อาหารว่าง "ม้าฮ่อสับปะรด"
ม้าฮ่อ หรือ ม้าห้อ เป็นอาหารว่างของไทยอย่างโบราณชนิดหนึ่ง ลักษณะเป็นไส้รสหวานเค็มรสชาติคล้ายไส้สาคูจับกับผลไม้รสเปรี้ยวจัด โดยมากเป็นสับปะรด หากไม่มีสับปะรดก็ใช้ผลส้มเขียวหวานแทนได้ แต่จะเรียกว่า มังกรคาบแก้ว นอกจากนี้ยังมีการใช้มะยงชิดหรือกีวีที่มีรสชาติเปรี้ยวได้ นิยมทำเนื่องในเทศกาลงานบุญหรือพิธีกรรมสำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะในชุมชนเชื้อสายมอญ เข้าใจว่าชาวไทยสมัยก่อนคงนึกเสียดายผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวแต่ไม่สามารถกินเปล่าได้ จึงทำไส้รสหวานเค็มที่สามารถรับประทานคู่กันได้อย่างกลมกล่อม ปัจจุบันหารับประทานได้ค่อนข้างยาก
ม้าฮ่อประกอบไปด้วยสองส่วนคือตัวผลไม้ และตัวไส้ ตัวผลไม้ส่วนใหญ่เป็นสับปะรดหั่นชิ้นขนาดพอคำ หากเป็นส้มจะนำกลีบส้มที่ลอกใยส้มออกแล้วไปผ่ากลาง สำหรับนำไส้ไปใส่ ส่วนตัวไส้ทำจากกระเทียม รากผักชี พริกไทยโขลกแล้วนำไปผัดกับน้ำมันให้หอม ใส่น้ำตาลปี๊บ (หรือน้ำตาลทราย) หมูสับ (และ/หรือกุ้งสับ) เกลือ (หรือน้ำปลา) ถั่วลิสงคั่วบด ผัดจนเหนียวเข้ากันให้ได้รสหวานเค็ม ก่อนนำไปปั้นเป็นก้อนกลมแล้ววางลงบนผลไม้ที่เตรียมไว้ เสร็จสรรพจึงนำใบผักชีและพริกชี้ฟ้าซอยตกแต่งให้สวยงาม
เนื่องจากตำบลหนองขามมีการปลูกสัปปะรดไว้ค้าขายและบริโภคมีพอสมควร ซึ่งสัปปะรดที่ปลูกเป็นพันธุ์ "ศรีราชา" มีประวัติพอสังเขปให้ท่านได้รู้จักสัปปะรดศรีราชามากขึ้น
สับปะรดศรีราชา
การกล่าวอ้างชื่อของ “สับปะรดศรีราชา” เพื่อเพิ่มมูลค่าของสับปะรดที่ขาย ไม่ว่านั่นจะเป็นสับปะรดศรีราชาจริงๆ หรือไม่นั้นดูจะเป็นสิ่งที่คนไทยหลายๆพื้นที่พบเห็นได้ชินตา
สับปะรดศรีราชานี้ ดูย้อนไปได้ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยผู้นำพันธุ์สับปะรดนี้มาเผยแพร่ก็คือ ท่านเจษฎาธิการเทโอฟาน (ชิน บุญยานันท์) อธิการคนแรกของโรงเรียนอัสสัมชันศรีราชา ในครั้งนั้น ทางการได้ประกาศปิดเรียนโดยไม่มีกำหนด ท่านจึงพาเด็กในอุปการะราวสิบกว่าคนออกจากอัสสัมชัญกรุงเทพฯ มาที่ศรีราชาและคิดจะใช้ประโยชน์จากที่ดินรกร้างของโรงเรียน เพื่อปลูกพืชที่คุ้มกับการลงทุนลงแรง แต่เนื่องจากดินของศรีราชาเป็นดินปนทรายและกันดารน้ำ ท่านจึงศึกษาค้นคว้าแล้วพบว่าสับปะรดเป็นพืชชนิดหนึ่งซึ่งเจริญได้ดีในดินลักษณะนี้ แต่สับปะรดที่ชาวบ้านปลูกกันอยู่ลูกเล็ก รสไม่ดี ท่านจึงไปนำพันธุ์มาใหม่จากทางภาคใต้ และตั้งชื่อว่า “พันธุ์ปัตตาเวีย” ซึ่งมีผลโตกว่าสับปะรดพื้นบ้าน 4-5 เท่า รสหวานฉ่ำ ท่านชั่งขายตามน้ำหนัก กิโลกรัมละ 2 บาท ซึ่งนับว่าแพงมาก ในสมัยนั้น แต่ก้ได้รับความนิยมอย่างมาก (บางลูกน้ำหนักถึง 5 กิโลกรัม) และให้ประทับตรา A.C. ซึ่งเป็นอักษรย่อของโรงเรียนอัสสัมชัญ ไว้ที่ขั้วสับปะรดทุกลูก จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า สับปะรดเอซี ภายหลังท่านอธิการได้จำหน่ายหน่อสับปะรดด้วย มีผู้สนใจซื้อไปปลูกก็มาก จนแพร่หลายไปทั่วศรีราชา และกลายเป็นสับปะรดศรีราชาที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วอย่างทุกวันนี้
หากท่านได้ผ่านมายังบ้านเนินแสนสุข หมู่ที่ 7 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มารับประทานอาหารท้องถิ่นซึ่งทางบ้านเนินแสนสุขจัดทำอาหารคาวหวานไว้ต้อนรับ อาทิเช่น ข้าวอบสัปปะรด ต้มสัปปะรดหมูสามชั้น แกงสัปปะรดกับหอย และ อาหารว่าง "ม้าฮ่อ" มาลองฝึกทำกันนะค่ะ
ส่วนผสมม้าฮ่อ เนื้อหมูติดมันบด เนื้อกุ้งสดบด พริกไทย กระเทียม และรากผักชี น้ำมันพืช (สำหรับผัด) น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นเฉียง ผักชีเด็ดเป็นใบ
วิธีทำม้าฮ่อ นำพริกไทย กระเทียม และรากผักชี โขลกให้ละเอียดนำลงไปผัดกับน้ำมันพืชจนหอม ใส่เนื้อหมูและกุ้งลงไปผัดพอสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลากับน้ำตาลปี๊บ จากนั้นใส่ถั่วลิสงบดลงไป ชิมรสให้ออกรสเค็มตามด้วยหวาน ไส้รสหวานเค็มคล้ายไส้ของสาคูไส้หมู เพียงแต่จะไม่ใส่ไชโป๊ ตักใส่จานพักทิ้งไว้ให้เย็น พอเย็นแล้วปั้นส่วนผสมที่ผัดไว้เป็นก้อนกลม วางลงบนผลไม้ที่เตรียมไว้ ตกแต่งด้วยผักชีและพริกชี้ฟ้า
หมายเหตุ :Thai PBS เป็นสื่อกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะของไทย