การเตรียมแผนเผชิญเหตุแผ่นดินไหว

     แผนเผชิญเหตุแผ่นดินไหว  ในสถานศึกษา เป็นเรื่องสำคัญเพื่อปกป้องชีวิตของนักเรียน ครู และบุคลากร รวมถึงลดความเสียหายของอาคารสถานที่ต่าง ๆ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ดังนี้:


🔹 1. ก่อนเกิดเหตุ (การเตรียมความพร้อม)

✅ 1.1 จัดทำแผนเผชิญเหตุแผ่นดินไหว

 • แต่งตั้งคณะกรรมการ/ทีมปฏิบัติการเผชิญเหตุ

 • จัดทำแผนขั้นตอนการอพยพ การติดต่อ การช่วยเหลือ และการปฐมพยาบาล

 • กำหนด “จุดรวมพล” ให้ชัดเจน

✅ 1.2 ให้ความรู้และฝึกอบรม

 • จัดอบรมให้ครู บุคลากร นักเรียน เข้าใจเรื่องแผ่นดินไหว

 • สอนวิธีปฏิบัติตนขณะเกิดเหตุ เช่น “หมอบ-คลาน-กำบัง”

 • ฝึกซ้อมแผนอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง (มีการจำลองสถานการณ์จริง)


✅ 1.3 ตรวจสอบอาคารและสิ่งแวดล้อม

 • ตรวจสอบความแข็งแรงของอาคารตามมาตรฐานกรมโยธาธิการฯ

 • จัดเก็บสิ่งของหนัก หรือติดตั้งให้มั่นคง ป้องกันการหล่นทับ

 • จัดให้มีอุปกรณ์ฉุกเฉิน เช่น วิทยุสื่อสาร, ไฟฉาย, ถังดับเพลิง, ชุดปฐมพยาบาล

✅ 1.4 สื่อสารกับผู้ปกครองและชุมชน

 • แจ้งแผนรับมือแผ่นดินไหวแก่ผู้ปกครอง

 • เตรียมช่องทางสื่อสาร เช่น Line กลุ่ม หรือระบบแจ้งเตือนฉุกเฉิน


๑. ควรมีไฟฉายพร้อมถ่านไฟฉาย และกระเป๋ายาเตรียมไว้ในบ้าน

๒. ศึกษาการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

๓. ควรมีเครื่องมือดับเพลิงไว้ในบ้าน

๔. ควรทราบตำแหน่งของวาล์วปิดน้ำ วาล์วปิดก๊าซ สะพานไฟฟ้า สำหรับตัดกระแสไฟฟ้า

๕. อย่าวางสิ่งของหนักบนชั้น หรือหิ้งสูง ๆ เมื่อแผ่นดินไหวอาจตกลงมาเป็นอันตรายได้

๖. ผูกเครื่องใช้หนักๆ ให้แน่นกับพื้นผนังบ้าน

๗. สร้างอาคารบ้านเรือนให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหว


🔸 2. ขณะเกิดเหตุ (การรับมือทันที)

✅ 2.1 ตั้งสติ   ให้นักเรียนและครูปฏิบัติตามขั้นตอน

 • หมอบ-คลาน-กำบัง ใต้โต๊ะ มุมปลอดภัย หรือแนวผนังที่แข็งแรง

 • ไม่วิ่งออกจากอาคารทันที จนกว่าจะสิ้นสุดแรงสั่นสะเทือน

✅ 2.2 รักษาความสงบและความเป็นระเบียบ

 • ครูควบคุมเด็กไม่ให้แตกตื่น

 • หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีของตกหล่น หรือมีอันตรายจากกระจกแตก


๑. อย่าตื่นตกใจ พยายามควบคุมสติอยู่อย่างสงบ

๒. ถ้าอยู่ในบ้านให้ยืนหรือมอบอยู่ในส่วนของบ้านที่มีโครงสร้างแข็งแรง และให้อยู่ห่างจากประตู ระเบียง และหน้าต่าง

๓. หากอยู่ในอาคารสูง ควรตั้งสติให้มั่น หลังจากแผ่นดินไหวหยุดแล้วให้รีบออกจากอาคารโดยเร็ว

๔. ถ้าอยู่ในที่โล่งแจ้ง ให้อยู่ห่างจากเสาไฟฟ้า และสิ่งห้อยแขวนต่างๆ

๕. อย่าใช้ เทียน ไม้ขีดไฟ หรือสิ่งที่ทำให้เกิดประกายไฟ เพราะอาจมีแก๊สรั่วอยู่บริเวณนั้น

๖. ถ้าท่านกำลังขับรถให้หยุดรถและอยู่ภายในรถ จนกระทั่งการสั่นสะเทือนจะหยุด

๗. ห้ามใช้ลิฟท์โดยเด็ดขาดขณะเกิดแผ่นดินไหว

๘. หากอยู่ชายหาดให้อยู่ห่างจากชายฝั่ง เพราะอาจเกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าหาฝั่ง


🔻 3. หลังเกิดเหตุ (การฟื้นฟูและประเมิน)

✅ 3.1 อพยพออกจากอาคารอย่างปลอดภัย

 • ตรวจเช็คความเรียบร้อย และอพยพไปยังจุดรวมพล

 • ใช้เส้นทางอพยพที่ปลอดภัย และหลีกเลี่ยงลิฟต์

✅ 3.2 ตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ

 • เช็คจำนวนครู นักเรียน ว่าครบถ้วนหรือไม่

 • ให้การปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้น

 • แจ้งเหตุไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เช่น ปภ., โรงพยาบาล, ผอ.เขตฯ)

✅ 3.3 ประเมินความเสียหาย

 • ตรวจสอบความเสียหายของอาคาร และอุปกรณ์

 • ปิดใช้อาคารที่ไม่ปลอดภัยทันที

✅ 3.4 ฟื้นฟูจิตใจ

 • ให้การดูแลด้านจิตวิทยา โดยเฉพาะนักเรียนที่หวาดกลัว

 • เชิญนักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญมาช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ


๑. ควรตรวจตัวเองและคนข้างเคียงว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ให้ทำการปฐมพยาบาลขั้นต้นก่อน

๒. ควรรีบออกจากอาคารที่เสียหายทันที

๓. ใส่รองเท้าหุ้มส้นเสมอ เพราะอาจมีเศษแก้ว หรือวัสดุแหลมคมอื่นๆ และสิ่งหักพังแทง

๔. ตรวจสายไฟ ท่อน้ำ ท่อแก๊ส ถ้าแก๊สรั่วให้ปิดวาล์วถังแก๊ส ยกสะพานไฟ อย่าจุดไม้ขีดไฟ

หรือก่อไฟจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีแก๊สรั่ว

๕. ตรวจสอบว่า แก๊สรั่ว ด้วยการดมกลิ่นเท่านั้น ถ้าได้กลิ่นให้เปิดประตูหน้าต่างทุกบาน

๖. ให้ออกจากบริเวณที่สายไฟขาด และวัสดุสายไฟพาดถึง

๗. เปิดวิทยุฟังคำแนะนำฉุกเฉิน อย่าใช้โทรศัพท์ นอกจากจำเป็นจริง ๆ

๘. สำรวจดูความเสียหายของท่อส้วม และท่อน้ำทิ้งก่อนใช้

๙. อย่าเป็นไทยมุงหรือเข้าไปในเขตที่มีความเสียหายสูง หรืออาคารพัง

๑๐. อย่าแพร่ข่าวลือ


✅ ข้อแนะนำเพิ่มเติม:

 • จัดทำ แผ่นพับหรือป้ายประชาสัมพันธ์ แนวทางปฏิบัติ

 • มี ระบบแจ้งเตือนล่วงหน้า หากเป็นไปได้ (เช่น แอปพยากรณ์ภัยพิบัติ)

 • เชื่อมโยงกับหน่วยงานท้องถิ่น เช่น อบต., ปภ., โรงพยาบาล