สุขภาพการเงิน (Financial Health Check) คือ การมีสภาวะทางการเงินที่เพียงพอหรือเหมาะสมกับการดำรงชีวิต และยังเป็นรากฐานความมั่นคงทางการเงินในอนาคตอีกด้วย หากไม่อยากประสบปัญหาที่กวนใจในอนาคตการตรวจสอบสุขภาพทางการเงินเพื่อวางแผนทางการเงินไว้รับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝันก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งคุณสามารถตรวจสุขภาพทางการเงินง่าย ๆ ด้วยตัวเองได้โดยใช้ 3 วิธีนี้

1. ประเมินสินทรัพย์อย่างครอบคลุม

การประเมินหรือตรวจสุขภาพทางการเงินเปรียบได้กับการประเมินสุขภาพร่างกายโดยรวม ที่สามารถประเมินผ่านสินทรัพย์กับหนี้สินที่มีอยู่ นอกจากนี้ยังควรประเมิน “ทรัพย์สินที่ควรมี” ด้วย ก่อนที่จะเริ่มต้นคำนวณต้องเข้าใจถึงประเภทสินทรัพย์และหนี้สิน 

2. ประเมินหนี้สินที่ต้องใช้จ่ายต่อเดือนว่ามากเกินไปหรือไม่ ?

หากต้องการที่จะเริ่มต้นลงทุนในทรัพย์สินเพื่อความมั่นคงในอนาคต หนี้สิน ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในปัจจุบัน เพียงแต่หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพ ถ้ามีหนี้สินที่สามารถรับมือไหวก็ไม่ต่างอะไรกับไข้หวัด ที่ไม่นานก็หายได้และไม่ส่งผลอะไรกับชีวิตเท่าไหร่ เพียงแต่ว่า หากลงทุนจนเกินตัว หรือไม่ได้คำนึงถึงภาระหนี้สินว่าตนเองสามารถจัดการได้หรือไม่ นั่นก็อาจจะกลายเป็นหายนะทางการเงินได้เช่นกัน

3. ประเมินเงินออมฉุกเฉิน ว่าเพียงพอหรือยัง?

เงินออมฉุกเฉินเองก็เป็นหนึ่งในการ ตรวจสุขภาพทางการเงิน ที่ไม่ควรมองข้ามเนื่องจาก สิ่งที่ไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อย่างเช่นการเกิดอุบัติเหตุ ล้มป่วย หรือตกงานอย่างกะทันหัน ถ้าหากไม่ได้เตรียมเงินออมฉุกเฉินเอาไว้ให้เพียงพอ ก็อาจจะประสบปัญหาทางการเงินอย่างแท้จริงก็ได้ ดังนั้นแล้วการเริ่มออมเงินเผื่อเหตุฉุกเฉินตั้งแต่วันนี้จึงเป็นความคิดที่ดีไม่น้อย โดยเงินออมฉุกเฉินสามารถคำนวณได้ง่าย ๆ 

ปัจจุบันการซื้อของในออนไลน์เข้ามามีอิทธิพลอย่างมาก ซึ่งเมื่อนำมาวิเคราะห์ก็จะพบข้อดีและข้อเสียของมัน 

ข้อดีของการซื้อของออนไลน์:

1. ความสะดวกสบาย: คุณสามารถซื้อของได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่ร้าน                   

2.     เปรียบเทียบราคาได้ง่าย: สามารถเปรียบเทียบราคาจากหลายเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ได้สินค้าที่ถูกที่สุด                             3. มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย: สินค้าที่อาจหาซื้อยากตามร้านค้าในพื้นที่สามารถพบเจอได้ในร้านค้าออนไลน์

 4. มีโปรโมชั่นบ่อย: เว็บไซต์มักมีโปรโมชั่นพิเศษ ส่วนลด หรือโค้ดลดราคา

5. อ่านรีวิวจากผู้ซื้ออื่นได้: ช่วยในการตัดสินใจซื้อ โดยดูประสบการณ์จากคนที่เคยซื้อและใช้สินค้านั้น

ข้อเสียของการซื้อของออนไลน์:

1. ไม่ได้เห็นสินค้าจริงก่อนซื้อ: คุณอาจไม่แน่ใจว่าสินค้าจะเป็นตามที่คาดหวังหรือไม่ จนกว่าจะได้รับของ

  2. การจัดส่งอาจล่าช้า: บางครั้งสินค้าส่งไม่ตรงตามกำหนด หรือมีปัญหาระหว่างการจัดส่ง                             3.ความเสี่ยงในการโดนโกง: การซื้อจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจทำให้ได้ของปลอมหรือเสียเงินโดยไม่ได้สินค้า             4. คืนสินค้ายาก: บางเว็บไซต์หรือร้านค้าอาจมีเงื่อนไขการคืนสินค้าที่ซับซ้อน หรือต้องเสียค่าขนส่งเพิ่ม  5. ค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง: บางครั้งค่าส่งอาจเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาแพงกว่าที่คิด