ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อมนุษย์ และสังคม
ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อเศรษฐกิจ
ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสิ่งแวดล้อม
ตัวอย่างการวิเคราะห์ผลกระทบของเทคโนโลยี
วิเคราะห์ผลกระทบของเทคโนโลยีทั้งทางด้านบวก และด้านลบที่ส่งผลต่อมนุษย์ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
เสนอแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดจากผลกระทบของเทคโนโลยี
ในการสร้างเขื่อน มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการเก็บกักน้ำ การชลประทานและการป้องกันอุทกภัย รวมถึงผลิตกระแสไฟฟ้า แต่การสร้างเขื่อนก็ก่อให้เกิดการปิดกั้นทางน้ำ ทำให้สิ่งมีชีวิตบางชนิดในน้ำไม่สามารถว่ายขึ้นไปวางไข่ได้ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ และพื้นที่เหนือเขื่อนจมอยู่ใต้น้ำ ทำให้เกิดการทำลายพื้นที่ป่าไม้ ในขณะเดียวกันต้องมีการอพยพประชากรออกจากพื้นที่ ดังนั้น นักพัฒนาจะต้องตัดสินใจและวางแผนการดำเนินงานให้เหมาะสมกับการใช้ประโยชน์ของทรัพยากร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมาเมื่อเกิดการสร้างเขื่อน ที่สำคัญอย่างยิ่งต้องหาวิธีป้องกันและแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นด้วย
นักเรียนควรมีความรู้เดิมเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ซับซ้อน และการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น เมื่อมีปัจจัย เช่น ปัญหาและความต้องการของมนุษย์ สังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ความก้าวหน้าของศาสตร์ต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอาจเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพของเทคโนโลยีที่มีอยู่เดิม หรือสร้างเทคโนโลยีขึ้นมาใหม่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
การดำเนินชีวิตของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน มีความสัมพันธ์และเชื่อมโยงอยู่กับความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี ซึ่งเทคโนโลยีเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจให้มั่นคงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิต อย่างไรก็ตามมนุษย์จำเป็นต้องเตรียมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ การพัฒนา และการสร้างเทคโนโลยี ซึ่งมีทั้งด้านบวกและด้านลบ ดังนั้นในบทนี้ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ถึงผลกระทบที่เกิดจากการใช้ การพัฒนา และการสร้างเทคโนโลยี
ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ในหลายด้าน จึงมีการพัฒนา และการสร้างเทคโนโลยีให้เจริญก้าวหน้าอย่างไ่ม่หยุดยั้ง โดยเทคโนโลยีเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกให้แก่มนุษย์ไม่ว่าจะเป็นด้านการสื่อสาร การคมนาคม การศึกษา การแพทย์ ฯลฯ แต่ถ้ามนุษย์นำเทคโนโลยีไปใช้ในทางที่ผิด เช่น สร้างขีปนาวุธ ระเบิดนิวเคลียร์ สิ่งเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดโทษอย่างร้ายแรง ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้นมนุษย์จึงต้องกระหนักถึงผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบของการใช้ การพัฒนาและการสร้างเทคโนโลยี ซึ่งผลกระทบของเทคโนโลยีสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ดังนี้ ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อมนุษย์และสังคม ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อเศรษฐกิจ และผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสิ่งแวดล้อม
ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมีผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบ เช่น ความเจริญก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุข ทำให้อายุขัยของมนุษย์ยาวขึ้น แม้อยู่ในชนบทก็สามารถได้รับการรักษาทางการแพทย์ได้อย่างทันท่วงที เนื่องจากมีระบบแพทย์ทางไกล (telemedicine) ช่วยให้แพทย์ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลสามารถวางแผนการรักษาร่วมกับแพทย์เฉพาะทาง เมื่อมีจำนวนผู้สูงอายุมากขึ้น ทำให้สังคมกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ (aging scoiety) เพิ่มขึ้น
รูปแสดงจำนวนประชากรผู้สูงอายุ
ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม เช่น หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ มีการนำมาใช้แทนที่มนุษย์ในกิจกรรมที่อันตราย และช่วยทำให้มนุษย์ไม่เสี่ยงกับปัญหาสุขภาพในการทำงาน เช่น การใช้หุ่นยนต์แทนมนุษย์ในขั้นตอนการผลิตที่มีการสูดควันของสารพิษ ในขณะเดียวกันการนำหุ่นยนต์มาช่วยในกระบวนการผลิต ส่งผลให้ชิ้นงานที่ผลิตออกมามีคุณภาพ ตรงตามมาตรฐาน มีประสิทธิภาพสูง และยังสามารถใช้วัตถุดิบให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งเป็นการประหยัดทรัพยากร และลดต้นทุนการผลิต แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ก่อให้เกิดภาวะการว่างงาน เนื่องจากมีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติแทนที่มนุษย์ในอุตสาหกรรมหนัก ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดปัญหาทางสังคมอื่นๆ ตามมา เช่น ปัญหาอาชญากรรม
รูปแสดงความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
รูปแสดงความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ ให้ความสำคัญกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนา และขณะเดียวกันการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก็นำไปสู่การขยายอำนาจของประเทศต่างๆ เพื่อหาแหล่งทรัพยากรใหม่ เทคโนโลยีจึงเป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ สังเกตได้จากประเทศที่มีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีสูง มักเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีบทบาทสำคัญต่อสภาพเศรษฐกิจโลก
ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิต เช่น การมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ช่วยทำให้ประหยัดต้นทุนการผลิต ผลิตสินค้าได้ในปริมาณมาก และสินค้ามีประสิทธิภาพสูง ส่งผลให้มีรายได้จากการผลิตสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น และมีการใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุด เมื่อกลุ่มธุรกิจรายใดมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่ารายอื่น อาจก่อให้เกิดการผูกขาดทางการค้า คือ ไม่มีผู้ผลิตรายอื่นสามารถผลิตสินค้าชนิดเดียวกันมาแข่งขันในตลาดได้
ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีในภาคอุตสาหกรรม ทำให้มีความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้น ในการควบคุมดูแลเครื่องจักรกลทางการผลิต เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้เกิดการจ้างงาน การขยายตัวทางเศรษฐกิจและชุมชนเมือง แต่ในขณะเดียวกันอาจส่งผลให้เกิดปัญหาการย้ายถิ่นฐานของแรงงานจากสังคมชนบทสู่สังคมเมือง เกิดเป็นชุมชนอุตสาหกรรม เช่น นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ทำให้ยากต่อการจัดการทรัพยากรหรือเกิดมชลภาวะได้ นอกจากนี้การนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก หรือพึ่งพาเทคโนโลยีจากประเทศอื่นๆ เพียงอย่างเดียว อาจก่อให้เกิดการเสียดุลทางการค้า ดังนั้นการพัฒนาและการสร้างเทคโนโลยีขึ้นเองจะช่วยให้ประเทศมีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ทำให้ประเทศมีรายได้และมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจมากขึ้น
การพัฒนาและการสร้างเทคโนโลยี ส่งผลให้มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเพิ่มขึ้นอย่างมาก ก่อให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เช่น มลพิษทางดิน น้ำ อากาศ เสียง หรือการปนเปื้อนของสารพิษ แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง มนุษย์สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปรับปรุงธรรมชาติ ให้เหมาะสมต่อการใช้งานและความต้องการของมนุษย์ เช่น โครงการแกล้งดิน
รูปแสดงการแก้ปัญหาดินเปรี้ยว
ในขณะเดียวกันมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบำบัดของเสียจากกระบวนการผลิตในภาคอุตสาหกรรม หรือภาคครัวเรือน เช่น เทคโนโลยีบำบัดน้ำเสีจย เป็นการบำบัดน้ำเสียให้มีสมบัติตามมาตรฐานคุณภาพน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมของกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก่อนปล่อยสู่สิ่งแวดลช้อม และเทคโนโลยีการกรองอากาศ ช่วยกำจัดหรือบำบัดแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ ฝุ่น และไอปรอท ที่เกิดจากกระบวนการผลิตของโรงไฟฟ้าถ่านหิน
รูปแสดงมลพิษที่เกิดจากอุตสาหกรรม
3.4.1 กรณีโครงการแกล้งดิน
โครงการแกล้งดินเป็นการแก้ปัญหาดินเปรี้ยวหรือดินที่มีความเป็นกรดมาก ทำให้พื้นที่ที่มีลักษณะดังกล่าว ไม่สามารถใช้ประโยชน์ในการเพาะปลูกได้ จึงมีการหาแนวทางในการปรับปรุงดิน ให้สามารถนำมาใช้เป็นพื้นที่การเกษตรและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้งาน ในขณะเดียวกันต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ที่อาจเกิดขึ้นจากกระบวนการแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งวิธีการปรับปรุงดินจะต้องเริ่มจากวิธีการ "แกล้งดินให้เปรี้ยว" คือทำให้ดินแห้งและเปียกสลับกันไป เพื่อเร่งปฏิกิริยาทางเคมีของดิน กระตุ้นให้ดินมีความเป็นกรดเพิ่มขึ้น นั่นคือเป็นการ "แกล้งดินให้เปรี้ยวถึงจุดอิ่มตัว" จนกระทั้งถึงจุดที่พืชไม่สามารถเจริญงอกงามได้ จากนั้นจึงหาวิธีการปรับปรุงดินดังกล่าวให้สามารถปลูกพืชได้ ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธีขึ้นกับสภาพพื้นที่และปริมาณของความเป็นกรดของดิน เช่น ใช้น้ำชะล้างความเป็นกรด เพื่อให้ดินมีความเป็นกรดลดลง จากนั้นเติมปุ๋ยไนโตรเจนและฟอสเฟตผสมกับหน้าดิน หรือการใช้วิธีผสมปูนขาวที่มีสมบัติเป็นด่างผสมคลุกเคล้ากับหน้าดิน เพื่อก่อให้เกิดการสะเทินของกรดและเบสของหน้าดิน ในพื้นที่ดังกล่าว หรืออาจมีการใช้ทั้งสองวิธีข้างต้นร่วมกัน แต่ต้องมีการควบคุมระดับน้ำใต้ดินตลอดเวลา เพื่อป้องกันการเกิดกรดกำมะถัน จากปฏิกิริยาของสารไพไรท์ที่อยู่ในชั้นดินเลนกันออกซิเจน
ดังนั้น "โครงการแกล้งดิน" จึงเป็นโครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและเกษตรกรโดยทั่วไป ส่งผลให้เกษตรกรสามารถประกอบอาชีพได้มีผลผลิตและรายได้สูงขึ้น จากการแก้ปัญหาดังกล่าว
3.4.2 กรณีการสร้างสนามบิน
สนามบินเป็นการเชื่อมโยงการคมนาคมทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศที่สะดวกรวดเร็ว ซึ่งการคมนาคมทางอากาศ มีความต้องการเพิ่มขึ้นทุกปิ เนื่องจากการเพิ่มจำนวนประชากร การขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคม จึงทำให้เกิดความต้องการการคมนาคมที่สะดวกและรวดเร็วเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการดังกล่าว จึงจำเป็นต้องมีการสร้างสนามบินเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ในการสร้างสนามบินนั้น ต้องศึกษาข้อมูลหลายด้าน เช่น พื้นที่ในการก่อสร้าง ขนาดพื้นที่ของสนามบิน ความเหมาะสมในการเดินทาง สิ่งแวดล้อมและชุมชนที่อยู่ข้างเคียง และงบประมาณในการก่อสร้าง
รูปแสดงการคมนาคมขนส่งโดยเครื่องบิน
เกร็ดน่ารู้
การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือที่เรียกว่า EIA (Environmental Impact Assessment) เป็นการใช้หลักวิชาการในการคาดการณ์ผลกระทบของการดำเนินโครงการที่มีต่อสิ่งแวดล้อมทั้งด้านบวกและด้านลบ ในประเด็นของทรัพยากรธรรมชาติ เศรษฐกิจ และสังคม เพื่อจะได้หาทางป้องกันผลกระทบในด้านลบให้เกิดน้อยที่สุด ในขณะเดียวกันก็คำถึงถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์ มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุด นอกจากนี้การวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ยังใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจของนักพัฒนาว่าสมควรดำเนินโครงการหรือไม่ และสามารถทราบได้ว่าจะเกิดปัญหาอะไร และสามารถแก้ปัญหาได้ทันที หรือป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้จากการดำเนินโครงการ การจัดทำ EIA ประกอบด้วย การศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 4 ด้าน มีแนวโน้มจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เมื่อโครงการเริ่มก่อสร้าง ได้แก่
ทรัพยากรกายภาพ ศึกษาถึงผลการทบทาง ดิน น้ำ อากาศ เสียง
ทรัพยากร ชีวภาพ ศึกษาถึงการเปลี่ยนแปลงที่มีต่อระบบนิเวศน์ และการดำรงชีวิตของสัตว์
คุณค่าการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ ศึกษาถึงการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทั้งทางกายภาพและชีวภาพของมนุษย์ เช่น การใช้ประโยชน์ที่ดิน
คุณค่าต่อคุณภาพชีวิต ศึกษาถึงผลกระทบที่จะเกิดต่อมนุษย์ ชุมชน ระบบเศรษฐกิจ การประกอบอาชีพ วัฒนธรรมประเพณี
สรุปท้ายบท
ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการใช้ การพัฒนา และการสร้างเทคโนโลยีในด้านต่างๆ นั้น ก่อให้เกิดผลกระทบด้านบวกและด้านลบต่อมนุษย์ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องรู้จักวิธีการคิดอย่างมีเหตุผลและรอบคอบ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม สามารถประเมินความเสี่ยงของผลกระทบที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยีได้ เช่น เทคโนโลยีประเภทหนึ่งมีผลกระทบด้านบวกต่อเศรษฐกิจ แต่มีผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อม ถ้าผู้ใช้เทคโนโลยีไม่พิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบ หรือขาดความรับผิดชอบ อาจส่งผลให้เกิดผลกระทบด้านลบมากกว่าด้านบวก