โครงการ ชุมชนแห่งการเรียนรู้ “ชุมชนคนทอหูก” ของ กศน.ตำบลยางเนิ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ มีเป้าหมายเพื่ออนุรักษ์ สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นงานศิลปะหัตถกรรมการทอผ้าด้วยกี่กระตุก ขยายองค์ความรู้ศิลปะหัตถกรรมการทอผ้าด้วยกี่กระตุกเป็นแหล่งเรียนรู้ในชุมชน ควบคู่ไปกับการสร้างอาชีพสร้างรายได้
โครงการ ชุมชนแห่งการเรียนรู้ “ชุมชนบ้านเห็ด” ของ ศกร.ระดับตำบลสารภี อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ที่มีศักยภาพทางด้านการเกษตร รวมถึงมีวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเพาะเห็ด อีกทั้งยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตร เนื่องจากในพื้นที่มีทรัพยากรที่เหมาะสมสำหรับการเพาะเห็ด เช่น ขี้เลื่อย ฟางข้าว และแหล่งน้ำ ชาวบ้านในชุมชนจึงมีการเพาะเห็ดและการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเห็ด ซึ่งเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว
โครงการ ชุมชนแห่งการเรียนรู้ “คนรักข้าวกล้อง” ของ ศกร.ระดับตำบลหนองแฝก อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เป้าหมายสำคัญของการขับเคลื่อน คือ การสร้างการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับความรู้สมัยใหม่การยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนให้มีคุณค่าและการสร้าง "ชุมชนแห่งการเรียนรู้" ที่เข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้ กระบวนการทำงาน เริ่มจากการประชุมวางแผนร่วมกับชุมชน ต่อยอดด้วยการพัฒนาเทคนิคการปลูกและการแปรรูปข้าวกล้องพร้อมทั้งจัดอบรมด้านการปลูกข้าวอินทรีย์ การทำบรรจุภัณฑ์ เช่น การสานตะกร้าลายใบไม้และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถอดบทเรียนเพื่อนำไปต่อยอดผลิตภัณฑ์ในอนาคต ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นได้ด้วยพลังของคนในชุมชน ร่วมกับความสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายต่าง ๆไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยแม่โจ้ มทร.ล้านนาสวทช. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและเทศบาลตำบลหนองแฝก ที่ช่วยเสริมสร้างองค์ความรู้และเชื่อมโยงการพัฒนาอย่างยั่งยืน ชุมชนคนรักข้าวกล้อง ไม่เพียงเป็นแหล่งผลิตอาหารเพื่อสุขภาพแต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้แห่งการพึ่งพาตนเองและต้นแบบของการพัฒนาชุมชนที่ก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นคง
“กลุ่มสายใยผูกพัน” เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มของประชาชนที่เริ่มจากงานการศึกษาต่อเนื่อง และพัฒนาต่อยอดสู่งานอาชีพ เป็นการสืบสานงานศิลปหัตถกรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของตำบลไชยสถาน
ศูนย์การเรียนรู้ระดับตำบลไชยสถาน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริม สนับสนุน และสร้างโอกาสทางการเรียนรู้ด้านการสร้างงานสร้างอาชีพแก่ประชาชนในชุมชน โดยเฉพาะการถักเชือกร่มและการสานกระเป๋าจากเส้นพลาสติก ซึ่งเป็นศิลปะที่มีลวดลายสวยงาม สีสันหลากหลาย ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ผลงานมีความประณีต ได้มาตรฐาน คงทน ราคาไม่แพง และพัฒนารูปแบบให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง สามารถก้าวสู่ตลาดระดับสากลได้ แม้กระบวนการผลิตจะยังคงเป็นงานหัตถกรรมแบบแฮนด์เมด แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าและเอกลักษณ์ความเป็นไทย
ดังนั้น ศกร.ระดับตำบลไชยสถาน จึงได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองแก่ประชาชนในตำบลไชยสถานและพื้นที่ใกล้เคียง ผ่านการฝึกทักษะงานฝีมือด้านการถักเชือกร่ม การสานกระเป๋าจากเส้นพลาสติก และการสานหวายเทียม กิจกรรมเหล่านี้ช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ฝึกความอดทน ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และที่สำคัญสามารถต่อยอดเป็นรายได้เสริมของตนเองและครอบครัวได้อย่างเป็นรูปธรรม
ป่าบง หมายถึงป่าไผ่ วิถีชีวิตของชาวบ้านป่าบงส่วนใหญ่ จะมีความผูกพันกับไม้ไผ่กันมาหลายชั่วคน เครื่องมือเครื่องไม้อุปกรณ์ในการดำเนินชีวิตต่างๆ ล้วนแต่จะผลิตมาจากไม้ไผ่ทั้งสิ้น ในยามว่างเว้นจากการทำนาทำไร่ คนเฒ่าคนแก่ก็จะเหลาตอก สานกระบุงตะกร้าไว้ใช้เอง แล้วนำไปยังหมู่บ้านอื่นๆ จนจักสานบ้านป่าบง ของบ้านแม่เขียว ข้องหลวง ได้รับการยกย่องให้เป็นหมู่บ้านผลิตสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ในด้านการจักสานของอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ “ฝรั่งเค้าว่างานจักสานของบ้านเรา นี่คืองานมีชีวิต” ป้าสุข – ทองสุข แก้วสมุทร ทายาทรุ่นที่ 3 ของกลุ่มจักสานบ้านป่าบง ยิ้มอย่างอารมณ์ดี ขณะที่มือป้าสุขก็ทำงานไปอย่างคล่องแคล่ว ภาษาเมืองง่ายๆ ถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมาของแม่เขียว ข้องหลวง “ยายเขียว เป็นแม่ของป้าสุขเอง เมื่อก่อนยายเขียวจะสานข้องดักปลาที่เป็นของใช้ภายในบ้าน เวลาชาวบ้านแถวนี้ออกไปหาปลาก็จะมาซื้อที่ยายเขียว และเมื่อ 40 ปีที่แล้ว มีคนญี่ปุ่นเขามาสั่งยายเขียวทำข้องหลวง หรือข้องอันใหญ่ๆ นี่แหล่ะ พอทำเสร็จก็ส่งไปญี่ปุ่น ชาวบ้านเค้าก็เลยเรียกว่า ‘ยายเขียวข้องหลวง’ ตอนนั้นป้าสุขยังเป็นสาวน้อยอยู่นะ ไม่ได้สนใจทำเป็นอาชีพเลย แต่พอเห็นว่างานจักสานบ้านเรามันขายได้ ได้เงินสินะ ก็เลยเกิดแรงบันดาลใจ”
โครงการ 1 ครูศกร.ตำบล 1 ชุมชนแห่งการเรียนรู้ “ชุมชนรักพืชผักอาหารปลอดภัย” ของ ศกร.ระดับตำบลชมภู อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในตำบลชมภูมีความรู้ในการปลูกพืชผักปลอดสารพิษ สร้างแหล่งอาหารปลอดภัยในชุมชนเพื่อลดรายจ่ายด้านอาหารของครัวเรือน
ดังนั้น จึงมีความจำเป็นในการส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการผลิตพืชผักปลอดภัยให้กับประชาชนในตำบลชมภู เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน กระตุ้นการรวมกลุ่ม และเปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมในการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
โครงการ ชุมชนแห่งการเรียนรู้ “ชุมชนนักปัก” ของ ศกร.ระดับตำบลหนองผึ้ง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีอาชีพและมีรายได้เสริม
งานปักเป็นรูปแบบของศิลปะการแต่งเติม เพื่อเสริมความสวยงามให้แก่เครื่องแต่งกาย งานปักมีทั้งแบบเป็นงานปักมือที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อน ถือว่าเป็นงานฝีมือชนิดหนึ่ง ที่ต้องอาศัยความพิถีพิถัน ความละเอียดรอบคอบ มีการใช้วัสดุอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ลูกปัด เลื่อม ไข่มุก โซ่แฟชั่น ในการรังสรรค์เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ชุมชนบ้านป่าแคโยง มีการรวมกลุ่มอาชีพการตัดเย็บและการปักผ้า ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับตำบลหนองผึ้ง ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาอาชีพ จึงได้จัดทำโครงการ “ชุมชนนักปัก” เพื่อเป็นการพัฒนาอาชีพคุณภาพครบวงจรขึ้น
บ้านบวกครกใต้ หมู่ที่9 ตำบลท่าวังตาลเป็นชุมชนอนุรักษ์ที่มีวัฒนธรรมที่เก่าแก่มาแต่โบราณ และภูมิปัญญาการทำขนมไทยที่มีการถ่ายทอดในชุมชมมานาน ประกอบกับคนในชุมชนมีร่วมมือ ความตั้งใจ และศักยภาพในการรวมกลุ่มอาชีพการทำขนมไทยของคนในชุมชน จึงทำให้กลุ่มสามารถนำความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดไปลดรายจ่ายและสร้างรายได้เสริม เกิดการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยด้านอาหาร ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในชุมชนที่ผสมผสานเข้าด้วยกันของคนในชุมชนอย่างลงตัว ศกร.ระดับตำบลท่าวังตาล ได้เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์การทำขนมไทย ให้อยู่เคียงคู่กับคนในชุมชน จึงได้จัดทำโครงการ “ชุมชนคนรักษ์ขนมไทย” ขึ้น
โครงการ ชุมชนแห่งการเรียนรู้ “ชุมชนปลูกผักรักสุขภาพ” ของศกร.ระดับตำบลดอนแก้ว อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ มีเป้าหมายเพื่อเป็นการส่งเสริมให้คนในชุมชนมีสุขภาพที่ดี โดยการบริโภคผักปลอด สารพิษ เนื่องจากบ้านน้ำโจ้ หมู่ 6 ตำบลดอนแก้ว อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เป็นชุมชนขนาดเล็ก ประชากรส่วนใหญ่อยู่ในวัยแรงงาน ประกอบอาชีพหลากหลาย ทั้งรับจ้าง รับราชการ ทำสวนลำไย ทำนา และค้าขาย แต่ในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ประชาชนต้องทำงานหาเงินจุนเจือครอบครัว ทำให้คนในชุมชนขาดความสนใจ เรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะการบริโภคอาหารปลอดภัย ทางศกร.ระดับตำบลดอนแก้ว จึงได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานร่วมกับผู้นำชุมชนและประชาชนในชุมชนในเรื่องของการปลูกผักปลอดสารพิษ
โครงการชุมชนแห่งการเรียนรู้“ชุมชนคนชอบหมัก” ของศกร.ระดับตำบลขัวมุง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตำบลขัวมุงเป็นชุมชนเกษตรกรรมที่ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนและปลูกพืชผักอินทรีย์เพื่อจำหน่ายทั้งในตลาดชุมชน และตลาดอินทรีย์ในจังหวัดเชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม ต้นทุนการผลิตโดยเฉพาะค่าปุ๋ยเคมีมีราคาสูง ส่งผลต่อรายได้ของเกษตรกร อีกทั้งการใช้ปุ๋ยเคมีต่อเนื่องอาจส่งผลเสียต่อคุณภาพดินและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
ด้วยเหตุนี้ ศูนย์การเรียนรู้ระดับตำบลขัวมุงจึงเห็นความสำคัญของการทำปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มความยั่งยืนในการทำเกษตรและสามารถเป็นอาชีพเสริมให้แก่คนในชุมชน โครงการ “ชุมชนคนชอบหมัก” จึงถูกจัดขึ้นเพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านการทำปุ๋ยอินทรีย์ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรที่มีในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว
โครงการ ชุมชนแห่งการเรียนรู้ “คนรักเชียงดา” ของ กศน.ตำบลท่ากว้าง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีอาชีพและรายได้เสริม ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์การใช้วัสดุธรรมชาติและฟื้นฟูภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการแปรรูปผักเชียงดา โดยดำเนินงานตั้งแต่การสำรวจความต้องการและศักยภาพของชุมชน จัดตั้งคณะทำงานและเครือข่าย ประสานวิทยากรและปราชญ์ชาวบ้าน ไปจนถึงการฝึกอบรมการแปรรูปผักเชียงดา การออกแบบและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ รวมทั้งประเมินและสรุปผลการดำเนินงาน ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า 10 คน เกิดรายได้เสริมในชุมชน เกิดชุมชนต้นแบบที่สามารถขยายผลต่อได้ และช่วยสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืนควบคู่กับการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น
โครงการ ชุมชนแห่งการเรียนรู้ “ชุมชนคนทำไม้กวาดทางมะพร้าว” ของ ศกร.ระดับตำบลสันทราย อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ มีเป้าหมายเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ในชุมชน เพิ่มมูลค่าไม้กวาดทางมะพร้าว โดยเชื่อมโยงแหล่งเรียนรู้ และเครือข่ายในชุมชน ส่งเสริมการสร้างรายได้และอาชีพให้แก่คนในชุมชน
โดยดำเนินงานตั้งแต่การสำรวจความต้องการและศักยภาพของชุมชน จัดตั้งคณะทำงานและเครือข่าย ประสานวิทยากรและปราชญ์ชาวบ้าน ไปจนถึงการฝึกอบรมการทำไม้กวาดทางมะพร้าว และการออกแบบตราสินค้า รวมทั้งประเมินและสรุปผลการดำเนินงาน ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า 12 คน เกิดรายได้เสริมในชุมชน เกิดชุมชนต้นแบบที่สามารถขยายผลต่อได้ และช่วยสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืนควบคู่กับการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น