เลย เป็นจังหวัดเดียวของประเทศที่ปลูกฝ้ายมากเป็นอันดับ 1 ในสมัยนั้น และเพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงของจังหวัดเลยในด้านการท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีอยู่มากมาย คือ ภูกระดึง ภูเรือ ภูหลวง ควบคู่กับการส่งเสริมเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม ขณะเดียวกันก็เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนในชนบทที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้ท่องเที่ยวพักผ่อน รื่นเริงสนุกสนาน โดยในช่วงฤดูหนาวถือว่าเป็นช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมกับการจัดงานมากที่สุด เพราะเป็นช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น และฝ้ายกำลังออกดอกขาวบานสะพรั่งไปทั่วจังหวัดเลย ต่อมาสภาพเศรษฐกิจและสังคมเปลี่ยนไป ฝ้ายซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของจังหวัดเลย ขาดการเอาใจใส่ส่งเสริม เกษตรกรหันไปสนใจปลูกมะขามหวาน ข้าวโพด มะม่วงหิมพานต์ ยางพารา อ้อยและมันสัมปะหลัง ซึ่งมะขามหวานได้เข้ามามีบทบาทในทางเศรษฐกิจแทนฝ้าย ในสมัยนายชีวิน สุทธิสุวรรณ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเลย โดยได้มอบหมายให้คณะกรรมการในครั้งนั้นผลักดันให้นำชื่อมะขามหวานเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชื่องาน
นอกจากนี้ยังได้เปลี่ยนชื่องาน จากชื่อเดิมเป็น “งานกาชาดดอกฝ้ายบาน มะขามหวานเมืองเลย” ตั้งแต่ปี พ.ศ.2531 มาจนถึงปัจจุบัน โดยจัดต่อมาเป็นประจำทุกปี ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดเลย มีการแสดงศิลปะ วัฒนธรรมท้องถิ่น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสืบสานและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวจังหวัดเลย รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเลย โยงไปถึงการพัฒนาเศรษฐกิจของคนในท้องถิ่น จึงมีการแสดงสินค้าเกษตร สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ และเพื่อเป็นการส่งเสริมความรักความสามัคคี และรักหวงแหนในวัฒนธรรมพื้นบ้าน อันเป็นการพัฒนาสังคมโดยผ่านกระบวนการแสดงออกร่วมกัน ทางสภาวัฒนธรรมจังหวัด/อำเภอ/ตำบล/เทศบาล และศูนย์วัฒนธรรม ได้ร่วมกันออกร้านในงานนี้ พร้อมทั้งจัดประกวดและสาธิตการแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่น
การจัดงานกาชาดดอกฝ้ายบาน มะขามหวานเมืองเลย จะมีมหรสพสมโภชตลอด 9 วัน 9 คืน ในช่วงวันที่ 1 - 9 กุมภาพันธ์ ของทุกปี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://shorturl.asia/f81Q9
ภาพประกอบ : เที่ยวเลย