สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 กับพระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์โขน
การอนุรักษ์ ‘โขน’ เป็นหนึ่งในพระราชกรณียกิจที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงตระหนักถึงความสำคัญ เห็นได้จากเมื่อเสด็จพระราชดำเนินยังต่างประเทศ หากต้องมีการแสดง มักทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ นำการแสดง ‘โขน’ ไปแสดงให้ประจักษ์สู่สายตาชาวโลกอยู่เสมอ เช่นเดียวกับในงานเลี้ยงรับรองพระราชอาคันตุกะในประเทศ ก็ทรงเลือกให้มีการแสดง ‘โขน’ รวมอยู่ด้วย หนึ่งในภาพประวัติศาสตร์เกี่ยวกับ ‘โขน’ ได้รับการบันทึกไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2539 เมื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ บิล คลินตัน เดินทางมาพร้อมด้วยภริยา ฮิลลารี คลินตัน ในฐานะพระราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการต้อนรับในรูปแบบรัฐพิธี พระราชทานเลี้ยงในพระบรมมหาราชวัง
ในงานพระราชทานเลี้ยงค่ำนั้น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดการแสดงโขนรามเกียรติ์ ชุด ‘ยกรบ’ เฉพาะพระพักตร์ ซึ่งมีความกระชับ น่าสนใจ และเห็นกระบวนทัพเสนาลิงอันยิ่งใหญ่ตระการตา ณ บริเวณสนามหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เนื่องจากทรงมีพระราชประสงค์ให้แขกต่างถิ่นที่มาเยือน ได้เห็นว่าประเทศไทยมีมรดกศิลปวัฒนธรรมอันงดงามไม่เหมือนกับชาติใดในโลก ทั้งสองพระองค์ยังได้พระราชทานคำอธิบายโขนกับพระราชอาคันตุกะทั้งสองอย่างเป็นกันเองระหว่างการแสดง
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงใส่พระทัยศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทยแขนงนี้เป็นอันมาก
"เมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงกราบบังคมทูลว่า ช่วงนี้โขนค่อนข้างซบเซา ไม่มีคนดูเลย จะทำอย่างไรดี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงบอกว่า ‘ถ้าไม่มีใครดู แม่จะดูเอง’ ก็เป็นเหตุให้มีการแสดงโขนไปแสดงตามพระตำหนักต่างๆ ที่ทรงแปรพระราชฐานไปเพื่อประทับทรงงาน เช่นที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ทรงนำโขนไปแสดงในงานเลี้ยงขอบคุณประชาชนและพระราชองครักษ์ เป็นต้น" สุรัตน์ จงดา คณะกรรมการ จัดแสดงโขน มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ หรือ ‘โขนพระราชทาน’ กล่าวในการบรรยายเรื่อง ‘ฉากประทับใจในโขนพระราชทาน’ จัดโดย พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2559
โขน เป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย ท่ารำและการย่างกรายมีทั้งความสง่างาม อลังการ และอ่อนช้อย ขึ้นอยู่กับจังหวะและการดำเนินเรื่อง ลักษณะสำคัญอย่างหนึ่งของโขนอยู่ที่ผู้แสดงต้องสวม ‘หัวโขน’ ทุกตัว ยกเว้นตัวพระ ตัวนาง และเทวดา รวมทั้งเครื่องแต่งกาย เครื่องถนิมพิมพาภรณ์ การแต่งหน้า ล้วนงดงามมีรายละเอียดเป็นเอกลักษณ์
พระราชกรณียกิจฟื้นฟูโขน ไม่ใช่แค่การฟื้นฟูนาฏศิลป์ แต่เป็นการพลิกฟื้น ‘ศาสตร์’ และ ‘งานฝีมือช่างหัตถศิลป์ไทยหลายสาขา' เกิดการประชุมกันของผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญงานประณีตศิลป์ของไทยที่กระจายอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ นับร้อยชีวิต เพื่อเชิดชูศิลปการแสดงชั้นสูงแขนงนี้ให้ถูกต้องครบถ้วนตามแบบแผน
ในการอนุรักษ์โขน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชเสาวนีย์เรื่อง การแต่งหน้าโขน เป็นอันดับแรก “เพราะเมื่อดูในระยะใกล้พบว่า ‘ตัวพระ’ และ ‘ตัวนาง’ มีการแต่งหน้าเหมือนกัน แยกกันไม่ออก ผู้นำประเทศหันมาถามเสมอ คนไหนเล่นเป็นผู้ชาย คนไหนเล่นเป็นผู้หญิง ทรงให้ศึกษาการแต่งหน้าโขน ที่ว่าโขนโบราณแต่งหน้าอย่างไร” สุรัตน์ จงดา กล่าว
ถัดมาทรงให้ความสนพระทัยเรื่อง เครื่องแต่งกายโขน ทรงให้ข้อสังเกตว่าเครื่องแต่งกายโขนมีลักษณะแตกต่างไปจากโขนในสมัยแรกที่นิยมสร้างเลียนแบบชิ้นส่วน ‘เครื่องต้น’ อันเป็นเครื่องทรงพระมหากษัตริย์ในอดีต พร้อมพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 300,000 บาท ให้ ‘กรมศิลปากร’ พัฒนาเครื่องแต่งกายโขนแบบโบราณขึ้นมาชุดหนึ่ง
มูลนิธิศิลปาชีพฯ และ กรมศิลปากร สนองพระราชดำริด้วยการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดสร้างเครื่องแต่งกายโขนขึ้นมาใหม่ที่คงความงดงามตามแบบโบราณ และกราบบังคมทูลขอพระราชทานเพื่อใช้ในการแสดงโขนเรื่อง 'รามเกียรติ์ ชุด ศึกพรหมาศ’ ถวายทอดพระเนตร และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลดุลยเดช บรมนาถบพิตร 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 การแสดงครั้งนั้น จัดแสดงโขนในรูปแบบการบรรเลงคอนเสิร์ต เนื่องจาก ‘ในหลวงรัชกาลที่ 9’ ทรงโปรดดนตรีสากล โดยเลือกบทพระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ใช้ชื่อว่า การแสดงเฉลิมพระเกียรติ เรื่องรามเกียรติ์ ตอน : พรหมาศ บรรเลงโดยวงโยธวาทิต กองดุริยางค์กองทัพบก และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการแสดงรอบปฐมทัศน์ วันที่ 25 ธันวาคม 2550 (รอบประชาชนทั่วไปวันที่ 27-28 ธันวาคม) ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย หลังจบการแสดง มูลนิธิศิลปาชีพฯ ยังคงดำเนินงานปรับปรุงเกี่ยวกับโขนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเครื่องแต่งกายโขนที่เพิ่มรายละเอียดให้วิจิตรยิ่งขึ้น