเรียน
2.4. จัดทำเครื่องมือวัดผล ประเมินผล ได้แก่ แบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบหลังเรียน แบบประเมินชิ้นงาน แบบประเมินทักษะการทำงาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์โดยมีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาปรับใช้
2.5. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ โดยให้ครูผู้เชี่ยวชาญในกลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ หัวหน้ากลุ่มสาระ คณะครูกลุ่มสาระช่วยกันตรวจสอบความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ และเครื่องมือ พร้อมทั้งเสนอแนะ และร่วมนิเทศการเรียนการสอนพร้อมกับฝ่ายบริหารเพื่อปรับปรุงแก้ไข
2.6. ประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยการถามตอบ สังเกตพฤติกรรมในการทำงาน
2.7. ประเมินผลสัมฤทธิ์หลังเรียน เรื่องการถนอมอาหาร ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยการ ดูจากชิ้นงานของนักเรียน ดูชิ้นงาน ขั้นตอนการทำงาน ทักษะในการทำงานและ แบบทดสอบหลังเรียน
2.8. นำแผนการจัดการเรียนรู้มาปรับปรุงหรือพัฒนา สื่อและเครื่องมือการวัดผลและประเมินผลให้มี คุณภาพมากขึ้นตามผลสะท้อนของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่อไป
จากวิธีการดำเนินการให้บรรลุผลดังกล่าวข้างต้นสามารถสรุปเป็นขั้นตอนได้ดังภาพ
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยกระบวนการพัฒนาทักษะอาชีพของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 กับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) ด้วยรูปแบบ Lesson Study และวิธีแบบเปิด Open Approach โดยการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาปรับใช้ในการจัดการเรียนรู้ใน เรื่อง การเขียนแบบ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีผลการประเมินชิ้นงานผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 75 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด
ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ สามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง และสมารถนำความรู้ที่เกิดจาก ประสบการณ์มาใช้ในการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ มีทักษะกระบวนการทำงานนำความรู้ที่ได้ ไปต่อยอดใช้ในชีวิตประจำวันได้เกิดการพัฒนาทักษะอาชีพของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21
สรุปผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวังตามประเด็นท้าทาย
กระบวนการและวิธีการดำเนินการ
2. ผลลัพธ์การพัฒนา
2.1 ผลลัพธ์เชิงปริมาณ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้เรียนรู้ผ่านกระบวนการพัฒนาทักษะอาชีพในศตวรรษที่ 21 ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้รูปแบบ Lesson Study และวิธีแบบ Open Approach รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนเรื่อง "การเขียนแบบ" มีผลการประเมินชิ้นงาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 86.23 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด
2.2 ผลลัพธ์เชิงคุณภาพ
ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจและสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเองนอกจากนี้ยังสามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปใช้ในการแก้ไขปัญหา ที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ต่างๆ ได้ โดยการจัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบ Lesson Study และวิธีแบบ Open Approach ช่วยพัฒนาทักษะกระบวนการทำงานและส่งเสริมให้ผู้เรียนนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ซึ่งเสามารถแยกประเด็นได้ ดังนี้
1) ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเองอย่างมีความหมาย ผู้เรียนเปลี่ยนจากการรับความรู้แบบเดิมที่เน้นการฟังครูบรรยายไปสู่การมีส่วนร่วมและลงมือปฏิบัติจริง (Active Learning) กระบวนการนี้จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถสร้างความรู้ได้ด้วยตัวเองและสามารถนำความรู้ที่ได้จากประสบการณ์จริงไปใช้ในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆ ได้
2) พัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 การจัดการเรียนการสอนช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดทักษะที่สำคัญสำหรับการดำรงชีวิตในยุคปัจจุบัน ได้แก่ ทักษะอาชีพ ทักษะการแสวงหาความรู้ ทักษะการคิด ทักษะการวิเคราะห์ และทักษะการแก้ปัญหา นอกจากนี้ การนำ AI มาใช้จะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล (Personalized Learning) และช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาได้แบบ Real-time
3) ความรู้เชื่อมโยงและนำไปใช้ได้จริง ผู้เรียนจะมีความเข้าใจในทักษะอาชีพ และสามารถนำความรู้ที่ได้รับมาเชื่อมโยงกันในแต่ละสาระการเรียนรู้ ผลที่ได้คือผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด