เรื่องเสมาหลักบ้านบือบ้านหรือศาลหลักบ้านหลักเมือง
ในชุมชนใหญ่เก่าแก่แต่ดั้งเดิมในภาคอีสานจะมีศาลมเหสักข์หลักบ้านหลักเมืองซึ่งมักจะตั้งอยู่กึ่งกลางในใจกลางด้านชุมชน การก่อตั้งและการเติบโตของชุมชนบ้านน้ำปลีกนั้นเริ่มจากหมู่ที่ 1 แล้วขยายเป็นหมู่ที่ 2 เกี่ยวกับที่ตั้งของมือบ้านหรือหลักบ้านน้ำปลีกนั้นมีคำตอบเล่าให้การเป็น 2 สถานที่คือ
1 บือบ้าน ดั้งเดิมอยู่บริเวณในเขตบ้านคุณแม่ชื่น-คุณพ่อสนับ สายวรณ์ คุ้มคุณพ่อสำลี วงละคร
2 บือบ้าน ตั้งอยู่ในเขตบริเวณบ้านของนายกุมลนางอินทร์แปลงดานุวงศ์อยู่คนละฝั่ง ถนนประชาชนบูรณะจากคำบอกเล่ายืนยันของ “คุณพ่อแท่ง ธีระพันธ์” ผู้อาวุโสท่านหนึ่งของชุมชนและเคยอาศัยอยู่บริเวณใกล้กับมือบ้านเก่ามาก่อนที่จะย้ายไปอยู่หมู่ที่ 9 นั้นท่านได้ให้การยืนยันว่าหลักบือบ้านดั้งเดิมนั้นทำมาจากไม้เนื้อแข็งตั้งอยู่บริเวณที่ของบ้านเลขที่ 28 หมู่ 8 ตำบลน้ำปลีก อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อเวลาผ่านไปเนิ่นนานได้มีผุพังลงไปตามกาลเวลาประกอบกับมีการจัดวางปรับผังบ้านครั้งใหญ่ในสมัยของกำนันจันทร์ อินลุเทพ เมื่อมีผู้ยืนยันที่ตั้งมือบ้านเดิมว่าอยู่ในเขตบริเวณบ้านของนายกุมมนดานุวงศ์เช่น นี้ก็เป็นอันยุติและเชื่อได้
คำว่า “บือ” เป็นภาษาถิ่นหมายถึง กึ่งกลางภาษากลางใช้สะดือหรือสายดือเนื่องจากบริเวณพื้นที่ของนายกุมล ดานุวงศ์ ปัจจุบันนั้นเมื่อครั้งอดีตเป็น บริเวณกึ่งกลางของบ้านน้ำปี่ระหว่างหมู่ที่ 1 กับหมู่ที่ 2 ก่อนที่จะแยกออกเป็นหมู่ที่ 8 และหมู่ที่ 9 ในภายหลังเมื่อประชากรในชุมชนเพิ่มมากขึ้นจากนั้นจึงได้มีการเคลื่อนย้ายหลักบ้านหลักเมืองมาไว้ในบริเวณหมู่ที่ 2 ตรงหน้าที่ทำการสำนักงานเทศบาลตำบลน้ำปลีกเดิมซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชนน้ำปลีกด้วยบริเวณนี้เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างหมู่ที่ 1,8 กับหมู่ที่ 2,9 เมื่อปีพ.ศ. 2500 ดังนั้นข้อความในหลักเสมาจารึกบ้านด้านทิศตะวันตกที่เคยนำเสนอมาแล้วโดยมีความเป็นมาดังนี้คณะ ผู้นำหมู่บ้านนำโดยกำนันจันทร์ อินลุเทพ ฝ่ายฆราวาสพระครูบริหารวัฒนกิจในขณะนั้นต่อมาได้ดำรงตำแหน่งเจ้าคุณโพธิญาณมุนีอดีตเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานีฝ่ายธรรมยุตและเจ้าอาวาสวัดสุปัฏวนารามวรวิหารได้อัญเชิญ “หลักเสมา” มาจาก “วัดโนนสำโรง” ชาวบ้านเรียก “วัดโนนส้มโฮง”
ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของหมู่บ้านน้ำปี่ใกล้กับบ้านยางหมู่ที่ 6 บริเวณนั้นมีสภาพเป็นวัดเก่าร้างมาก่อนมีใบเสมาปรากฏอยู่หลายใบทั้งที่ทั้งโผล่พื้นดินและยังอยู่ในดินก็มียังมีบริเวณอื่นๆใกล้เคียงกับบ้านน้ำปลีกมีสถานที่เก่าแก่หลายๆแห่งเช่นโนนเมืองทำพระโนนเมืองหรือกุดซวยโนนหนองบัวโดนวัดห้างหนองวัดป่าบริเวณโรงฆ่าสัตว์และแต่ละแห่งล้วนมีหลักใบเสมาเก่าแก่ทั้งที่สมบูรณ์และผุก่อนตามกาลเวลาปรากฏอยู่แต่ดั้งเดิมทั้งสิ้นและเคยเป็นที่ปฏิบัติธรรม พระผู้เคร่งปฏิบัติมาแล้วสันนิษฐานว่าเป็นเพียงสำนักสงฆ์เท่านั้นจึงไม่ปรากฏจารึกหรือหลักฐานอื่นระบุเป็นชื่อวัดวัดโนนส้มโฮงหรือวัดป่ายางคำหรือวัดทุ่งสิริวิปัสสนารามระยะหนึ่งเคยเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระภิกษุสายพระอาจารย์มั่นมาก่อนคือท่านหลวงปู่สิงห์หนึ่งในเกจิอาจารย์สายธรรมยุตของภาคอีสานซึ่งกำนันจันทร์ อินลุเทพและคุณตาล้อม ทองยศ เคยสนทนาธรรมด้วยเมื่อครั้งที่ท่านมาปฏิบัติธรรมที่วัดโนนส้มโฮงการอัญเชิญหลักเสมานี้มาจากวัดโนนสมบูรณ์ เพื่อให้เป็นศูนย์รวมจิตใจให้กับชาวบ้านน้ำปลีกได้ยึดเหนี่ยวสักการะเป็นหลักชัยหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคลของชาวบ้านน้ำปลีกโดยทำพิธีเมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2500 ได้มีการสลักจารึกเรื่องราวของหมู่บ้านวันเดือนปีที่ทำพิธีอัญเชิญไว้ที่เสมาหลักบ้าน โดยมีคุณพ่อบุญแต่ง รู้ผล เป็นผู้เขียนตัวอักษรมี คุณพ่อใหญ่ จริงวิเศษ เป็นช่างผู้แกะสลักด้วยเหตุนี้ลูกหลานชาวบ้านน้ำปลีกถือ วันที่ 28 มกราคมของทุกปีเป็นวันงานบุญประเพณีที่เรียกว่า “บุญบ้าน”
ข้อมูล เนื้อหา เรื่องราว เขียนโดย นายนิติโชค ธรรมวรีย์
ภาพถ่าย/ภาพประกอบ โดย เทศบาลตำบลน้ำปลีก
อ้างอิงข้อมูลจาก : https://sites.google.com/site/kruyoke/prawati-ban-na-plik/6sema-hlak-ban