วัดชนะสงสาร

ที่อยู่: หมู่7 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับอนุญาตให้ตั้งวัดเมื่อปี พ.ศ. 2365 มีเนื้อที่ 15 ไร่ 99 ตารางวา มีพระหลวงพ่อโตศรีอริยชนะสงสารเป็นพระประธานในพระอุโบสถและภายในพระอุโบสถมีพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าอยูที่ฝาผนังของพระอุโบสถด้วย

ชาวบ้านเรียกว่า "วัดสงสาร" ตามประวัติที่เล่าสืบต่อกันมาว่า เดิมบริเวณที่สร้างวัดนี้เป็นที่ของอุบาสิกาสร้อย ซึ่งศรัทธาต่อพระธุดงค์ที่ได้มาปลักกลดในบริเวณนั้น จึงได้ออกปากถวายที่ดินแก่พระธุดงค์รูปนั้น

เมื่อพระธุดงค์รูปนั้นได้ธุดงค์ไปที่อื่น จึงได้ถวายที่ดินแปลงนี้กับวัดปากคลอง วัดปากคลองจึงได้ย้ายวัดมาโดยสร้างกุฎิเป็นอาคารไม้หลังคาจาก ดูไม่แน่นหนา ชาวบ้านผ่านไปมาก็ออกปากว่าวัดนี้น่าสงสาร จึงเรียกกันติดปากว่า "วัดสงสาร" ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสทางชลมารคได้เสด็จผ่านมา เจ้าอาวาสลงไปรับเสด็จ พระองค์จึงได้พระราชทานชื่อใหม่ว่า "วัดชนะสงสารพิทยาธร"

จากพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่อง เสด็จประพาสคลองแสนแสบ เมื่อรัตนโกสินทรศก 126 (พ.ศ. 2450) ได้เสด็จเปิดทางรถไฟสายเหนือตั้งแต่ทางปากน้ำโพถึงเมืองพิษณุโลก และสายตะวันออกถึงเมืองฉะเชิงเทรา ทำพิธีเปิดในบริเวณสถานีกรุงเทพฯ และเสด็จพระราชดำเนินประพาสเมืองฉะเชิงเทรา

พระบาทสมเด็จสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงนิพนธ์เกี่ยวกับสี่แยกท่าไข่ และวัดสงสาร (ปัจจุบัน เรียกวัดชนะสงสาร) ตำบลเนื่องเขต (ปัจจุบันเรียก ตำบลคลองนครเนื่องเขต) ไว้ตอนหนึ่งว่า “ วันที่ 30 มกราคม ร.ศ.126 (พ.ศ. 2450) ออกเรือ 2 โมงกับ 19 นาที เข้าประตูน้ำ ไม่ช้า เหตุด้วยเป็นเวลาน้ำขึ้น เปิดน้ำไม่ถึงศอกได้ระดับ ตามที่แต่งเครื่องบูชาเสียแล้ว ข้อที่กรมมรุพงศ์ (พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นมรุพงศ์ศิริพัฒน์ เป็นตำแหน่งข้าหลวงเทศาภิบาล มณฑลประจิน) คิดจะปิดนั้นไม่ปิด จนพลวกน้ำในคลองจับตลิ่งเป็นตะไคร่เหตุด้วยน้ำขัง มีเรือนฝากระดานราย ๆ ไปมาก ระยะต้นนี้ที่มากที่สุดบ้านท่าไข่ หมู่ที่ 9 พื้นเป็นท้องนา มีสะแกราย 5 โมงเช้าหยุดวัดสงสาร ทำครัวที่ศาลาริมน้ำ (เวลาเสด็จประพาสต้นทรงทำครัวเครื่องเสวยเอง) มูลเหตุแห่งชื่อวัดสงสารว่า มีกุฏิหลังเดียว ราษฎรศรัทธามาสร้างเพิ่มเติม สงสารจริงๆ ปิติ ไม่ใช่ สังสาเร กรมดำรงโจทย์ขึ้นว่า ถ้าจะเติมหน้าชื่อว่า วัดแสนสงสาร พระจะเอาหรือไม่ เราเป็นผู้ตอบแทนพระว่าไม่เอาจะเอาสุดสงสาร เพราะได้ทั้งสาเรด้วย ออกเรือ บ่าย 2 โมง อันที่จริงมีลมไม่สู้ร้อน วัดสงสารนี้อยู่ตำบลเนื่องเขตต์ เห็นจะยืมมาจากท้ายชื่อคลองนคร (เนื่องเขตต์) ”