คลิก ไฟล์ > พิมพ์ หรือกดแป้น Ctrl+P
ดูตัวอย่างก่อนพิมพ์โดยคลิกลูกศร หน้าถัดไป และ หน้าก่อน
หน้าต่างแสดงตัวอย่างจะแสดงตัวอย่างหน้าในรูปแบบขาวดำหรือสี ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าเครื่องพิมพ์ของคุณ
ถ้าคุณไม่พอใจตัวอย่างการพิมพ์ที่ได้เห็น คุณสามารถเปลี่ยนระยะขอบกระดาษ หรือเพิ่มตัวแบ่งหน้าได้
คลิก พิมพ์
1. ทำการเปิด Microsoft Excel ขึ้นมา
2. จากนั้นทำการกรอกข้อมูลของเราลงไป
ในตัวอย่างจะเป็นการ ตรวจสอบ Stock ในการขายอุปกรณ์ของ Apple
3. เมื่อเราทำการใส่ข้อมูลลงไป ให้ทำการลากเมาส์ให้คลุมทั้งหมดของข้อความ > จากนั้นทำการกดปุ่ม Quick Analysis
4. ทำการเลือก Tab : Charts และเลือกแบบของกราฟที่เราต้องการ
5. จากนั้นเราก็จะได้กราฟ ที่เราต้องการ
โดยข้อมูลของที่เราทำการสร้างขึ้นมา เราก็สามารถทำการเปลี่ยนแปลงได้ โดยหลังจากที่เปลี่ยนแปลงข้อมูล กราฟของที่เราเลือกก็จะแปรผันไปกับข้อมูลที่เราทำการกรอกเอาไว้
เมื่อเรามีข้อมูลเตรียมไว้ในตารางแล้ว ให้เราลาก Selection ครอบคลุมพื้นที่ของข้อมูลทั้งหมด จากนั้นไปที่ Ribbon Insert => Chart => เลือกรูปแบบที่ต้องการตามที่ได้แนะนำไปข้างบน
เมื่อเราเลือกรูปแบบกราฟไปแล้ว ถ้ากราฟมันสร้างออกมาสลับแกน x แกน y กับสิ่งที่เราคิดไว้แต่แรก เราสามารถกดปุ่ม Switch Row/Column ที่อยู่บน Ribbon Chart Tools => Design ได้เลยครับ (ต้องคลิ๊กที่ Chart ก่อน Ribbon นี้ถึงจะโผล่มาให้เห็น)
บางครั้งเมื่อเราสร้างกราฟแล้ว ต่อไปอยากจะใส่ข้อมูลเพิ่มลงไปอีก มีวิธีง่ายๆ ที่ไม่ต้องเข้าไปนั่งแก้ที่ Select Data เลย นั่นก็คือ สามารถกด Copy ข้อมูลจากตาราง (Ctrl+C) แล้วเลือกที่กราฟ จากนั้นกด Paste (Ctrl+V) ลงไปเลยตรงๆครับ
ในตัวอย่างนี้ ผมเพิ่มทั้งแถวทั้งคอลัมน์ จึงต้อง copy 2 รอบครับ
ต่อไปเป็นขั้นตอนสุดท้าย นั่นคือการปรับแต่งกราฟ ซึ่งการที่เราจะปรับแต่งกราฟได้นั้น เราต้องรู้จักส่วนประกอบของกราฟซะก่อนครับ
Chart Area : พื้นที่ของกราฟทั้งหมด
Plot Area : พื้นที่ที่มีการพลอตข้อมูลลงไปจริงๆ
Label ป้ายกำกับ
Chart Title : ชื่อกราฟ
Axis Title : ชื่อแกน
Horizontal : แกนนอน
Vertical : แกนตั้ง
Legend : เพื่อบอกว่าซีรีส์อะไรคืออะไร
Data Label : บอกค่าของ Data
Data Table : ตารางข้อมูลต้นฉบับ
Axes แกน
Axes
Vertical Axis : แกนตั้ง
Horizontal Axis : แกนนอน
Gridlines : เส้นกริด ทั้งทั้งแกนนอนแกนตั้ง และ Major, minor
Series คือตัวข้อมูลจริงๆ
Series Name : ชื่อของข้อมูล
Series Value : ค่าของข้อมูล
Category Label : ชื่อประเภทข้อมูล (มักอยู่ที่แกนนอน)
วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะเข้าใจส่วนประกอบของกราฟ ก็คือ ให้ไปที่ Ribbon Layout ที่อยู่ภายใต้ Chart Tools เลยครับ (ต้องเลือกที่กราฟก่อน) ในนั้นจะแบ่งออกเป็นหลายๆ หมวด ดังนี้
Current Selection : เอาไว้เลือกส่วนประกอบของกราฟ มีประโยชน์มากเวลามีส่วนประกอบหลายๆ อันบังกันอยู่ ลองคลิ๊กดูแล้วจะรู้ว่าแต่ละส่วนเรียกว่าอะไร
พอเลือกแล้วสามารถกด Format Selection เพื่อปรับแต่งแต่ละส่วนได้อีก
เราสามาถ เพิ่ม/ลด ส่วนประกอบของกราฟได้ โดยไปที่เมนู Ribbon แต่ละอัน เช่น Chart Title, Axis Title, Legend, Data Label แล้วเลือก option จาก Drop down เป็นต้น