วัดพระพุทธบาทตากผ้า ตำนานแห่งล้านนา


ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาประจำชาติไทย ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทย สืบทอดกันมาอย่างช้านาน วัดเป็น ศาสนสถาน เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป เป็นที่พักอาศัยของพระภิกษุสามเณร เป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา ในปัจจุบันมีวัดวาอารามต่างๆ ที่สวยงามและได้พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม วิถีพุทธ เรียนรู้พุทธศาสนา และประวัติศาสตร์

วัดพระพุทธบาทตากผ้า เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ มีปูชนียสถานที่สำคัญหลายแห่ง มีบรรยากาศร่มรื่น ทิวทัศน์สวยงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและขึ้นชื่อของจังหวัดลำพูน


วัดพระพุทธบาทตากผ้า

ภาพโดย : อนุตรา บัวหลวง

ประวัติพอสังเขป วัดพระพุทธบาทตากผ้า ตั้งอยู่ระหว่างดอยม่อนช้างกับดอยเครือ นับถือกันว่าเป็นรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าที่มาประทับไว้ตรงบริเวณที่นำผ้าจีวรมาตาก มีรอยตารางบนผาหินที่เชื่อว่าคือรอยตากผ้าจีวรพระพุทธเจ้า ตำนานเล่าว่า ครั้งพระพุทธเจ้าเสด็จมาสู่ดินแดนสุวรรณภูมิ หลังจาริกและประทับพระบาทในที่ต่างๆ แล้ว เมื่อเสด็จมาถึงบนลานผาลาด (คือบริเวณที่ตั้งวัดพระพุทธบาทตากผ้าปัจจุบัน) สถานที่ที่พระองค์ทรงตั้งพระทัยจะประดิษฐานปาทเจดีย์ จึงทรงหยุดพักผ่อน แล้วให้พระอานนท์นำเอาจีวรไปตากบนผาลาดใกล้กับที่ประทับ หลังจากนั้นทรงอธิษฐานเหยียบพระบาทประดิษฐานรอยไว้บนผาลาดนี้ และตรัสทำนายว่าสถานที่แห่งนี้จะปรากฏ ชื่อว่า “พระพุทธบาทตากผ้า” ได้กล่าวไว้ว่าในสมัยพุทธกาล สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธะเจ้าได้เสด็จมาโปรดเวไนยสัตว์ในดินแดนสุวรรณภูมิ (ประเทศไทยในปัจจุบัน) พระองค์ได้เสด็จไปในที่ต่างๆ กระทั่งเสด็จถึงบริเวณวัดพระพุทธบาทตากผ้าแห่งนี้ซึ่งเป็นผาลาด จึงได้ทรงอธิษฐานประทับรอยพระพุทธบาทลง ณ ที่แห่งนี้ เพื่อเป็นที่ สักการะบูชาของมวลเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย และพระองค์ได้ตรัสให้พระอานนท์เอาจีวรไปตากบนผาลาดใกล้บริเวณที่ประทับ ซึ่งปรากฏเป็นรอยเลือนลางอยู่ ดังนั้น วัดนี้จึงได้ชื่อว่า “วัดพระพุทธบาทตากผ้า” มาถึงทุกวันนี้


รอยพระบาทของพระพุทธเจ้า

ภายโดย : น้าหนึ่ง Wacharapong สมาชิกชมรมถ่ายภาพจังหวัดลำพูน

จากเว็บไซด์ https://www.facebook.com/ppinkpanda/posts/540354369356223/

เมื่อเดินทางมาถึงวัด สถานที่แรกที่ควรเข้าชม คือการเข้าไปนมัสการรอยพระพุทธบาทที่ประดิษฐานในวิหารจตุรมุขพระอุโบสถ อาคารทรงไทย ผนังเป็นศิลาแลงโบกปูน ประตูหน้าต่าง บานไม้ แกะสลักลายไทยลงรักปิดทองอย่างสวยงาม หน้าต่างพระอุโบสถมี 12 ช่อง บนซุ้มหน้าต่างประดับลวดลายเป็นรูป 12 นักษัตร มือประณีตบรรจง สวยงาม

วิหารจตุรมุข

ภาพโดย : อนุตรา บัวหลวง

วิหารจตุรมุข

ภาพโดย : อนุตรา บัวหลวง

รอยพระพุทธบาทที่ประดิษฐานอยู่นี้มี 2 รอย คือ รอยพระพุทธบาทขนาดใหญ่ กว้าง 1 เมตร ยาว 2.5 เมตร และรอยขนาดเล็กกว้าง 32 นิ้ว ยาว 1 เมตร 26 นิ้ว รอยพระพุทธบาทนี้ตามข้อสันนิษฐาน ตามตำนานที่เล่าสืบต่อ กันมา เป็นรอยพระพุทธบาทที่แท้จริง นอกจากนี้ยังมีรอยเท้าเล็กๆ 3 รอย กับรอยเท้าโยคีอีก 1 รอย ปรากฏอยู่รอบๆ

รอยพระพุทธบาท

ภาพโดย : อนุตรา บัวหลวง

รอยเท้าพระอรหันต์

ภาพโดย : อนุตรา บัวหลวง

นอกจากนี้ภายในวัดยังมีกุฏิหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนครูบาพรหมา พฺรหฺจกฺโก อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งปัจจุบันกุฏิหลังนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุของพระสาวก

กุฏิรูปเหมือนหุ่นขี้ผึ้ง

ภาพโดย : อนุตรา บัวหลวง

รูปเหมือนหุ่นขี้ผึ้ง

ภาพโดย : อนุตรา บัวหลวง

อีกสถานที่ ที่ควรขึ้นไปนมัสการคือ พระธาตุสี่ครูบา ทั้งสี่พระองค์คือ พระครูบาพ่อเป็งโพธิโก พระครูบาอินทร์จักรักษา ครูบาพรหมจักรสังวร และครูบาคัมภีระ ซึ่งตั้งอยู่บนดอยเครือ ต้องขับรถอ้อมเขาขึ้นไปทางด้านหลังวัดพระพุทธบาทตากผ้า เส้นทางค่อนข้างชัน แต่ก็ไม่สูงมาก เป็นถนนลาดยาง สามารถขึ้นไปสักการะได้

พระธาตุสี่ครูบาแห่งนี้ ท่านครูบาพรหมา ได้มีดำริที่จะสร้างเจดีย์ไว้บนยอดดอยเครือ เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ไว้เป็นที่สักการบูชาของศาสนิกชนทั้งหลาย แต่ยังไม่ทันได้ดำเนินการ ท่านครูบาฯ ได้ถึงแก่มรณภาพลงเสียก่อน ทางศิษยานุศิษย์ โดยมีพระเวฬุวันพิทักษ์ พร้อมด้วยพระครูพัฒนากิจจานุรักษ์ (ครูบาชัยวงค์ เจ้าอาวาสวัดห้วยต้ม ในครั้งนั้น) เป็นประธานดำเนินการก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้น เพื่อเป็นการสืบทอดเจตนารมณ์ของท่านครูบาฯ โดยองค์พระธาตุเจดีย์ได้สร้างตามแบบพระบรมธาตุหริภุญชัย พระสถูปภายในพระธาตุสี่ครูบานั้น ได้สร้างตามแบบทรงพระเจดีย์พระเจ้าล้านทอง ซุ้มประตูของพระธาตุลำปางหลวง โดยด้านบนพระธาตุสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ ของอำเภอป่าซาง ได้อย่างสวยงาม


พระธาตุสี่ครูบา

ภาพโดย : อนุตรา บัวหลวง

พระธาตุสี่ครูบา

ภาพโดย : อนุตรา บัวหลวง

อ้างอิง :

จังหวัดลำพูน. (23 มกราคม 2562). วัดพระพุทธบาทตากผ้า./ https://www.lamphun.go.th/ https://www.lamphun.go.th/th/attractions/25/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%9C%E0%B9%89%E0%B8%B2

น้าหนึ่ง Wacharapong. (26 พฤษภาคม 2556). ตำนานรอยตากผ้า วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน./https://www.facebook.com/ppinkpanda/posts/540354369356223/