แหล่งเรียนรู้ท้องถิ่นของชุมชนชาวไทยเชื้อสายมุสลิม

แหล่งเรียนรู้ท้องถิ่นของชุมชนชาวไทยเชื้อสายมุสลิม

บะแล 100 ปี ณ หมู่ 5 คลอง 18 ตำบลหมอนทอง อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา


บะแล อายุ 100 ปี หรือที่เรียกว่าที่ละหมาดสมัยเก่าที่ตั้งอยู่ติดกับ มัสยิดดารุ้นคอยร๊อต คลอง 18 หมู่ 5 เดิมจากอาคารไม้ดรงเรียนสอนอัลกุรอ่านท่านครูสหาก และเล็ก รอหิมมะหุ้ลลอฮหลังเก่า ก่อนยกสถานะขึ้นเป็นมัสยิดอาคารคอนกรีต อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นที่ทำละหมาดหรือทำพิธีทางศาสนาของมุสลิมในชุมชนมาช้านานและเป็นสถานที่ประกอบพิธีต่างๆ เช่น การละหมาด การนิกะห์ หรือการแต่งงาน พิธีฝังศพมุสลิมที่เสียชีวิตในการนำศพมาละหมาดญ่านาซะห์ และการทำบุญต่างๆรวมถึงการจัดงานน้ำชา เพื่อหารายได้เข้ามัสยิดเพื่อการบำรุงอาคารและเงินค่าตอบแทนครูสอนศาสนาเนื่องด้วยครูสอนศาสนาไม่มีเงินเดือนบวกกับ โต๊ะเซี่ย หรือเป็นที่รู้จักกันภาษาชาวบ้านคือคนดูแลทำความสะอาดบะแลอละมัสยิด

ภาพมัสยิดปัจจุบัน

โดยไม้ที่ใช้ทำการก่อสร้างนี้ได้รับบริจาคและขายให้ในราคาถูกๆเพราะเป็นการนำไปสร้างในกิจการทางศาสนาเพื่อให้มุสลิมในชุมชนได้ใช้ประโยชน์ และเพื่อเป็นการทำบุญให้กับมัสยิด ท่าเปรียบในเรื่องของศาสนาอิสลามถือเป้นบุญที่ยิ่งใหญ่มากเพราะได้ได้ประโยชน์ในชุมชนได้หลายอย่าง


โดยไม้เก่านี้ได้มาจากโรงเลื่อยตระกูลย่านบางอ้อ เพชรทองคำ มุขตารี ในการสร้างบะแลในสมัยนั้นได้รับความร่วมมือจากคนในชุมชนอย่างแข้มแข็งอีกทั้งยังได้ช่างฝีมือในสมัยนั้นในการแกะลายที่มีความงดงามและโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของมัสยิดในสมัยนั้น เพราะในสมัยนั้นถ้านับย้อนเวลาไปการก่อสร่างอาคารมัสยิดจะไม่มีกระจกและปูนเหมือนในสมัยปัจจุบัน คนในสมัยนั้นจึงใช้ไม่มาแกะลายเพื่อความสวยงามและเป็นช่องระบายลมตามการส้างบะแลในสมัยก่อนที่คนโบราณนิยมทำ จึงทำให้บะแลมีความงดงามและเป็นอาคารที่น่ารักษาไว้คงสภาพเดิม

ต่อมาในปัจจุบันสิ่งปลูกสร้างสมัยใหม่ได้มีอิทธิพลต่อการก่อสร้างอาคารเนื่องจากมีเทคโนโลยีและความสะดวกสะบายเข้ามาขึงทำให้คนในชุมชนและผู้นำศาสนาได้จัดงานประจำปีหารายได้เพื่อสร้างอาคารหลังใหม่ที่มีชื่อว่า มัสยิดดารุ้นคอยร๊อต หลังนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนาในชุมชนคลอง 18 ซึ่งมีชื่อว่ามัสยิดดารุ้ลคอยร๊อตในปัจจุบัน และอย่างไรก็ตาม บะแลที่สร้างด้วยไม่ก็ยังคงอยู่เพราะเป็นบะแลที่มีคุรค่าทางสาสนาและคุณค้าทางความศัทธาของคนในชุมชนที่เป็นอนุศรและเป็นที่เก็บคำภีอัลกุรอ่านที่มีความเก่าแก่ประจำมัสยิดจนถึงปัจจุบันนี้แต่เนื่องด้วยอาคารหลังใหม่ถูกส้างขึ้นมาทดแทนหลังเก่าจึงทำให้อาคารหลังใหม่บทบังทำให้เวลาผ่านบริเวณมัสยิดดารุ้นคอยร๊อตแห่งนี้ เราจึงมองไม่เห็นอาคารบะแลหลังเก่าที่เป็นไม่วึ่งมีความงดงาม แต่อย่างไรก็ตามความสัทธาต่อศาสนาของคนในชุมชนมุสลิมก็ไม่เคยจสงหายไป ไม่ว่าจะกี่ยุคต์กี่สมัย ก็ยังมีคนมาแวะเวียนทำบุญและมาเยี่ยมชมสถานที่ที่มีความเก่าแก่และเป็นสถานที่สำคัญไม่ขาดสาย

นอกจากนี้ในปัจจุบันมัสยิดดารุ้นคอยร็อตคลอง 18 ตำบลหมอนทอง อำเภอบางน้ำเปรี้ยวของเรา ได้รับการกล่าวขานว่ามีมรดกที่สำคัญทางศาสนาที่ลำค่าไปด้วยความศัทธาและความสสามัคคีทำให้เป็นที่รู้จักและยังได้รับบริจาคจากประชาชนมากมายทำให้อาคารในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงจากเดิมอย่างมากและอาตารมีความใหญ่โตทำให้เกิดเป็นแหล่งเรียนรู้ในด้านกิจกรรมต่างๆ อาธิเช่นกิจกรรมส่งเริมกีฬาต้านยาเสพติดของกลุ่มวัยรุ้นที่มีชื่อกลุ่มว่า 18 กรกฎา

เยาวชนกลุ่ม 18 กรกฎากลุ่มนี้จะเป็นแก๊งนำด้านจิตอาสาเพื่อสอดส่องดูและและช้วยกันพัฒนาชมชนหมู่บ้านเพื่อสอดส่องดูแล ในเรื่องการป้องกันยาเสพติดในชุมชน และช่วยเหลืองานบริการในด้านต่าง ในชุมชนเมื่อเกิดการรวมตัวและขอความช่วยเหลือซึ่งถือเป็น กลุ่มที่มีความแข้มแข็งและเป็นตัวอย่างที่ดีในชุมชนเป็นอย่างมากและได้รับการสนับสนุนจากผู้นำชุมชนในด้านต่างๆมาดดยตลอด

นอกจากนี้เรายังมี กลุ่มผู้ลูงอายุที่เรียกว่า ชมรมดอกลำดวนที่มีกิจกรรมการฝึกอาชีพในชุมชนมากมายเพื่อสร้างรายได้ในชุมชนให้กับผู้สูงอายุ และในเรื่องของศานนามีกิจกรรมการขับร้องนาซี๊รซึ่งเป็นกิจกรรมวัฒนธรรมของชนมุสลิมที่มีมายาวนานในสมัยท่านนบีเพื่อเป็นขอบคุณท่านนบี หรือศาดาในศาสนาอีสลาม อย่างไรก็ตามความศัทธาของศานาความเชื่อไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดวัตถุประสงค์ของทุกศาสนาหัวใจหลักก้คือ สอนให้ทุกคเป็นคนดี เพราะสิ่งที่จะยั่งยืนและอยู่คู่กับคนในชุมชนนั่นก็คือความดีที่ทุกคนได้ทำเพราะสุดท้ายแล้วสิ่งที่จะอยู่กับเราไปจนวันตายในวันที่เราหมดลมหายใจก็คือความดีที่เราได้ทำ ก็เปรียบกับอาคารบะและที่ยังตั้งตระหง่านคงทนด้วยความเก่าแก่ถึง 100 ปีมาจนถึงทุกวันนี้