หอคอย ท่าเรือนครแหลมฉบัง

ประวัติความเป็นมา

ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง เผยว่า นโยบายท่าเรือแหลมฉบัง นอกจากพัฒนาท่าเรือเพื่อพัฒนาศักยภาพการขนส่งสินค้าทางทะเลแล้ว ท่าเรือแหลมฉบัง ยังใส่ใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อม และชุนชนโดยรอบท่าเรือแหลมฉบัง โดยมุ่งหวังที่จะพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเป็นท่าเรือพาณิชย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีหลายโครงการที่ท่าเรือแหลมฉบังจัดทำขึ้นเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม และชุมชน ซึ่งบางโครงการเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่เป็นความภาคภูมิใจของชาวท่าเรือแหลมฉบัง อันซีนจุดแรก คือ หอบังคับการพัฒนาแหลมฉบัง ซึ่งจะมีใครทราบบ้างว่า หอบังคับการพัฒนาแหลมฉบังนั้น เดิมชื่อว่าหอสังเกตการณ์ แต่ต่อมา ได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ให้ใหม่ว่า หอบังคับการพัฒนาแหลมฉบัง เนื่องจากเมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จมาที่วัดญาณสังวราราม และได้มาชมพระอาทิตย์ตกดินที่หอบังคับการแห่งนี้ โดยพระองค์แจ้งว่า ที่หอบังคับการของท่าเรือแหลมฉบัง คือ จุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในจังหวัดชลบุรี

นอกจากนี้ ยังมีอันซีนอีกหลายแห่งในท่าเรือแหลมฉบัง ที่ยังไม่มีใครเห็น หรือทราบมาก่อน เช่น นกในท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งยังมีให้เห็นจำนวนมาก รวมทั้งนกทีมีให้เห็นโดยทั่วไป และนกที่หายาก ซึ่งนกเหล่านี้เป็นตัวบุ่งชี้ถึงการเป็นท่าเรือที่มิตรต่อสิ่งแวดล้อม หากสิ่งแวดล้อมไม่ดี นกเหล่านี้คงจะไม่สามารถอยู่ได้ ทางท่าเรือแหลมฉบัง จึงได้จัดโครงการประกวดถ่ายรูป ในหัวข้อ “นกในท่า” ขึ้น เพื่อเชิญชวนให้พนักงานท่าเรือแหลมฉบัง ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ และประชาชนทั่วไปเกิดความสนใจในธรรมชาติ และเป็นการสนับสนุนโครงการท่าเรือสีเขียวอย่างครบวงจร พร้อมถ่ายทอดความงดงามเหล่านั้นผ่านภาพถ่ายนกนานาชนิด ที่มีอยู่ในเขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และยังมีแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับต้นไม้ประจำจังหวัดของแต่ละจังหวัดทั่วประเทศไทย ซึ่งทางท่าเรือแหลมฉบัง ได้จัดทำสวนสุขภาพขึ้น โดยทำต้นไม้ประจำจังหวัดของแต่ละจังหวัดมาปลูกไว้เพื่อให้พนักงาน และประชาชนโดยทั่วไปได้มาศึกษาหาความรู้ พร้อมกับได้มีเส้นทางรถจักรยานไว้ให้ออกกำลังกาย ซึ่งในสวนแห่งนี้ยังมีสระน้ำพร้อมทั้ง สะพานญี่ปุ่นเล็ก ๆ ตั้งอยู่ โดยในช่วงเย็นสถานที่แห่งนี้จะสวยงามมาก เนื่องจากปลายแหลมของหอบังคับพัฒนาแหลมฉบัง จะทอดผ่าน และปลายยอดแหลมของหอบังคับการพัฒนาแหลมฉบังจะมาจดที่สะพานพอดี นอกจากนี้ บริเวณสระน้ำแห่งนี้จะมีนกน้ำจากไซบีเรย บินมาอยู่อาศัยเป็นประจำทุกปี ปีละ1 ครั้ง

นอกจากนี้ ทางท่าเรือแหลมฉบัง ยังจัดให้มีเรียงความ ท่าเรือในฝัน เนื่องจากต้องการที่จะให้บุคคลภายนอก และเยาวชนได้บอกเล่าถึงความรู้สึก หรือสะท้อนภาพของท่าเรือ และความต้องการของบุคคลภายนอกอยากเห็นท่าเรือแหลมฉบังเป็นแบบไหน และป่าชายเลน เป็นอีกหนึ่งอันซีนที่ทางท่าเรือแหลมฉบังขอนำเสนอ ซึ่งในด้านนโยบาย CSR ดูแลสิ่งแวดล้อม และชุมชน ท่าเรือแหลมฉบัง ได้ร่วมกับเทศบาลนครแหลมฉบัง และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ได้จัดโครงการอนุรักษ์ป่าชายเลน และชายฝั่งทะเลแหลมฉบัง บนพื้นที่ 28 ไร่ เพื่อสนองพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่ออนุรักษ์ป่าชายเลน และทรัพยากรชายฝั่งทะเลแหลมฉบัง และเพื่อสร้างแหล่งเรียนรู้ แหล่งสันทนาการ ศึกษาดูงานด้านการอนุรักษ์ป่าชายเลนให้แก่เยาวชน และประชาชนทั่วไป ซึ่งปัจจุบัน มีความสมบูรณ์ อยู่ติดกับวัดแหลมฉบัง มีสะพานให้เดินชมธรรมชาติภายใน หลังจากนั้น เดินทางจับจ่ายสินค้าโอทอป อาหารทะเลแห้งของชุมชนแหลมฉบัง