ตำบลหนองขามมีพื้นที่ปลูกสับปะรดพันธุ์ "ปัตตาเวีย" มีชื่อในภาษาอังกฤษว่า Smooth Cayenne เรียกกันคุ้นหูว่าพันธุ์ศรีราชา ให้ผลที่มีขนาดใหญ่กว่่าสับปะรดสายพันธุ์อื่น ๆ เนื้อมีความหวานฉ่ำเป็นพิเศษ ลำต้นจะมีใบเป็นสีเขียวเข้มกลางเป็นร่องสีน้ำตาลแดง ปลายใบจะมีหนามแหลมขนาดเล็กเนื่อจากขนาดที่ใหญ๋และได้รสชาติอร่อย จึงนิยมปลูกเพื่อนำไปแปรรูปเป็นสับปะรดกระป๋อง
เนื่องจากตำบลหนองขามมีการปลูกสัปปะรดไว้ค้าขายและบริโภคมีพอสมควร ซึ่งสัปปะรดที่ปลูกเป็นพันธุ์ "ศรีราชา" มีประวัติพอสังเขปให้ท่านได้รู้จักสัปปะรดศรีราชามากขึ้น

สับปะรดศรีราชา

การกล่าวอ้างชื่อของ “สับปะรดศรีราชา” เพื่อเพิ่มมูลค่าของสับปะรดที่ขาย ไม่ว่านั่นจะเป็นสับปะรดศรีราชาจริงๆ หรือไม่นั้นดูจะเป็นสิ่งที่คนไทยหลายๆพื้นที่พบเห็นได้ชินตา

สับปะรดศรีราชานี้ ดูย้อนไปได้ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยผู้นำพันธุ์สับปะรดนี้มาเผยแพร่ก็คือ ท่านเจษฎาธิการเทโอฟาน (ชิน บุญยานันท์) อธิการคนแรกของโรงเรียนอัสสัมชันศรีราชา ในครั้งนั้น ทางการได้ประกาศปิดเรียนโดยไม่มีกำหนด ท่านจึงพาเด็กในอุปการะราวสิบกว่าคนออกจากอัสสัมชัญกรุงเทพฯ มาที่ศรีราชาและคิดจะใช้ประโยชน์จากที่ดินรกร้างของโรงเรียน เพื่อปลูกพืชที่คุ้มกับการลงทุนลงแรง แต่เนื่องจากดินของศรีราชาเป็นดินปนทรายและกันดารน้ำ ท่านจึงศึกษาค้นคว้าแล้วพบว่าสับปะรดเป็นพืชชนิดหนึ่งซึ่งเจริญได้ดีในดินลักษณะนี้ แต่สับปะรดที่ชาวบ้านปลูกกันอยู่ลูกเล็ก รสไม่ดี ท่านจึงไปนำพันธุ์มาใหม่จากทางภาคใต้ และตั้งชื่อว่า “พันธุ์ปัตตาเวีย” ซึ่งมีผลโตกว่าสับปะรดพื้นบ้าน 4-5 เท่า รสหวานฉ่ำ ท่านชั่งขายตามน้ำหนัก กิโลกรัมละ 2 บาท ซึ่งนับว่าแพงมาก ในสมัยนั้น แต่ก้ได้รับความนิยมอย่างมาก (บางลูกน้ำหนักถึง 5 กิโลกรัม) และให้ประทับตรา A.C. ซึ่งเป็นอักษรย่อของโรงเรียนอัสสัมชัญ ไว้ที่ขั้วสับปะรดทุกลูก จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า สับปะรดเอซี ภายหลังท่านอธิการได้จำหน่ายหน่อสับปะรดด้วย มีผู้สนใจซื้อไปปลูกก็มาก จนแพร่หลายไปทั่วศรีราชา และกลายเป็นสับปะรดศรีราชาที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วอย่างทุกวันนี้