ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เสนอเป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เสนอเป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การแก้ปญหาการขาดทักษะการทำงาน การคิดวิเคราะห์คุณค่าและความสำคัญต่อรายวิชา การงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนละแมวิทยา
สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุรภาพการเรียนรู้ผู้เรียน
หลังจากจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในรายวิชาการงานอาชีพ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่าผู้เรียนส่วนใหญ่ขาดความรับผิดชอบ และไม่เห็นความสำคัญ ของรายวิชาการงานอาชีพ จึงส่งผลกระทบต่อการเรียน การสอนและผลสัมฤทธิ์วิชาการงานอาชีพของนักเรียน ซึ่งครูผู้สอนได้สังเกตและวิเคราะห์ผู้เรียนพบว่า สาเหตุที่ผู้เรียนส่วนใหญ่ขาดความรับผิดชอบ และไม่เห็นความสำคัญ ของรายวิชาการงานอาชีพ นั้น มาจากปัญหาหลายประการ ทั้งนี้ เนื่องจากในปัจจุบันมีเนื้อหาบทเรียนเป็นวิชาที่เน้นวิชาการมากเกินไป ทำให้ผู้เรียนรู้สึกไม่ชอบเรียน จึงคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ น่าเบื่อหน่าย และทำให้ผู้เรียนไม่เกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้เป็นต้น ซึ่งจากปัญหาดังกล่าวเหล่านี้ ล้วนส่งผลกระทบทั้งผู้เรียนและครูผู้สอน อันจะทำให้เกิดปัญหาการเรียนการสอนวิชาการงานอาชีพ ไม่มีประสิทธิภาพ รวมถึงส่งผลกระทบในด้านลบต่อทัศนคติการเรียนรู้และพัฒนาการทางวิชาการงานอาชีพของผู้เรียน
ปัจจุบันการจัดการศึกษาและการเรียนการสอน ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สอนสามารถ จัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการเรียน และอำนวยความสะดวก เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และมีความรอบรู้ ทั้งผู้สอนและผู้เรียนอาจเรียนรู้ไปพร้อมกันจากสื่อการเรียนการสอนและแหล่งวิทยาการประเภทต่าง ๆ
จากความสำคัญของการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ครูผู้สอนจึงได้ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ (โดยทดลองใช้กับภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 2 และ 3เรื่อง งานเกษตร งานช่าง และงานประดิษฐ์ ตามลำดับ) เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่น เป็นสื่อการเรียนที่อำนวยความสะดวกให้ผู้เรียนค้นคว้าและทำความเข้าใจเนื้อหาของบทเรียนแบบสรุปโดยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการออกแบบกิจกรรมที่จะปฏิบัติ มาช่วยดึงความสนใจ กระตุ้นเร้า ทำให้ผู้เรียนไม่เบื่อหน่ายกับบทเรียน ในรายวิชาการงานอาชีพ ที่เน้นทักษะการปฏิบัติเป็นหลัก สามารถวัดได้จากชิ้นงานหรือผลงานของนักเรียน การประเมินงานกลุ่ม ใบงาน หรือเอกสารสรุปเนื้อหาข้อมูลบทเรียน โดยการมีส่วนร่วมในการออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนของผู้เรียน สามารถเป็นเครื่องชี้นำทางในการจัดการเรียนการสอนให้ดำเนินไปได้ด้วยดี พัฒนาความรู้ ความเข้าใจ สาระสำคัญแบบสรุปย่อและเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนละแมวิทยา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2560) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนละแมวิทยา
2.2 ครูผู้สอนได้ทำการศึกษาเนื้อหาบทเรียน จากหนังสือการงานอาชีพ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พร้อมทั้งศึกษาเพิ่มเติมจากแหล่งค้นคว้าต่างๆ รวมทั้งค้นคว้าจากสื่อต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น อินเทอร์เน็ต เป็นต้น แล้วนำมาออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับผู้เรียน เป็นแนวทางในการออกแบบและจัดการเรียนรู้รายวิชาการงานอาชีพ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจสาระสำคัญและเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
2.3 จัดทำโครงร่างของเนื้อหาแผนการจัดการเรียนรู้
2.4 ครูทดสอบความรู้และเจตคติที่มีต่อรายวิชาการงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในรายวิชาการงานอาชีพ ก่อนร่วมกันออกแบบการจัดการเรียนการสอน
2.5 ครูผู้สอนใช้กิจกรรมการเรียนการสอนที่ร่วมออกแบบกับผู้เรียนมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาการงานอาชีพ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยเน้นทักษะการปฏิบัติจริง
2.6 ครูผู้สอนสร้างคุณค่าและเจตคติต่อรายวิชาการงานอาชีพจากผลงานหรือชิ้นงานของผู้เรียน
2.7 สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ และเจตคติของผู้เรียน ที่มีต่อรายวิชาการงานอาชีพ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่เป็นระยะ ๆ
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชาการงานอาชีพ โรงเรียนละแมวิทยา ร้อยละ 70 มีผล การเรียนอยู่ในระดับดี (3.00)
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชาการงานอาชีพ โรงเรียนละแมวิทยา ร้อยละ 70 มีเจตคติที่ดีต่อรายวิชาการงานอาชีพ
3.2 เชิงคุณภาพ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนละแมวิทยา เห็นคุณค่า และตระหนักถึงความสำคัญของรายวิชาการงานอาชีพ
ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อรายวิชาการงานอาชีพ (ง23103)