หน่วยการเรียนรู้ที่ 3
เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
เครื่องดื่ม (beverage) เป็นผลิตภัณฑ์อาหารประเภทหนึ่งที่เป็นของเหลว ช่วยลดความกระหาย ให้ความรู้สึกสดชื่น และขจัดความอ่อนเพลียชดเชยปริมาณน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป ตลอดจนมีคุณค่าทางโภชนาการต่างๆ ที่มีประโยชน์ มีส่วนประกอบหลัก คือ น้ำ สารให้รสหวาน กรดอินทรีย์ สี และสารให้กลิ่นรส
เครื่องดื่มในปัจจุบันมีหลายประเภท บางประเภทดื่มแล้วได้คุณค่าทางโภชนาการบางประเภทดื่มแล้วไปกระตุ้นระบบประสาท และบางประเภทดื่มเพื่อให้หายจากความกระหาย ถ้าจะถือส่วนประกอบหลัก เครื่องดื่มสามารถจำแนกได้ 7 ลักษณะ คือ
ประเภทผลไม้ ซึ่งจะมีทั้งน้ำผลไม้สด น้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง ขวด หรือกล่องสามารถเก็บไว้กินได้นานๆ การดื่มน้ำผลไม้ก็จะได้ทั้งวิตามินและแร่ธาตุ ซึ่งขึ้นกับส่วนประกอบของน้ำผลไม้ว่ามีเปอร์เซนต์ของน้ำผลไม้สดมากน้อยเพียงใด
ประเภทน้ำนมและเครื่องดื่มที่ใช้นมเป็นหลัก อาหารประเภทนี้ ถ้าดื่มแล้วก็ได้สารอาหารที่สำคัญ เช่น โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ ซึ่งเหมาะสำหรับบุคคลทุกเพศทุกวัย
ประเภทเครื่องดื่มสมุนไพร ซึ่งปัจจุบันมีผู้นิยมดื่มกันมากขึ้น เพราะมีการทำบรรจุซองสำเร็จรูปขาย ซึ่งการดื่มน้ำสมุนไพรถ้าสามารถดื่มแบบไม่ใส่น้ำตาลได้ก็จะดี เพราะนอกจากจะได้คุณค่าทางโภชนาการแล้ว ยังทำให้สดชื่นอีกด้วย
ประเภทน้ำชา กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่นิยมดื่มกันในตอนเช้าหรือดื่มเป็นอาหารว่าง คุณสมบัติเด่นของน้ำชา กาแฟ คือ จะมีสารคาเฟอีน ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นให้ผู้ดื่มรู้สึกกระปรี้กระเปร่า และถ้าร่างกายได้รับมากเกินไป ก็จะทำให้มีอาการกระวนกระวาย ตื่นเต้นง่าย ประสาทไหว หงุดหงิด ใจสั่น นอนไม่หลับ นอกจากนี้คาเฟอีน ยังไปกระตุ้นการหลั่งของกรดเกลือในกระเพาะอาหาร ผู้ที่กรดในกระเพาะมากเกินไปอยู่แล้ว หรือมีแผลในกระเพาะอาหาร จึงไม่ควรดื่มน้ำชา กาแฟแก่ๆ
ประเภทน้ำหวาน น้ำอัดลม เครื่องดื่มประเภทนี้โดยทั่วไป มักมีส่วนประกอบของน้ำตาลสารปรุงแต่งรส ถ้าเป็นน้ำอัดลมก็จะมีกรดคาร์บอนไดออกไซด์ และบางทีอาจมีสารกันบูดด้วย คุณค่าของเครื่องดื่มชนิดนี้มักจะให้พลังงานเป็นส่วนใหญ่
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่ เหล้า เบียร์ ไวน์ วิสกี้ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นี้ไม่ควรดื่มเป็นปริมาณมาก เพราะจะทำให้เกิดติดขึ้นมาได้ และถ้าดื่มจนเมาจะควบคุมสติไม่ได้ จะทำให้เกิดกรณีวิวาท และหากขับรถก็จะเกิดอุบัติเหตุได้
เครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งมักนิยมดื่มกันมาก โดยเฉพาะผู้ที่ต้องใช้แรงงาน เครื่องดื่มชูกำลัง 1 ขวด ให้พลังงานแก่ร่างกายเพียง 8 แคลอรี่ และยังมีคาเฟอีน ซึ่งมีผลกระตุ้นระบบประสาทได้ ซึ่งบางคนจะดื่มแทนน้ำหรืออาหารหลัก ซึ่งถ้าเทียบแล้ว คุณค่าทางโภชนาการที่ได้เพียงเล็กน้อย ถ้าดื่มติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็จะทำให้ติด และถ้าดื่มแต่เครื่องดื่มชูกำลัง เพียงอย่างเดียวโดยไม่ได้กินอาหารหลักเลย ก็จะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารได้
จะเห็นได้ว่า เครื่องดื่มมีหลายประเภท เครื่องดื่มแต่ละประเภทก็มีคุณ มีโทษ แตกต่างกัน ดังนั้นเมื่อทราบถึงโทษของเครื่องดื่มบางประเภทที่กล่าวแล้ว ควรจะหลีกเลี่ยงไม่บริโภคเลย พยายามบริโภคให้ลดน้อยลงก็จะเป็นการดีที่สุด
1. น้ำ
-เป็นวัตถุดิบในการทำเครื่องดื่มทั่วไปซึ่งจะมีปริมาณประมาณ85% ขึ้นไป แต่ถ้าเป็นเครื่องดื่มชนิด
diet จะมีน้ำเป็นองค์ประกอบมากถึง 99%
-หน้าที่เป็นตัวทำละลายสารประกอบอื่น ๆ เช่น น้ำตาล สี กลิ่น
2. สารให้ความหวาน
- ในเครื่องดื่มปกติ จะมีรสหวานเนื่องจากน้ำตาลซูโครส หรือ high fructose corn syrup ในขณะที่ HFCS ผลิตมาจากแป้งเป็นของเหลวข้นหนืด
- ปริมาณสารให้ความหวานโดยทั่วไปจะอยู่ใช่วง 7-14 %
หน้าที่
- นิยมใช้น้ำตาล
- ให้รสชาติให้กลมกล่อม
- ให้ความหนืด
- ช่วยยับยั้งการเจริญของเชื้อจุลินทรีย์
3. กรด
- เครื่องดื่มนั้นค่อนข้างมีความเป็นกรด
- กรดที่นิยมใช้คือ กรดฟอสฟอริก กรดซิตริก กรดมาลิก กรดทาร์ทาริก
หน้าที่
- ให้รสเปรี้ยวในเครื่องดื่ม
- ช่วยกระตุ้นให้เกิดความพอใจ
- ช่วยเพิ่มความหวานของน้ำตาล
- ช่วยระงับความกระหาย
- ช่วยยึดอายุของเครื่องดื่ม เป็นวัตถุกันเสีย
4. สี
- ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค
- ให้ความรู้สึกของกลิ่นรส
แบ่งเป็น3ชนิด
- สีธรรมชาติ
- สีคาราเมล
- สีสังเคราะห์
5. กลิ่นรส
เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่ทำให้เครื่องดื่มแตกต่างกัน โดยอาจใช้การผสมเพื่อให้เกิดกลิ่นรสที่แตกต่าง
6. ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
เป็นก๊าซที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เป็นก๊าซสำคัญที่ให้ลักษณะของเครื่องดื่มอัดแก๊ส เมื่อละลายน้ำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะมีผลต่อรสชาติ
7. วัตถุกันเสีย
การเก็บไว้เป็นระยะเวลานานมีผลต่อกลิ่นและรสชาติ ดังนั้นจึงมีการใช้วัตถุกันเสียบ้าง
6. คาเฟอีน
คาเฟอีนจะให้รสขมซึ่งมีผลต่อรสชาติ พบในเครื่องดื่มโคคาโคลา หรือ รสเปปเปอร์ กาแฟ ชา หรือช็อกโกแลต คาเฟอีนไม่ได้มีในทุกผลิตภัณฑ์
ชนิดของของเครื่องดื่ม
ในปัจจุบันเครื่องดื่มที่ผลิตและจำหน่ายอยู่โดยทั่วไปมีมากมายหลายชนิดและอาจเป็นอันตรายต่อร่ากาย ดังนั้นผู้ผลิตควรเลือกผลิตเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
1.1 น้ำดื่ม เป็นน้ำสะอาดตามที่มาตรฐานขององค์การอนามัยโลกกำหนดซึ่งในปัจจุบันน้ำดื่มที่เรานำมาใช้บริโภคมีทั้งน้ำปะปาที่ผ่านการกรองแล้วมาต้มสุก
และแบบบรรจุขวดที่มีจำหน่ายทั่วไป
1.2 น้ำแร่ เป็นน้ำที่เกิดจากแหล่งน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและมีแร่ธาตุบางชนิดผสมอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม
1.3 โซดา เป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ชนิดอัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ สำหรับใช้ดื่มในบางโอกาสเพื่อให้มีรสซ่า ชวนดื่ม
1.4 น้ำหวานผสมสี เป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ประกอบละลายน้ำ มีการแต่งสี กลิ่น รสและใส่สารกันเสีย ก่อนดื่มต้องเติมน้ำให้เจือจาง
1.5 น้ำหวานอัดแก๊ส น้ำอัดลม เป็นเครื่องดื่มที่ทำมาจากน้ำหวานมีการแต่งสี กลิ่น รส เติมกรด ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
1.6 น้ำผักและผลไม้ เป็นเครื่องดื่มที่มีกลิ่นและรสชาติของผักและผลไม้ เครื่องดื่มธรรมชาติเพื่อสุขภาพ
1.7 พั้นช์ เป็นน้ำผลไม้ปรุงแต่งที่ทำมาจากผลไม้หลายชนิดเพื่อให้มีกลิ่นสีและรสชาติที่แตกต่างกันไป
1.8 ชา เป็นเครื่องดื่มที่มีทั้งแบบผงและแบบใบแห้งบรรจุซอง และปรุงแต่งรสชาติโดยการเติมนมเข้นหวานหรือครีม
1.9 กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่ทำมาจากเมล็ดกาแฟที่มีฤทธิ์กดประสาท ทำให้เกิดความรู้สึกตื่นตัว ซึ้งจะเสิร์ฟพร้อมกับน้ำตาล เพื่อให้ปรุงรสชาติตามที่ต้องการ
1.10 โกโก้ เป็นเครื่ดื่มที่ทำมาจากเมล็ดโกโก้ ซึ้งสามารถปรุงด้วยน้ำตาลครีม และนมเข้นหวาน เพื่อให้ได้รสชาติตามต้องการ
1.11 นมปรุงแต่งและนมเปรี้ยว นมปรุงแต่งเป็นนมผงที่ทำมาจากนมวัวปรุงแต่งด้วยสี กลิ่น รส ส่วนนมเปรี้ยวเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากนมซึ้งหัมกด้วยจุลินทรีย์ที่ไม่ทำอันตรายต่อร่างกาย มักปรุงแต่งรส และเติมน้ำตาลซูโครส
1.12 น้ำนมจากพืช เป็นนมที่สกัดจากเมล็ดพืช ซึ้งมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น นมถั่วเหลือง นมข้าวโพด นมข้าว นมอัลมอนด์ เป็นต้น
หลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม
ร่างกายของมนุษย์ต้องการน้ำไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ เนื่องจากร่างกายของเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณร้อยละ 70 ของน้ำหนักตัว โดยน้ำจะอยู่ในเลือด น้ำดี และส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ดังนั้นควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายโดยการยึดหลักปฏิบัติ ดังนี้
1. เลือกดื่มเครื่องดื่มที่สะอาดและได้มาตฐาน
2.เลือกเครื่องดื่มที่มีประโยชน์
3.ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์กดประสาท เช่น กาแฟ ชา
4.ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์การประกอบเครื่องดื่ม เช่น สุรา เบียร์
การเตรียมเครื่องดื่ม
1. เลือกใช้ส่วนผสมหรือวัตถุดิบที่มีคุณภาพ
2. เลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่น เพราะหาง่ายและราคาไม่แพง
3. ล้างวัตถุดิบให้สะอาดและควรทาํ เครื่องดื่มทันทีเพื่อรักษาคุณค่าทางอาหาร
4. ควร ตวง ชั่ง ส่วนผสมให้ได้มาตรฐาน เพื่อได้เครื่องดื่มรสชาติคงเดิมทุกครั้ง
5. เตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อม โดยทั่วไปมีดังนี้
อุปกรณ์ชั่งตวง เครื่องชั่ง ถ้วยตวงของเหลว ถ้วยตวงของแห้ง ช้อนตวง
กระชอน ผ้าขาวบาง ค้อนทุบขิง ตะไคร้ มีดและเขียง
เครื่องปั่นน้ำผลไม้ หม้อต้ม พิมพ์กดผักผลไม้เป็นรูปต่าง ๆ ภาชนะใส่เครื่องดื่ม
ถ้วยกระเบื้องมีหู แก้วใสมีก้านและไม่มีก้าน อ่างแก้ว เหยือกแก้ว
จานรองแก้วและอุปกรณ์รองแก้ว ทัพพีตักเครื่องดื่ม อุปกรณ์สำหรับคนเครื่องดื่ม
การประกอบเครื่องดื่ม
อุปกรณ์และเครื่องมือในการทำต้อวสะอาดปราศจากกลิ่นและรสชาติต่างๆ เพื่อให้เครื่องดื่มมีกลิ่นรสชาติตามวัตถุดิบชนิดนั้นๆ
เครื่องดื่มที่เป็นผักหรือผลไม้สดควรดื่มทันทีที่ทำเสร็จ ไม่ควรผ่านการต้มเพราะจะทำให้เสียคุณค่าทางอาหารถ้าต้องการเก็บเกิน 1 วัน จึงต้มแล้วเก้บใส่ภาชนะเข้าตู้เย็น
เครื่องดื่มที่ต้องการให้มีเนื้อผักผลไม้เนียนละเอียดไปกับส่วนผสมอื่น ควรใช้เครื่องปั่นน้ำผลไม้
การจัดเครื่องดื่ม
จัดเครื่องดื่มให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของผู้ดื่มเช่นจัดนมสดให้เด็กในวัยเรียนที่กำลังเจริญเติบโต จัดน้ำผักผลไมให้ผู้สูงอายุที่ระบบขับถ่ายไม่ปกติ จัดน้ำขิงให้กับบุคคลที่มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
จัดเครื่องดื่มให้เหมาะสมกับสภาพอากาศเช่นอากาศเย็นควรจัดเครื่องดื่มอุ่นๆอากาศร้อนควรจัดเครื่องดื่มเย็นใส่น้ำแข็งเพื่อรักษาสมดุลย์อุณหภูมิภายในร่างกาย
จัดเครื่องดื่มให้เหมาะสมกับโอกาศที่จะบริการเช่นการบริการเครื่องดื่มสำหรับผู้มาเยี่ยมที่บ้านควรเป็นแบบง่ายๆถูกใจผู้มาเยือนสำหรับงานเลี้ยงสังสรรค์ต้องเตรียมปริมาณให้เพียงพอ
จัดเครื่องดื่มในปริมาณที่เหมาะสมเช่นเครื่องดื่มร้อนให้ใช้ถ้วยกระเบื้อง หรือแก้วทนความร้อนที่มีหูจับและมีจานรองไม่ควรเทเครื่องดื่มร้อนๆลงในแก้วพลาสติก เพราะจะละลายเสียรูปทรงหรือมีสารปนเปื้อนจากพลาสติกลงในเครื่องดื่มเครื่องดื่มเย็นให้ใส่แก้วใสทรงสูงอาจมีก้านหรือไม่มีก็ได้ สำหรับเครื่องดื่มที่บริการในงานเลี้ยงให้เทใส่อ่างแก้วขนาดใหย่มีแก้ววางอยู่ข้างๆเพื่อบริการแขกที่มาในงาน
การตกแต่งเครื่องดื่ม
ตกแต่งเครื่องดื่มการใช้วัสดุธรรมชาติไม่เป็นอันตรายต่อผู้ดื่มเช่น ผักหรือผลไม้ที่ใช้ทำเครื่องดื่มนั้น ตัดแต่งเป็นรูปทรงต่างๆ ดอกกล้วยไม้ที่ล้างสะอาดน้ำสับปะรดตกแต่งด้วยสับปะรดหั่นเป้นชิ้นสามเหลี่ยมเสียบที่ปากแก้ว น้ำผลไม้ผสมตกแต่งด้วยผลไม้เนื้งแข็งหลายสีหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าใส่ลงไปในอ่างน้ำ น้ำผลไม้ผสมหมายถึง น้ำส้ม น้ำสับปะรด น้ำฝรั่ง น้ำแตงโม มีรสกลมกล่อม น้ำมะพร้าวตกแต่งด้วยดอกกล้วยไม้ที่ล้างสะอาดวางบนปากแก้ว
ตกแต่งเครื่องดื่มด้วยช้อนตนเครื่องดื่มที่มีด้ามจับรูปต่างๆใส่คู่กับหลอด
การบริการเครื่องดื่ม
บริการเครื่องดื่มในภาชนะที่ล้างสะอาดและเช็ดให้แห้งเรียบร้อยแล้ว
บริการเครื่องดื่มร้อนหรือเย็น 3 ส่วนใน 4 ส่วน ของแก้ว
การบริการเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นควรมีจานรองหรือผ้ารองแก้ว เพื่อป้องกันการจับถือถ้วยที่ร้อนโดยตรงเพื่อป้องกันหยดน้ำของน้ำแข็ง ซึ่งอาจทำให้โต๊ะมีรอยเปื้อนและลื่นจนแก้วตกแตก
บริการเครื่องดื่มโดยคำนึงถึงอุณหภูมิและรสชาติเครื่องดื่มเช่น เครื่องดื่มร้อนต้องบริการขณะยังร้อนเครื่องดื่มเย็นต้องใส่น้ำแข็งพอดี และบริการทันทีที่ใส่น้ำแข็งเพื่อไม่ให้น้ำแข็งละลายจะเสียรสชาติ
บริการเครื่องดื่มและเก็บภาชนะทางขาวมือของผู้รับบริการ โดยใช้มือด้านใดด้านหนึ่งหยิบจานรองในกรณีเป้นเครื่องดื่มร้อนและใช้มืออีกข้างหยิบก้านแก้วขณะบริการและเก็บแก้ว
ผู้บริการต้องยิ้มแย้มแจ่มใส ตัดเล็บสั้น ล้างมือให้สะอาด
บริการเครื่องดื่มให้เพียงพอต่ผู้รับบริการ
การล้างแก้วให้ใสสะอาดปราศจากกลิ่นคาว ทำได้โดยนำใบตองกล้วยหรือใบเตยขยี้ลงในอ่างที่มีน้ำครึ่งอ่าง ใส่เกลือลงไป 2 ช้อนโต๊ะคนให้เกลือละลายแล้วนำแก้วลงไปล้าง
การเตรียม ประกอบ จัด ตกแต่ง และบริการเครื่องดื่มทุกชนิด
ให้มีประสิทธภาพ ประหยัดค่าใช้จ่าย ประหยัดเวลา ประหยัดแรงงานและได้ผลงานที่มีคุณภาพควรปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้
1.ขั้นวางแผน เป็นขั้นตอนการศึกษาตำรับเครื่องดื่มที่จะทำจากแหล่งเรียนรู้แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์มาวางแผนเกี่ยวกับการเตรียม ประกอบ จัด ตกแต่ง
2.ขั้นปฏิบัติงาน เป็นขั้นตอนการลงมือปฏิบัติ เตรียม ประกอบ จัด ตกแต่ง และบริการเครื่องดื่มตามที่วางแผนไว้
3.ขั้นประเมินผลงาน เป็นขั้นตอนการวิเคราะหืผลงานว่ามีข้อพกพร่องหรือไม่ อย่างไร และหาแนวทางแก้ไขหรือพัฒนาให้ดีขึ้น
1.น้ำผักผลไม้เป็นน้ำดื่มที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด การดื่มน้ำผักผลไม้เป็นประจำจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงมีอายุยืนยาว เพราะช่วยบำรุงสุขภาพและช่วยป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ
2.ผักผลไม้แต่ละชนิดล้วนมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นตัวช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งรวมไปถึงโรคมะเร็งต่าง ๆ ด้วย
3.ช่วยป้องกันและชะลอความเสื่อมของอวัยวะภายในร่างกายต่าง ๆ
4.การดื่มน้ำผักผลไม้สามารถช่วยพัฒนาสมอง เสริมสร้างความจำ และเป็นอาหารของสมองได้เป็นอย่างดี
5.ช่วยบำรุงและรักษาสายตาได้ เพราะผักผลไม้บางชนิดจะมีวิตามินเอสูง เช่น แครอท ผักบุ้ง ตำลึง ฟักทอง มะละกอ มะม่วงสุก เป็นต้น
6.ผักผลไม้บางชนิดยังมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรที่ช่วยบำบัดและรักษาโรคบางชนิดได้เป็นอย่างดี
7.การดื่มน้ำผักผลไม้เป็นประจำจะช่วยทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งสดใสได้ เพราะผักผลไม้หลายชนิดจะอุดมไปด้วยวิตามินซีและวิตามินอี ซึ่งเป็นอาหารผิวที่มีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณ ทำให้ผิวดูมีสุขภาพดีและเรียบเนียน
น้ำผักผลไม้เป็นเพียงอาหารเสริมสำหรับผักผลไม้สดมากกว่าที่จะเป็นอาหารหลักแทนที่ผักผลไม้สดทั้งหมด ดังนั้นควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดจากการดื่มน้ำผักผลไม้
เพื่อประโยชน์สูงสุดในการบริโภค ควรดื่มน้ำผลไม้ไม่เกิน 1 แก้วต่อวัน (ประมาณ 4-8 ออนซ์) และให้คั้นดื่มโดยไม่ต้องเพิ่มความหวานใด ๆ อีก เนื่องจากในผลไม้จะมีน้ำตาลธรรมชาติอยู่แล้ว อีกทั้งยังให้แคลอรี่เพียง 60-80 แคลอรี่เท่านั้น
น้ำผลไม้คั้นสดควรเป็นสิ่งแรกที่เข้าสู่ร่างกายในตอนเช้า เพราะน้ำผลไม้จะช่วยทำความสะอาดระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย รวมถึงการอุ่นเครื่อง ทำให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัว กระฉับกระเฉงมากยิ่งขึ้น เพราะร่างกายสามารถดูดซึมคุณค่าจากผลไม้สดได้ง่าย ดังนั้นควรดื่มก่อนกินมื้อเช้าประมาณ 10 นาที หรือหากดื่มหลังมื้ออาหารในแต่ละวัน โดยค่อย ๆ จิบน้ำผลไม้และกลั้วไปรอบ ๆ ปาก เพื่อเพิ่มเอนไซม์ในอาหารช่วยทำให้กระเพาะอาหารย่อยได้ดีขึ้น
การดื่มน้ำผลไม้คั้นสดเป็นประจำจะช่วยถนอมสุขภาพสมองให้แข็งแรง ห่างไกลจากโรคอัลไซเมอร์
ควรเลือกรับประทานน้ำผักผลไม้อย่างหลากหลาย หรือรับประทานให้ครบทั้ง 5 สี เนื่องจากผักผลไม้แต่ละสีแต่ละชนิดจะมีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป
ก่อนนำผักหรือผลไม้มาคั้นเป็นน้ำ ควรนำมาล้างให้สะอาดเสียก่อน โดยส้ม ฝรั่ง แครอท องุ่น ผักคะน้า มีสารเคมีสูงอยู่ในระดับต้น ๆ (ส่วนน้ำผลไม้อย่างส้มที่ผลิตในโรงงาน กระบวนการผลิตจะไม่มีการปอกเปลือก แต่จะคั้นกันทั้งเปลือก ทำให้สารเคมีเหล่านี้อาจตกค้างในน้ำผลไม้ที่เราดื่มได้ ส่วนน้ำส้มคั้นที่ขายสด ๆ ก็ตามท้องตลาดก็ควรจะระวังด้วย เพราะนอกจากจะมีสารเคมีพวกยาฆ่าแมลงตกค้างที่เปลือกส้มแล้ว ตัวเครื่องที่ใช้คั้นเองก็เป็นตัวสะสมแบคทีเรียได้เป็นอย่าง เพราะเมืองไทยมีอากาศร้อน ทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้เร็ว)
ในการปั่นน้ำผักรับประทานเองในครัวเรือน มีคำแนะนำว่า ควรเลือกปั่นผักโดยใช้เครื่องปั่นในระดับความเร็วที่ไม่มากจนเกินไป เพราะการปั่นผักด้วยความเร็วสูง ๆ จะทำให้เกิดการสูญสลายของแร่ธาตุและสารอาหารบางอย่างได้
ผักผลไม้บางชนิดอาจมีสารหรือแร่ธาตุบางชนิดในปริมาณมาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดโทษกับผู้ป่วยเรื้อรังบางโรคได้ เช่น ผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผักผลไม้ที่มีกรดออกซาลิกสูง (Oxalic acid) เช่น ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำใบชะพลู และน้ำแครอท เป็นต้น
น้ำผักผลไม้ที่ได้รับความนิยมสูงโดยมากจะมีส่วนผสมของมะเขือเทศและโซเดียมในปริมาณมาก ผู้บริโภคจึงควรระมัดระวังในการเลือกบริโภค อีกทั้งผักผลไม้บางชนิดจะมีน้ำตาลสูง จึงควรไตร่ตรองอย่างระมัดระวังก่อนจะบริโภค
ที่มา: ละเบียง ชุยกระเดื่อง, วรวุฒิ โอษะคลัง, สุนิสา สุขวัฒนา และนิพนธ์ ทองปาด์. 2562. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. นนทบุรี: บริษัท ศูนย์หนังสือ เมืองไทย จำกัด.
ตัวอย่างงาน
ปฏิบัติการเลือกเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
ให้นักเรียนเลือกเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ประทับใจ โดยใช้ เว็บไซต์ www.canva.com
รายละเอียดหัวข้องานมีดังนี้
ส่วนผสมและวิธีทำ เคล็ดลับการทำ วิเคราะห์คุณค่าสารอาหาร
สรรพคุณทางยา แหล่งที่มาของข้อมูล รูปภาพการจัดตกแต่งเครื่องดื่ม
และ ประเมินงานของตนเอง
เมื่อทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดาวน์โหลดรูปภาพงานที่ทำเก็บไว้
โดยอัปโหลดรูปเข้าอัลบั้มในกลุ่มไลน์วิชาเรียน
ชื่อว่า "ส่งใบงานเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ"
***พิมพ์ชื่อนามสกุลของนักเรียนลงในรูปผลงานให้เรียบร้อยก่อนส่ง
วิธีสร้างคิวอาร์โค้ดด้วยแอป Canva
วิธีการใส่รูปภาพด้วยแอป canva