ขื่อนวชิราลงกรณ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

เขื่อนวชิราลงกรณ เดิมมีชื่อว่า เขื่อนเขาแหลม เป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทยที่ดาดผิวหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ตั้งอยู่บนแม่น้ำแควน้อย เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ เป็นโครงการเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำอันเป็นทรัพยากรธรรมชาติ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งทางตรง และทางอ้อม

เดิมชื่อเขื่อนเขาแหลม เป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทย ที่ดาดผิวหน้า ด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กกั้นแม่น้ำแควน้อย ในท้องที่ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี อยู่ห่างจากตัวอำเภอทองผาภูมิไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 6 กิโลเมตร ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี 153 กิโลเมตร มีความสูงจากฐาน 92 เมตร สันเขื่อนกว้าง 10 เมตร ความยาวสันเขื่อน 1,019 เมตร สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.) +161.75 เมตร ปริมาตรตัวเขื่อน ประมาณ 8.1 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำอยู่ในท้องที่ อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอสังขละบุรี ของจังหวัดกาญจนบุรี มีพื้นที่ รับน้ำฝน 3,720 ตารางกิโลเมตร ปริมาณน้ำไหล เข้าอ่างเฉลี่ยปีละ 5,500 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีปริมาตร เก็บกักสูงสุด ปกติ 8,860 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ระดับ +155.0 เมตร (รทก.) โรงไฟฟ้าเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดกำลังผลิตเครื่องละ 100,000 กิโลวัตต์ จำนวน 3 เครื่อง รวมกำลังผลิต 300,000 กิโลวัตต์ ให้พลังงานเฉลี่ยปีละ 760 ล้านกิโลวัตต์/ชั่วโมง/ปี การก่อสร้างเริ่มในเดือนมีนาคม พ.ศ.2522 แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2527 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ฯ ทรงประกอบ พิธีเปิดเขื่อนเขาแหลม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม พ.ศ.2529 ได้รับพระราชทานชื่อใหม่แทนชื่อเขื่อนเขาแหลม จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.2544 ว่า “ เขื่อนวชิราลงกรณ ” เขื่อนวชิราลงกรณแห่งนี้นับเป็นเขื่อนอเนกประสงค์ ขนาดใหญ่ลำดับ 4 ของประเทศไทย รองจากเขื่อนภูมิพล เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนสิริกิติ์

เขื่อนวชิราลงกรณ เป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำของการไฟฟ้าฝ่าย ผลิตและเขื่อนเอนกประสงค์ ในโครงการพัฒนาลุ่มแม่น้ำแม่กลอง และบริเวณเหนือเขื่อน มีทิวทัศน์สวยงาม เหมาะสำหรับการล่องเรือชมทิวทัศน์ สภาพธรรมชาติของอ่างเก็บน้ำ และสามารถชมสวนมะพร้าวกะทิบนเกาะกลางน้ำ ซึ่งต้องนั่งเรือจากเขื่อนไป 1 ชั่วโมง เขื่อนวชิราลงกรณนอกเหนือจาก สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าแล้ว ยังได้เอื้ออำนวย ประโยชน์ ในด้านอื่นๆ อีก เช่นช่วยบรรเทาอุทกภัย ซึ่งโดยปกติ น้ำในฤดูฝน ทั้งในลำน้ำแควน้อยและแควใหญ่ จะมีปริมาณมาก เมื่อไหลมารวมกันจะทำให้เกิดน้ำท่วม ลุ่มน้ำแม่กลอง เป็นประจำหลังจากได้ก่อสร้าง เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณแล้วเสร็จ อ่างเก็บน้ำของเขื่อนทั้งสอง จะช่วย เก็บกักน้ำไว้เป็นการบรรเทาอุทกภัย ในพื้นที่ดังกล่าวอย่างถาวร

1.ด้านการอุปโภคบริโภค

2.ช่วยผลักดันน้ำเค็มและไล่น้ำเสีย

3.ด้านการชลประทาน และการเกษตร

4. ด้านการประมง

5. ด้านการบรรเทาอุทกภัย

6.ด้านการคมนาคมและการท่องเที่ยว

7.ด้านการผลิตไฟฟ้า

โดยเขื่อนวชิราลงกรณสร้างปิดกั้นแม่น้ำแควน้อยบริเวณตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ตัวอ่างเก็บน้ำอยู่ในท้องที่อำเภอทองผาภูมิและอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เริ่มก่อสร้างในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2522 เสร็จในปี พ.ศ. 2527 หลังสร้างเสร็จ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ไปทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อนเขาแหลมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2529 และต่อมาพระราชทานชื่อใหม่ว่า "เขื่อนวชิราลงกรณ" ตามพระนามของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เขื่อนมีความจุ 8,860 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยปีละ 5,369 ล้านลูกบาศก์เมตร ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 3 เครื่องบริเวณปล่อยน้ำ ขนาดกำลังผลิต 100,000 กิโลวัตต์ รวมกำลังผลิต 300,000 กิโลวัตต์ ให้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยปีละ 760 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง การเดินทาง ใช้เส้นทางออกจากกรุงเทพมหานครโดยถนนเพชรเกษม (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4) ผ่านนครปฐมแล้วขึ้นสะพานเลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 ผ่านบ้านโป่ง ลูกแก ท่ามะกา ท่าม่วง แล้วเข้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี จากนั้นเลี้ยวซ้ายอีกครั้งที่แยกแก่งเสี้ยน บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 ดังเดิมไปอีกประมาณ 190 กิโลเมตรบนเส้นทางทองผาภูมิ-สังขละบุรี