การแก้ไขและป้องกันเชิงระบบ
การความคุมระบบความปลอดภัยในสถานศึกษา เพื่อไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางร่างกายและจิตใจของนักเรียนและครูโดยตรง
✅ แนวทางการแก้ไขและป้องกันเชิงระบบ
เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ควรดำเนินการใน 3 ระดับดังนี้
🧱 1. ระดับสถานศึกษา
📍ด้านกายภาพและระบบป้องกัน
ติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) รอบโรงเรียน/บ้านพักครู และจุดอับ
เพิ่มแสงสว่างรอบบ้านพัก เพื่อป้องกันจุดลับสายตา
จัดทำรั้ว/ประตูบ้านพักครูให้แน่นหนา พร้อมกลอนล็อกสองชั้น
ประสานฝ่ายปกครองท้องถิ่น/อปพร. ให้มีสายตรวจเข้ามาตรวจตราในเวลากลางคืน
📍ด้านบุคลากร
จัดให้ครูอยู่รวมกันมากกว่าหนึ่งคน ไม่ปล่อยให้ครูหญิงอยู่คนเดียวในบ้านพัก
มีกลุ่มไลน์/กลุ่มฉุกเฉิน เพื่อแจ้งเหตุด่วนให้ถึงผู้อำนวยการ/ตำรวจท้องที่
อบรมความรู้ด้านการเอาตัวรอด/การป้องกันภัย ให้ครูและนักเรียน
🧑⚖️ 2. ระดับพื้นที่/ชุมชน
ตั้งเวรยามหมู่บ้าน หรือเวรยามร่วมระหว่างชุมชนกับโรงเรียน
รณรงค์ให้ชุมชนมีส่วนร่วมสอดส่องผู้เสพ/ผู้ค้า/บุคคลน่าสงสัย โดยไม่ละเมิดสิทธิ
แจ้งเบาะแสยาเสพติดผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386 หรือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
รณรงค์ "โรงเรียนปลอดยาเสพติด" ขยายสู่แนวคิด "ชุมชนปลอดยาเสพติด"
🏛️ 3. ระดับนโยบาย
กระทรวงศึกษาธิการและเขตพื้นที่ฯ ควรสนับสนุนงบประมาณ สำหรับติดตั้งระบบความปลอดภัยในโรงเรียนที่มีบ้านพักครู
ผลักดันให้มี "นโยบายดูแลครูในพื้นที่เสี่ยง" โดยเฉพาะครูที่อยู่คนเดียว
บูรณาการกับตำรวจ ปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ให้เกิดเครือข่ายร่วมดูแล
🚨 สิ่งที่ครูควรทำในเบื้องต้น (เมื่อเผชิญเหตุ)
อย่าปะทะหรือต่อสู้กับผู้บุกรุกโดยตรง (โดยเฉพาะผู้เมายา)
ใช้เสียง/ไฟฉาย/โทรศัพท์เป็นเครื่องมือเบี่ยงเบน
รีบโทรแจ้ง 191 หรือแจ้งผ่านแอป “Police ”
หากอยู่คนเดียว ควรติดต่อครูใกล้เคียง หรือผู้อำนวยการทันที
✍️ สรุป
“เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่เรื่องของครู หรือโรงเรียน แต่เป็นภาพสะท้อนความเปราะบางของความปลอดภัยในชุมชน”
การป้องกันจึงต้องใช้แนวทาง “โรงเรียนปลอดภัย-ชุมชนเป็นมิตร-นโยบายหนุนเสริม” เท่านั้นจึงจะยั่งยืน