กลุ่มพัฒนาอาชีพหัตถกรรมผักตบชวา

สถานที่ผลิต บ้านเลขที่ 28 บ้านโนนมะงา อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ 31000

ประวัติความเป็นมา

ผักตบชวาเป็นพืชชนิดหนึ่งที่คนทั่วไปมองว่าเป็นพืชที่ไร้ค่า แต่ที่จริงแล้วมีประโยชน์หลายประการ เช่น ดอกใช้กินสดกับส้มตำ หรือลวกจิ้มกับน้ำพริก ราก ล้ำต้น ใบ ใช้ทำปุ๋ยหมัก เส้นใยหรือก้านใบมีความเหนียวนุ่มนำมาใช้จักสานเป็นอุปกรณ์ต่างๆ ได้หลากหลายชนิด

รอเท้าสมุนไพรจากผักตบชวา

เดิมที มีหมู่บ้านใกล้เคียงได้นำเส้นใยจากผักตบชวามาจักสานเป็นกระจากรูปไก่ พาน กล่อง ฯลฯ นำออกจำหน่ายและสามารถจำหน่ายได้ บ้านโนนมะงาเองก็ได้นำเส้นใยจากผักตบชวามาสานเป็นตะกร้า ออกจำหน่าย แต่ความนิยมของตลาดมีน้อย ประกอบกับถูกพ่อค้าคนกลางกดราคา เลยหันมาดัดแปลงเป็นสินค้าประเภทอื่นๆ เช่น รองเท้า กระจาด เสื่อ ฯลฯ และจัดตั้งกลุ่มขึ้นบริหารงาน ทำการตลาดเอง ปรากฏว่าสินค้าที่อยู่ในความสนใจของลูกค้า คือ รองเท้าจากผักตบชวา ซึ่งในการทำรองเท้าของกลุ่มจะนำสมุนไพร เข้ามาเป็นส่วนผสมด้วย เช่น ตะไคร้ ทำให้เพิ่มคุณค่าของรองเท้าขึ้นมาระดับหนึ่ง เพราะโดยธรรมชาติ เส้นใยของผักตบชวาที่นำมาพันกับตะไคร้ จะมีคุณสมบัติในการนวดฝ่าเท้าไปในตัว ทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น เหมาะสำหรับสวมใส่เป็นรองเท้าลำรอง ใช้ในสำนักงาน หรือใส่เดินภายในบ้านอาคารบ้านเรือน

เอกลักษณ์/ จุดเด่นผลิตภัณฑ์

รองเท้าจากผักตบชวาบ้านโนนมะงา ที่ไม่เหมือนที่อื่นๆ คือ ส่วนประกอบที่เป็นสมุนไพร ความเป็นธรรมชาติที่เน้นใช้วัสดุที่ได้มาจากธรรมชาติให้มากที่สุดสวมใส่สบาย ช่วยนวดฝ่าเท้า ช่วยในการไหลเวียนของโลหิตให้ดีขึ้น

วัตถุดิบและส่วนประกอบ

1. ก้านผักตบชวาตากแห้ง

2. ใบตะไคร้

3. กำมะถัน

4. พื้นรองเท้า

5. กาวติดพื้นรองเท้า

6. แลกเกอร์เคลือบผิว

ขั้นตอนการผลิต

1. คัดเลือกก้านใบผักตบชวา ที่มีความยาว และไม่แก่จัด ดูจากสี (มีสีเขียวเข้ม)

2. นำผักตบชวาตากแดดให้แห้ง ประมาณ 5-7 วัน

3. นำผักตบชวาที่แห้งดีแล้วมาอบด้วยกำมะถัน ป้องกันเชื้อรา

4. ล้างผักตบชวาที่ผ่านการอบกำมะถันด้วยน้ำให้สะอาด นำไปผึ่งให้แห้ง เก็บไว้ใช้งาน

5. ทำพื้นรองเท้า นำผักตบชวาที่เตรียมไว้ มาจักเป็นเส้นที่พอดีสำหรับสานเป็นพื้นรองเท้า โดยแกนของพื้นใช้ใบตะไคร้ที่ตากแห้งดีแล้วมาเป็นแกนพันด้วยเส้นผักตบชวา สานให้ได้รูปแบบของเท้า

6. สายรองเท้า นำผักตบชวาทั้งลำมาพันให้เป็นเกลียวแล้วสานเป็นสายรองเท้า

7. นำพื้นและสายมาประกอบเข้าด้วยกัน

8. เพิ่มพื้นฟองน้ำเพื่อให้รองเท้าคงทน หรือถ้าต้องการให้คงทนและสวยงามเพิ่มมากขึ้น ให้เคลือบด้วยแลคเกอร์ แล้วผึ่งลมให้แห้ง ให้กลิ่นทินเนอร์ระเหยให้หมด แล้วเตรียมบรรจุภัณฑ์ รอการจำหน่าย

เทคนิค/เคล็ดลับการผลิต

ผักตบชวาต้องผ่ายการอบด้วยกำมะถัน เพื่อป้องกันเชื้อรา

ผักตบชวาเป็นพืชชนิดหนึ่งที่คนทั่วไปมองว่าเป็นพืชที่ไร้ค่า แต่ที่จริงแล้วมีประโยชน์หลายประการ เช่น ดอกใช้กินสดกับส้มตำ หรือลวกจิ้มกับน้ำพริก ราก ล้ำต้น ใบ ใช้ทำปุ๋ยหมัก เส้นใยหรือก้านใบมีความเหนียวนุ่มนำมาใช้จักสานเป็นอุปกรณ์ต่างๆ ได้หลากหลายชนิด

รองเท้าสมุนไพรจากผักตบชวา

เดิมที มีหมู่บ้านใกล้เคียงได้นำเส้นใยจากผักตบชวามาจักสานเป็นกระจากรูปไก่ พาน กล่อง ฯลฯ นำออกจำหน่ายและสามารถจำหน่ายได้ บ้านโนนมะงาเองก็ได้นำเส้นใยจากผักตบชวามาสานเป็นตะกร้า ออกจำหน่าย แต่ความนิยมของตลาดมีน้อย ประกอบกับถูกพ่อค้าคนกลางกดราคา เลยหันมาดัดแปลงเป็นสินค้าประเภทอื่นๆ เช่น รองเท้า กระจาด เสื่อ ฯลฯ และจัดตั้งกลุ่มขึ้นบริหารงาน ทำการตลาดเอง ปรากฏว่าสินค้าที่อยู่ในความสนใจของลูกค้า คือ รองเท้าจากผักตบชวา ซึ่งในการทำรองเท้าของกลุ่มจะนำสมุนไพร เข้ามาเป็นส่วนผสมด้วย เช่น ตะไคร้ ทำให้เพิ่มคุณค่าของรองเท้าขึ้นมาระดับหนึ่ง เพราะโดยธรรมชาติ เส้นใยของผักตบชวาที่นำมาพันกับตะไคร้ จะมีคุณสมบัติในการนวดฝ่าเท้าไปในตัว ทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น เหมาะสำหรับสวมใส่เป็นรองเท้าลำรอง ใช้ในสำนักงาน หรือใส่เดินภายในบ้านอาคารบ้านเรือน

วัชพืชอย่างผักตบชวานั้น หากนำมาแปรรูปเป็นของใช้ก็เกิดประโยชน์อย่างมาก เฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน กระเป๋าที่ทำจากผักตบชวานั้น กลายเป็นสินคาที่สร้างชื่อเสียงและรายได้ให้กับหลายพื้นที่มาแล้ว แต่สำหรับบ้านโนนมะงา ต.สะแก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้สร้างนวัตกรรมใหม่ผักตบชวา ด้วยการนำมาทำ “รองเท้าสมุนไพร”

สมจิต ชัยหบุตร และ พูนศักดิ์ ชัยหบุตร ผู้บริหารกลุ่มวิสาหกิจชุมชนภูมิปัญญาท้องถิ่นบ้านโนนมะงา บอกว่า ตั้งกลุ่มเมื่อปี 2549 สมาชิก 42 คน

รายได้กลุ่มเดือนละ 50,000 บาท มีแนวคิดการทำรองเท้าสมุนไพรขึ้นมา เพื่อสุขภาพ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับชุมชน อนุรักษ์ภูมิปัญญาไทย

“รองเท้าสมุนไพร ทำจากผักตบชวา ต้นกก ตะไคร้หอม เป็นวัสดุในท้องถิ่น รวมสมุนไพร พื้นบ้าน มีความเหนียว คงทน ใช้นวดประคบเท้า ช่วยผ่อนคลาย สามารถซึมซับได้ดี ดับกลิ่นเท้า มีทั้งใส่ในบ้านและนอกบ้าน รูปแบบหลากหลาย ราคาเริ่มต้นคู่ละ 150-199 บาท” สมจิต เกริ่นนำถึงสรรพคุณของรองเท้าสมุนไพรสมจิต

ส่วนผสมสำคัญของสมุนไพรที่นำมาประกอบการผลิตรองเท้าผักตบชวา คือ ตะไคร้ ทำให้เพิ่มคุณค่าของรองเท้าขึ้นมาระดับหนึ่ง เพราะโดยธรรมชาติเส้นใยของผักตบชวาที่นำมาพันกับตะไคร้ จะมีคุณสมบัติในการนวดฝ่าเท้าไปในตัว ทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้นเหมาะสำหรับสวมใส่เป็นรองเท้าลำรอง ใช้ในสำนักงาน หรือใส่เดินภายในบ้านอาคารบ้านเรือน

สำหรับการผลิตรองเท้าผักตบชวานั้น คุณพูนศักดิ์อธิบายเสริมว่า นำผักตบชวาที่เตรียมไว้ มาจักเป็นเส้นที่พอดีสำหรับสานเป็นพื้นรองเท้าโดยแกนของพื้นใช้ใบตะไคร้ที่ตากแห้งดีแล้วมาเป็นแกนพันด้วยเส้นผักตบชวา สานให้ได้รูปแบบของเท้า

“การตอบรับจากกลุ่มลูกค้าดีมาก สั่งทำกันจำนวนมาก กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็น วัยรุ่นและวัยทำงาน ช่องทางการจำหน่ายรองเท้าสมุนไพร ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน

ปัจจุบันกลุ่มรองเท้าสมุนไพรบ้านโนนมะงา มีกำลังการผลิตเดือนละ 800-1,000 คู่ จะเพิ่มการผลิตตามช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น สงกรานต์ ปีใหม ฯลฯ เป็นต้น เนื่องจากได้ออกจำหน่ายตามงานต่างๆ ด้วย จึงต้องเพิ่มการผลิตให้มากขึ้น รองรับตลาด