การศึกษาค้นคว้าเป็นขั้นตอนในการกำหนดและทำความเข้าใจข้อมูลที่เกี่ยวกับหัวข้อโครงงาน โดยผู้ทำโครงงานจะต้องศึกษาค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวกับหัวข้อนั้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น เอกสารสิ่งพิมพ์ เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ และผู้เชี่ยวชาญ โดยมีแนวทางในการศึกษาค้นคว้าดังนี้
1. การศึกษาโครงงานของผู้อื่น เป็นการศึกษาว่า มีผู้ทำโครงงานนี้มาก่อนหรือไม่ โครงงานดังกล่าวได้ผลอย่างไร หรือมีแนวทางในการทำโครงงานนี้อย่างไร หากโครงงานนี้เป็นโครงงานที่มีผู้อื่นทำไว้แล้ว ผู้ทำโครงงานจะต้องพิจารณาว่าจะทำโครงงานในหัวข้อเดิมด้วยการพัฒนาโครงงานดังกล่าวต่อจากโครงงานที่ผู้อื่นทำไว้หรือไม่ หรือจะเลือกทำโครงงานในหัวข้อใหม่ ซึ่งผู้ทำโครงงานจะต้องกลับไปพิจารณาจากการคัดเลือกหัวข้อโครงงานใหม่
2. การกำหนดหัวข้อย่อย เป็นการกำหนดหัวข้อย่อยที่เกี่ยวกับหัวข้อโครงงานที่เลือก โดยผู้ทำโครงงานอาจจัดทำในรูปแบบของแผนผังความคิดเพื่อให้ครอบคลุมหัวข้อที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
3. การกำหนดแหล่งข้อมูล เมื่อผู้ทำโครงงานได้หัวข้อย่อยเกี่ยวกับโครงงานที่ทำแล้ว ผู้ทำโครงงานจะต้องกำหนดแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวกับหัวข้อย่อยต่างๆ เหล่านั้น โดยหัวข้อย่อย 1 หัวข้ออาจมีแหล่งข้อมูลมากกว่า 1 แหล่ง และแหล่งข้อมูล 1 แหล่งสามารถให้ข้อมูลที่เกี่ยวกับหัวข้อย่อยได้มากกว่า 1 หัวข้อ ดังนั้น ผู้ทำโครงงานอาจสร้างตารางเพื่อระบุแหล่งที่มาของหัวข้อย่อยที่ต้องการค้นหาได้ตัวอย่างต่อไปนี้
4. การกำหนดระยะเวลาและผู้รับผิดชอบ ในการศึกษาค้นคว้า เมื่อผู้ทำโครงงานระบุหัวข้อย่อยและแหล่งข้อมูลที่ต้องการศึกษาค้นคว้าแล้ว ผู้ทำโครงงานควรกำหนดระยะเวลาในการศึกษาค้นคว้าข้อมูลนั้นๆ เพื่อความสะดวกในการดำเนินงาน ร่วมกับเพื่อนๆ ก็ควรระบุผู้รับผิดชอบในการศึกษาค้นคว้า โดยอาจรวมไว้กับตารางการศึกษาค้นคว้า ดังนี้
5. การปฏิบัติการศึกษาค้นคว้า ผู้ทำโครงงานควรศึกษาค้นคว้าตามที่ได้กำหนอไว้ในตารางการศึกษาค้นคว้าให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ผู้ทำโครงงานสามารถปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติได้ตลอดระยะเวลาที่ศึกษาค้นคว้า แต่ก็ควรยึดถือและปฏิบัติตามตารางศึกษาค้นคว้าให้มากที่สุด เพื่อให้ผู้ทำโครงงานและสมาชิกกลุ่มแนวทางในการศึกษาค้นคว้าที่ชัดเจน