ข้าพเจ้าได้ดำเนินการวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สาระเทคโนโลยี) มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด เพื่อนำมาจัดทำ คำอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวิชา และหน่วยการเรียนรู้ ในรายวิชาวิทยาการคำนวณ และรายวิชาการออกแบบและเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
วิเคราะห์หลักสูตร : ศึกษาและวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ (ว 4.1, ว 4.2) และตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับระดับชั้น เพื่อทำความเข้าใจเป้าหมายและสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
วิเคราะห์ผู้เรียน : ประเมินความรู้พื้นฐานและทักษะด้านดิจิทัลของผู้เรียนเป็นรายบุคคล นำมาเป็นข้อมูลในการออกแบบกิจกรรม
ออกแบบหน่วยการเรียนรู้ : จัดทำหน่วยการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับตัวชี้วัด โดยบูรณาการเนื้อหากับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น พื้นฐานการคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking),การประยุกต์ใช้ความรู้ด้านวิทยาการข้อมูล (Data Science), การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล,การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี, การสร้างสรรค์แอปพลิเคชัน/เว็บไซต์ หรือโครงงานคอมพิวเตอร์ที่เกิดจากความสนใจของผู้เรียน, ตระหนักถึงผลกระทบของเทคโนโลยี กฎหมาย และจริยธรรมดิจิทัล , การเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตจริง, และการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม โดยเน้น การเรียนรู้แบบเรียงลำดับจากง่ายไปยาก (Scaffolding)
ปรับปรุงรายวิชาให้ทันสมัย : นำเนื้อหาที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกเทคโนโลยี เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning), การตระหนักรู้ข่าวปลอม (Fake News), ความปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity) มาสอดแทรกในหน่วยการเรียนรู้ เพื่อให้นักเรียนเห็นภาพการประยุกต์ใช้จริงในปัจจุบัน
าพเจ้าได้ออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Student-Centered Learning) และส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยเน้นการลงมือปฏิบัติจริง (Learning by Doing) เพื่อพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking) และทักษะการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ ดังนี้
Unplugged Coding : กิจกรรมที่ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เพื่อสอนหลักการคิดเชิงคำนวณและอัลกอริทึม เช่น เกมบัตรคำสั่ง, การวางแผนผ่านผังงานบนกระดาษ เพื่อสร้างความเข้าใจในแนวคิดหลักก่อนลงมือเขียนโค้ดจริง
Problem-based Learning (PBL) : ตั้งโจทย์ปัญหาจากสถานการณ์จริงให้นักเรียนแต่ละกลุ่มระดมสมอง วิเคราะห์ และออกแบบวิธีการแก้ปัญหาด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์
Pair Programming : ให้นักเรียนจับคู่กันเขียนโปรแกรม โดยคนหนึ่งเป็นผู้พิมพ์ (Driver) และอีกคนเป็นผู้นำทาง/ตรวจสอบ (Navigator) สลับบทบาทกันไป เพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกัน การสื่อสาร และการตรวจสอบความถูกต้องของโค้ด
ข้าพเจ้าได้ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างหลากหลาย ใช้รูปแบบการสอนแบบ Active Learning โดยการลงมือปฏิบัติ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์ แก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการกําหนดกิจกรรมและการประเมินผลการเรียนรู้ เช่น การให้เพื่อนช่วยเหลือเพื่อน กระบวนการทํางานเป็นกลุ่มหรือเป็นทีม ผ่านการพัฒนาโครงงาน การศึกษาค้นคว้า การรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ออกแบบระบบ การนำเสนอและเผยแพร่โครงงาน
ข้าพเจ้าใช้เทคโนโลยีการศึกษาทําให้การเรียนการสอน และพัฒนาสื่อการสอนที่ทันสมัย เข้าถึงง่าย และสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้เรียนในยุคดิจิทัล เพื่อลดข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่ในการเรียนรู้ ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Google Drive, Gmail, Cloud Computing, AI มาช่วยจัดการเรียนการสอนในรายวิชา เป็นต้น
สื่อและนวัตกรรมที่สร้าง/พัฒนา:
สื่อวิดีโอการสอน : จัดทำคลิปวิดีโอสั้นๆ อธิบายเนื้อหายากๆ หรือสาธิตการใช้เครื่องมือ/โปรแกรมต่างๆ แล้วอัปโหลดบนช่องทางออนไลน์ที่ Google Classroom เพื่อให้นักเรียนสามารถทบทวนได้ตลอดเวลา
สื่อปฏิสัมพันธ์ (Interactive Media): ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Kahoot!, Quizizz, Google Form, Canva ในการสร้างเกมและแบบทดสอบเพื่อทบทวนความรู้และสร้างความสนุกสนานในชั้นเรียน
ห้องเรียนออนไลน์ (Google Classroom): ใช้เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมสื่อการสอน ใบงาน แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม ส่งและตรวจงานออนไลน์ รวมถึงเป็นช่องทางในการสื่อสารและตอบข้อซักถามนอกเวลาเรียน
แหล่งเรียนรู้ Programming Online: รวบรวมและแนะนำเว็บไซต์สำหรับฝึกฝนการเขียนโค้ด เช่น Code.org, Replit, Scratch, https://contentcenter.obec.go.th/ เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกฝนเพิ่มเติมตามความถนัดและความสนใจ
ข้าพเจ้าใช้วิธีการที่หลากหลาย จัดทำแบบวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับแผนการจัดประสบการณ์ โดยเน้นการปฏิบัติ ตามใบกิจกรรมต่างๆและส่งชิ้นงาน เพื่อวัดประเมินผลตามชิ้นงานนั้นๆ ในส่วนคนที่ยังไม่ทำ จะให้ทำส่งเช่นกันโดยให้เพื่อนช่วยเหลือเพื่อน การพูดคุยถามตอบ การสังเกตจากใบงาน/ชิ้นงาน เพื่อให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ประเมินให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง มีการนำผลการประเมินมาช่วยเหลือ แก้ปัญหา เพื่อส่งเสริมผู้เรียนตามศักยภาพของแต่ละบุคคล
ข้าพเจ้าพูดจาใช้น้ำเสียงปกติ ไม่ดุด่า และไม่พูดด้อยค่าผู้เรียน พูดชัดเจนด้วยความสุภาพ จัดมุมต่างๆ ภายในห้องเรียนด้วยข้อมูล ความรู้ ผลงานเด็ก มีมุมหนังสือ มประสบการณ์ต่างๆ ที่ปรับเปลี่ยนตาม ฤดูกาล หรือเทศกาล เพื่อให้สอดคล้องกับกาลเวลาที่เด็กสนใจ ห้องเรียนมีสะอาดปราศจากเชื้อโรค มีการจัดตกแต่งห้องเรียนใหม่ให้น่าอยู่เสมือนบ้าน ห้องเรียนสะอาด อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีสิ่งของอันตราย โดยเน้นความปลอดภัยของนักเรียน
นักเรียนมีความรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย เช่น เก็บของเข้าที่ได้เอง แบ่งปันสิ่งของให้เพื่อน เก็บขยะด้วยตนเอง ทิ้งขยะลงถัง กวาดพื้น มีจิตอาสา เก็บขยะพื้นที่บริการ มีการอบรมบ่มนิสัยให้นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม เช่น ทำบุญในวันพระ ร่วมกิจกรรมวันสำคัญทางศาสนา