ผู้จัดทำข้อตกลง
ผู้จัดทำข้อตกลง
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
สถานศึกษา โรงเรียนเพ็ญพิทยาคม
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุดรธานี
ส่วนที่ 1
ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่ง
1. ภาระงาน จะมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
- รายวิชาวิทยาศาสตร์ 3 จำนวน 3.32 ชั่วโม/สัปดาห์
- รายวิชาฟิสิกส์ 3 จำนวน 9.96 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กิจกรรมชุมนุม จำนวน 0.83 นาที/สัปดาห์
- กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี จำนวน 1.66 นาที/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 8 ชั่วโมง / สัปดาห์
- งานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กิจกรรมโฮมรูม จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
- เวรประจำวัน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 2 ชั่วโมง / สัปดาห์
- เจ้าหน้าที่งานกลุ่มบริหารงานบุคคล จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
•─────────• ✨ •─────────•
รวมภาระงาน จำนวน 30.77 ชั่วโมง/สัปดาห์
• ────── ✾ ────── •
- รายวิชาวิทยาศาสตร์ 4 จำนวน 9.96 ชั่วโม/สัปดาห์
- รายวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ (ฟิสิกส์) จำนวน 3.32 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 4 ชั่วโมง 40 นาที/สัปดาห์
- งานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กิจกรรมหน้าเสาธง โฮมรูม จำนวน 1.4 ชั่วโมง/สัปดาห์
- เวรประจำวัน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 8 ชั่วโมง / สัปดาห์
- การมีส่วนร่วมชุมชนการเรียนรู้ จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- การจัดทำสื่อการเรียนการสอน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- การจัดทำหลักสูตรการวัดและประเมินผล จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
•─────────• ✨ •─────────•
รวมภาระงาน จำนวน 25.68 ชั่วโมง/สัปดาห์
• ────── ✾ ────── •
- รายวิชาวิทยาศาสตร์ 3 จำนวน 2.49 ชั่วโม/สัปดาห์
- รายวิชาฟิสิกส์ 3 จำนวน 9.96 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กิจกรรมชุมนุม จำนวน 50 นาที/สัปดาห์
- กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี จำนวน 50 นาที/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 6 ชั่วโมง / สัปดาห์
- งานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กิจกรรมหน้าเสาธง โฮมรูม จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- เวรประจำวัน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 2 ชั่วโมง / สัปดาห์
- เจ้าหน้าที่งานกลุ่มบริหารงานบุคคล จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
•─────────• ✨ •─────────•
รวมภาระงาน จำนวน 26.45 ชั่วโมง/สัปดาห์
• ────── ✾ ────── •
2. งานที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานตำแหน่ง ครู
ด้านการจัดการเรียนรู้
ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้
ด้านการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ
ส่วนที่ 2
ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทาย
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
การจัดการเรียนรู้ในปัจจุบันกำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการศึกษา เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนให้สามารถปรับตัวและเติบโตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการจัดการเรียนรู้จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถยกระดับประสิทธิภาพการเรียนรู้ให้สูงขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ
จากประสบการณ์ในการจัดการเรียนรู้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พบว่านักเรียนส่วนใหญ่ยังขาดทักษะในการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นต่อการประสบความสำเร็จในชีวิต และการทำงานในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิชาวิทยาศาสตร์ที่ต้องอาศัยการคิดอย่างเป็นระบบ และการประยุกต์ใช้ความรู้ในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากเป็นพื้นฐานในการเข้าใจหลักการฟิสิกส์ เคมี ชีวะวิทยาที่ซับซ้อนมากขึ้นในระดับสูง อย่างไรก็ตามมีนักเรียนบางส่วนยังไม่สามารถเข้าใจแนวคิดที่เป็นนามธรรม เช่น ร่างกายมนุษย์, สารละลาย, แรง, พลังงานจลน์, พลังงานศักย์ ซึ่งนำไปสู่ความสับสนและไม่สามารถนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในสถานการณ์ที่หลากหลายได้ อีกทั้งนักเรียนยังขาดโอกาสในการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ และการประยุกต์ใช้ความรู้ในชีวิตจริง ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในยุคดิจิทัล ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ที่คาดหวัง
ในปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพในการปรับปรุงกระบวนการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย AI สามารถนำมาใช้เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล (Personalized Learning) ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ AI ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อระบุจุดอ่อนของนักเรียน และเสนอแนวทางปรับปรุงที่เหมาะสมได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาของผู้เรียนได้
จากสถานการณ์ดังกล่าว การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมการเรียนรู้ในวิชาวิทยาศาสตร์ ที่ต้องใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์และการประยุกต์ใช้ความรู้ การวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ที่นำ AI มาใช้เพื่อช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ของนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้สามารถเรียนรู้และเข้าใจเนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
จากสภาพปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น การวิจัยนี้จึงมีความสำคัญในเชิงการพัฒนาการศึกษา เนื่องจากสามารถเป็นแนวทางในการปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่ต้องการพัฒนาผู้เรียนให้มีความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต อีกทั้งยังสามารถนำผลการวิจัยไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ในวิชาอื่น ๆ ที่ต้องการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้อีกด้วย
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
นักเรียนร้อยละ 70 ผ่านการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถสร้างองค์ความรู้ที่ได้จาการศึกษาค้นคว้า ใช้ AI ช่วยในการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาได้สำเร็จ และสร้างสรรค์ออกมาเป็นผลงานของตนเองได้
นักเรียนได้เรียนรู้ในรูปแบบการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ ฝึกทักษะการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ โดยสามารถนำความรู้และเครื่องมือ AI ไปใช้หาวิธีแก้ปัญหาที่หลากหลาย นักเรียนมีความมั่นใจ เชื่อมั่นในตนเอง และมีทัศนคติที่ดี ต่อการเรียนวิทยาศาสตร์ และเกิดแรงจูงใจใฝ่เรียนรู้จากการใช้เทคโนโลยี AI ในการเรียน
ผลงานนักเรียน