สภาพทางภูมิศาสตร์และแหล่งที่ตั้งของสมัยสุโขทัยเป็นพื้นที่ลาดเอียงเพราะเป็น พื้นที่เชิงเขาทำให้ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ตามธรรมชาติ จึงจำเป็นต้องพัฒนาแหล่งกักเก็บน้ำ ไว้ใช้ในฤดูแล้งสำหรับการเกษตร อุปโภคบริโภค ผู้คนในสมัยสุโขทัยจึงได้สร้างอ่างกักเก็บน้ำขึ้น โดยการสร้างทำนบเชื่อมระหว่างเขาเพื่อกักเก็บน้ำ เรียกตามจารึกว่า “สรีดภงส์” (เขื่อน หรือ ทำนบ) รวมทั้ง “ตระพัง” (การขุดบ่อหรือสระ) ดังปรากฏในศิลาจารึกหลักที่ 1 “เบื้องหัวนอน เมืองสุโขทัย มีกุฎิวิหารปู่ครูอยู่ มีสรีดภงส์ ป่ามะพร้าว ป่าล่าง มีป่ามะม่วง ป่าขาม มีน้ำโคก มีพระขพุงผี เทพดาในเขาอันนั้น” หมายถึง เมืองสุโขทัยทางทิศใต้นั้นได้มีการสร้างทำนบ ที่เรียกว่า “สรีดภงส์” เพื่อบังคับน้ำจากคลองเสาหอให้ไหลไปทางท่อดินเผาขนาดต่างๆ ผ่าน เข้าไปในกำแพงเมือง ไหลลงไปในตระพังขนาดใหญ่กลางเมืองสุโขทัย การสร้างชลประทานของเมืองสุโขทัย เป็นประโยชน์ทั้งทางด้านเกษตรกรรม และการคมนาคม เพราะชาวสุโขทัยใช้น้ าที่มาทางท่อของพระยาร่วงส าหรับการเกษตรจาก เหมืองฝาย โดยไม่ต้องอาศัยน้ าฝนแต่เพียงอย่างเดียว รวมถึงประโยชน์ทางด้านอุปโภคและ บริโภคภายในเมืองสุโขทัย เพราะชาวสุโขทัยจะขุด “ตระพัง” (การขุดบ่อหรือสระ) จำนวนมาก ไว้กักเก็บน้ำไว้ใช้ในการดำเนินชีวิต ภูมิปัญญาทางด้านการบริหารจัดการน้ำทำให้เมืองสุโขทัย มีน้ำใช้ตลอดปีผืนแผ่นดินมีความสมบูรณ์ มีผลผลิตที่สามารถเลี้ยงชาวเมืองได้