แนะนำดู คลิปวิดีโอ สื่อการสอน เพิ่มเติม จาก Playlist ไปพลางๆ
คลิปการสอนสั้น โดย รายการ I-Sci ช่อง TPBS [อัปโหลดใหม่]
อธิบาย ระยะทาง 1 ปีแสง
* หน่วยวัดระยะที่นิยมใช้ทางดาราศาสตร์ *
* ปีแสง หรือ LY ย่อจาก Light-year
เทียบเท่า ระยะทางที่แสงเดินทางในเวลา 1 ปี
* หน่วยดาราศาสตร์ หรือ AU ย่อจาก Astronomical Unit
เทียบเท่า ระยะเฉลี่ยระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์
NOTE :
NOTE :
คลิปการสอน โดย Jaiiisme
อธิบาย
หน่วยวัดระยะทางดาราศาสตร์
(แนะ เร่งเสียง)
คลิปสารคดีสั้น โดย twig aksorn
อธิบายเพิ่มเติมถึง
การเดินทางของแสง กับ ระยะทาง
(แนะ เร่งเสียง)
ความรู้เสริมบทเรียน
คลิปสารคดีสั้น โดยช่อง ชีวิตสดใส/BrightSideThai
อธิบาย
ระยะทางที่แท้จริงของสิ่งต่างๆ ในอวกาศ
= ระบบที่เป็นผลรวมของ สสาร พลังงาน ทั้งหมด (และสรรพสิ่งทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นในอวกาศ) ที่ประกอบขึ้นเป็น กาแล็กซี ทั้งหมด (รวมถึงองค์ประกอบทั้งหลายภายในกาแล็กซี)
* เอกภพ ประกอบด้วย กาแล็กซี มากกว่า 2 ล้านล้าน ระบบ (ประมาณจำนวนเฉพาะที่ตรวจจับภาพได้) ที่ยึดเหนี่ยวกันเป็นหลาย กระจุกกาแล็กซี
* แต่ละ กาแล็กซี ประกอบด้วย ดาวฤกษ์ ในรูปแบบ ระยะ และขนาดต่างๆ (ทั้งที่เป็น กระจุกดาวฤกษ์ ระบบดาวฤกษ์ ระบบสุริยะ เนบิวลา ดาวฤกษ์ยักษ์แดง ดาวฤกษ์แคระ ดาวนิวตรอน และ หลุมดำ) และ แก๊สและฝุ่นละอองระหว่างอวกาศ
* [เสริม] อายุและขนาดของเอกภพ ยังไม่ทราบที่แน่ชัด แต่ที่เป็นไปได้จากการคำนวณบิกแบงคือ อายุ 1.3799±0.0021 หมื่นล้าน ปี และ เส้นผ่านศูนย์กลาง 9,999 ล้าน ปีแสง (แต่ เอกภพเฉพาะส่วนที่สามารถตรวจรับภาพจากโลกได้เพียงประมาณ 9,300 ล้าน ปีแสง)
= แนวคิดว่าเอกภพเกิดจากการระเบิดใหญ่ ซึ่งเป็นโมเดลทฤษฏีที่ยอมรับในปัจจุบัน กล่าวถึง * การระเบิดครั้งใหญ่ ของกลุ่มก้อนพลังงานธรรมชาติ ทำให้พลังงานเปลี่ยนเป็นกลุ่มสสาร แล้วมีวิวัฒนาการต่อเนื่องจนเกิด กาแล็กซี เนบิวลา ดาวฤกษ์ และวัตถุบริวาร แล้วยังเหลือพลังงานกระจายออกไปทั่ว กลายเป็น เอกภพ
* หลักฐานสำคัญซึ่งเป็นที่มาของทฤษฎีบิกแบง คือการค้นพบโดย Edwin Powell Hubble ว่า * กาแล็กซีกำลังขยายตัวออกจากกัน * อีกหลักฐานสำคัญในภายหลังคือ อุณหภูมิรังสีไมโครเวฟพื้นหลังของจักรวาล
[เสริม] * ก่อนการเกิดระเบิดใหญ่ เอกภพเป็นพลังงานบริสุทธิ์ที่อุณหภูมิสูงมากอยู่ในจุดเดียว * ไม่ถึงวินาทีแรกหลังบิกแบง อนุภาคของสสารเพิ่งเกิด พร้อมกับปฏิอนุภาค ซึ่งมีอนุภาคมากกว่าปฏิอนุภาค จึงมีอนุภาคเหลือก่อกำเนิดเป็นเอกภพ) แล้ว อนุภาครวมตัวกันเกิดอะตอมธาตุแรกคือ ไฮโดรเจน (เพราะธาตุที่มีโครงสร้างง่ายที่สุด) ซึ่งยังคงเป็นสสารที่มีมากที่สุดในเอกภพ (และในดาวฤกษ์ต่างๆ) จนถึงปัจจุบัน (ส่วน อะตอมธาตุอื่น เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ของดาวฤกษ์) หลังจากเกิดดาวฤกษ์
= ดาวที่มี มวลและขนาดมากพอ จนแรงโน้มถ่วงสร้างความกดดันและความร้อนมหาศาลมากพอทำให้เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน หลอมอะตอมธาตุไฮโดรเจนเป็นธาตุฮีเลียม ปลดปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทั้งแสง รังสี อนุภาคมีประจุ (โดยรังสีเมื่อเข้าสู่โลกส่วนหนึ่งเปลี่ยนรูปเป็นความร้อน)
* เนื่องจาก สสารส่วนใหญ่ในเอกภพเป็นแก๊ส (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไฮโดรเจน) ดาวฤกษ์จึงเป็นกลุ่มแก๊สทรงกลม ที่แผ่รังสีโดยรอบ
* ดวงอาทิตย์ ของระบบสุริยะของเรา เป็น ดาวฤกษ์ดวงหนึ่ง จากจำนวน 1 – 4 ล้านล้าน ดวง ใน กาแล็กซี ทางช้างเผือก เพียง กาแล็กซีเดียว
= ระบบที่ประกอบด้วย ดาวฤกษ์ นับล้าน และกระจุกดาวฤกษ์ ที่อยู่รวมกันด้วยแรงดึงดูดของมวล * ดาวฤกษ์กระจายตัวเป็นทรงกลมรีหรือแบนรีคล้ายจานร่อน จำนวนหนาแน่นตรงกลาง แล้วจำนวนเบาบางที่ขอบ และแต่ละดวงโคจรรอบใจกลาง
* กาแล็กซีที่ระบบสุริยะของเราอยู่ชื่อ กาแล็กซีทางช้างเผือก (Milky Way Galaxy)
* กาแล็กซีของเราอยู่ใน กลุ่มกาแล็กซี ที่เรียกว่า กลุ่มดาราจักรท้องถิ่น ประกอบด้วย 54 กาแล็กซี โดยกาแล็กซีที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าจากโลกในคืนมืดสนิท ที่มีเพียง 3 กาแล็กซี ก็ในกลุ่มกาแล็กซีนี้ ได้แก่ กาแล็กซีแอนโดรเมดา (Andromeda Galaxy), กาแล็กซีเมฆแมกเจลแลนเล็ก (Small Magellanic Cloud Galaxy) ซึ่งใกล้กาแล็กซีของเรามาก, และ กาแล็กซีเมฆแมกเจลแลนใหญ่ (Large Magellanic Cloud Galaxy)
* [เสริม] เส้นผ่านศูนย์กลางกาแล็กซี ตั้งแต่ 3,000 จนถึง 300,000 ปีแสง เช่น กาแล็กซีทางช้างเผือก 150,000 – 200,000 ปีแสง, ส่วน กาแล็กซีแอนโดรเมดา 2.2 – 2.5 ล้าน ปีแสง (ใหญ่ที่สุดในกลุ่มดาราจักรท้องถิ่น) และห่างจาก กาแล็กซีของเรา 2.54±0.11 ล้าน ปีแสง
* [เสริม] จำนวนดาวฤกษ์ ในกาแล็กซี ตั้งแต่ ร้อยล้าน ดวง ใน กาแล็กซีแคระ จนถึง ร้อยล้านล้าน ดวง ใน กาแล็กซียักษ์ เช่น ทางช้างเผือก 1 – 4 ล้านล้าน ดวง, ส่วน แอนโดรเมดา 10 ล้านล้าน ดวง