การประกอบอาชีพส่วนใหญ่ของประชากรในตำบลคู้ยายหมีมากกว่า 80 เปอร์เซ็น จะประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น การทำไร่มันสำประหลัง ไร่ยางพารา ไร่ยูคาลิปตัส การเพาะปลูก รวมไปถึงการทำนา เป็นต้น เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มเหมาะแก่การเพาะปลูก
การปลูกพืชผักสวนครัวมีความสำคัญเป็นอันดับแรกของชีวิตประจำวัน เพราะใช้เป็นอาหารในครัวเรือนได้ดี ถ้าปลูกมากมีเหลือก็จำหน่ายได้ และสามารถยึดเป็นอาชีพได้ ขอให้มีความยึดมั่นในธรรมชาติ มีความขยันและอดทน การปลูกพืชผักสวนครัวมีหลักปฏิบัติ ๕ ประการ คือ การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ เมล็ดพันธุ์มีความจำเป็นในการเริ่มต้นการเพาะปลูก จึงควรศึกษาเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ดี แข็งแรง ไม่เป็นโรคง่าย คัดสรรแล้วเก็บรักษาไว้อย่างดีก่อนปลูก การเตรียมดิน คุณภาพของดิน จะเป็นตัวกำหนดการเจริญเติบโตของพืช การให้อาหารแก่ดินด้วยปุ๋ยชีวภาพจะทำให้ดินมีชีวิตและช่วยย่อยอินทรียวัตถุในดิน ให้ดินอุดมสมบูรณ์พร้อมแก่การเพาะปลูก
การทำนา หมายถึง การปลูกข้าวและการดูแลรักษาต้นข้าวในนา ตั้งแต่ปลูกไปจนถึงเก็บเกี่ยว การปลูกข้าวในแต่ละท้องถิ่นจะแตกต่างกันไปตามสภาพของดินฟ้าอากาศ และสังคมของท้องถิ่นนั้นๆ ในแหล่งที่ต้องอาศัยน้ำจากฝนเพียงอย่างเดียว ก็ต้องกะระยะเวลาการปลูกข้าวให้เหมาะสมกับช่วงที่มีฝนตกสม่ำเสมอ และเก็บเกี่ยวในช่วงที่ฤดูฝนหมดพอดี เนื่องจากแต่ละท้องถิ่นในประเทศไทยพื้นฐานของการทำนาและตัวกำหนดวิธีการปลูกข้่าวและพันธุ์ข้าวที่จะใช้ในการทำนามีปัจจัยหลัก 2 ประการคือสภาพพื้นที่ (ลักษณะเป็นพื้นที่สูงหรือต่ำ) และภูมิอากาศ สภาพน้ำสำหรับการทำนา หลักสำคัญของการทำนา ฤดูทำนาปีในตำบลคู้ยายหมีปกติจะเริ่มราวเดือนพฤษภาคมถืงกรกฎาคมของทุกปี ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝน เมื่อ 3 เดือนนี้ผ่านไป ข้าวที่ปักดำหรือหว่านเอาไว้จะสุกงอมเต็มที่พร้อมเก็บเกี่ยว ส่วนนาปรังสามารถทำได้ตลอดปี เพราะพันธุ์ข้าวที่ใช้ปลูกเป็นพันธุ์ที่ไม่ไวต่อช่วงแสงเมื่อข้าวเจริญเติบโตครบกำหนดอายุก็จะสามารถเก็บเกี่ยวได้
รูปภาพโดย อบต.เหล่าโพนค้อ