โครงการศูนย์ศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เป็นมูลนิธิที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงก่อตั้งขึ้น เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2519 เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ยากไร้ในชนบท โดยการส่งเสริมอาชีพอื่น เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยมีการดำเนินงานนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจวบจนปัจจุบัน
ศูนย์กลางงานศิลปาชีพนั้น ได้ดำเนินการจัดตั้ง “โรงฝึกศิลปาชีพสวนจิตรลดา” ขึ้น เมื่อปี ๒๕๒๒ และได้พัฒนาการดำเนินการอย่างก้าวหน้า ผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นล้วนเป็นงานประณีตศิลป์ขั้นสูง มีความ งดงามถึงระดับ “ฝีมือช่างหลวง” หรือ “ช่างแห่งกรุงรัตนโกสินทร์” ได้แก่ ช่างถมทอง ช่างเครื่องเงินเครื่อง ทอง ช่างคร่ำ ช่างลงยาสี ช่างปักฝ้า ช่างแกะสลักไม้ ช่างเขียนลาย และช่างทอผ้า นับเป็น “งานศิลป์ของ แผ่นดิน” อย่างแท้จริง โดยในปี ๒๕๕๓ โรงฝึกศิลปาชีพสวนจิตรลดา ได้ยกสถานะขึ้นเป็น “สถาบันสิริกิติ์” เมื่องานศิลปาชีพ มีผลิตภัณฑ์และผลงานเป็นที่ประจักษ์ จึงได้ทรงพระกรุณาฯ จัดตั้ง “ร้านจิตรลดา” เพื่อ จำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์เป็นการถาวร ปัจจุบันร้านจิตรลดามีจำนวนทั้งสิ้น ๑๒ สาขา กว่า ๓๐ ปีที่ผ่านมา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงขยายงานศิลปาชีพไปทั่วทุก ภูมิภาคของประเทศ ปัจจุบันมีศูนย์ศิลปาชีพ จำนวน ๑๔๑ แห่ง ตัวอย่างเช่น
1.ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร พระนครศรีอยุธยา
ถือเป็นแหล่งเรียนรู้และสร้างอาชีพที่ยั่งยืนให้กับราษฎรที่สำคัญ โดยมุ่งฝึกอาชีพงานศิลปหัตถกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์จากเส้นใยพืช การแกะสลัก การจักสาน การทำตุ๊กตา การทำดอกไม้ประดิษฐ์ การทำเครื่องเรือน การทอผ้า ผลิตภัณฑ์จากผ้า การย้อมสี ช่างเชื่อม และเครื่องเคลือบดินเผา ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะส่งไปจำหน่ายที่ร้านจิตรลดาแต่ละสาขาทั่วประเทศ
ประวัติ พ.ศ. 2523 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งศูนย์ฯ แห่งนี้ขึ้นริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาต.ช้างใหญ่ อ.บางไทร ในเขตที่ดินปฏิรูปเพื่อการเกษตรกรรม พื้นที่กว่า 1,000 ไร่ มุ่งฝึกงานช่างฝีมือแบบศิลปะไทยโบราณให้แก่เกษตรกรที่สนใจฝึกอาชีพเป็นรายได้พิเศษจากช่วงที่ว่างจากงานเกษตรโดยทางศูนย์ฯ มีผู้ชำนาญงานช่างแขนงต่าง ๆ มาฝึกสอน เมื่อสามารถผลิตงานได้แล้ว ศูนย์ฯ จะรับซื้อผลงานไปจำหน่ายเปิดอบรมศิลปาชีพรุ่นแรกเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2524 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเปิดศูนย์ศิลปาชีพบางไทรเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2527
ปัจจุบันมีกว่า 20 แผนก เช่น แผนกตัดเย็บเสื้อผ้า แผนกทอผ้าลายตีนจก แผนกเครื่องเรือนไม้ เป็นต้น อบรมปีละสองรุ่น รุ่นละ 500 คน ใช้เวลาอบรม 6 เดือน โดยให้ที่พัก อาหาร สวัสดิการ และเบี้ยเลี้ยงผลงานที่ผลิตได้นอกจากจะจำหน่ายที่ศูนย์ฯ แล้ว ยังส่งไปจำหน่ายที่ร้านจิตรลดาซึ่งมีสาขาทั่วประเทศ และส่งออกต่างประเทศด้วย นอกจากนี้ ภายในบริเวณศูนย์ฯ มีจุดเด่นอื่นๆ อีกมากมาย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 035 366 252 หรือ เฟซบุ๊ก ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
2.ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพ บ้านกุดนาขาม สกลนคร
“ ทรงจัดตั้ง ศูนย์ศิลปาชีพเพื่อให้ ชาวบ้านมีอาชีพ ไม่ต้องละทิ้งถิ่นฐานไปทำงาน ที่อื่น และหยุดยั้ง การตัดไม้ทำลายป่า ”
ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพบ้านกุดนาขาม มีที่มาจากการที่ชาวบ้านกุดนาขามร้องทุกข์ว่าในฤดูฝนเกิดน้ำท่วม และฤดูแล้งน้ำแห้งเหือด จนไม่สามารถทำการเกษตรได้ จึงต้อง อพยพไปทำงานรับจ้างในจังหวัดอื่นๆ และด้วยความสามัคคี เป็นปึกแผ่นของชุมชนได้จัดตั้งโครงการไทยอาสาป้องกัน ชาติ (ทสปช) ขึ้นเพื่อต่อสู้ป้องกันกลุ่มก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ จนกลายเป็นต้นแบบชุมชนอันเลื่องชื่อ
เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรบ้านกุดนาขาม ในปี พ.ศ. 2525 ทรงทราบถึงความสามัคคีของชาวบ้านกุดนาขาม พระองค์ ทรงชักชวนชาวบ้านให้หันมาปลูกป่าเพื่ออนุรักษ์ต้นไม้ เกิดเป็นโครงการป่ารักน้ำบ้านกุดนาขาม โดยมีอ่างเก็บน้ำขึ้นที่ห้วยนกเค้า ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสนับสนุนการสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือราษฎร
ปัจจุบันบ้านกุดนาขามได้รับการจัดตั้งเป็นศูนย์ศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นศูนย์ศิลปาชีพพิเศษ ที่ส่งเสริมอาชีพด้านต่างๆ อาทิ เครื่องปั้นดินเผา แกะสลักไม้ เฟอร์นิเจอร์ ดอกไม้ประดิษฐ์ จักสานผักตบชวา ตัดเย็บเสื้อผ้า ทอผ้าและ ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม
3.ศูนย์ศิลปาชีพบ้านแม่ต๋ำ ลำปาง
โครงการพัฒนาบ้านแม่ต๋ำ ตั้งอยู่ที่บ้านแม่ต๋ำ ตำบลเสริมซ้าย อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปางเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับราษฎรเนื่องจากทรงเห็นว่าชาวบ้านมีฐานะยากจนและไม่มีที่ทำกินที่แน่นอน จึงเกิดการฝึกอาชีพเครื่องปั้นดินเผา เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นแหล่งดินขาวคุณภาพดี โครงการฯ ให้ความช่วยเหลือละแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน พัฒนาอาชีพหลักและอาชีพเสริมเพื่อให้มีสภาพเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยสนับสนุนทั้งด้านงานฝีมือ งานเกษตรกรรม และงานปศุสัตว์ เป็นการเสริมสร้างให้ชุมชนเข้มแข็งและยึดตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมให้ช่วยกันอนุรักษ์พื้นที่ป่าไม้และสัตว์ป่าให้อุดมสมบูรณ์ ปลูกป่า ป้องกันไฟป่า ป้องกันการลักลอบตัดไม้ สร้างความชุ่มชื้นให้กับป่า เป็นต้น
4.ศูนย์ศิลปาชีพพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ นราธิวาส
หนึ่งในโครงการศิลปาชีพพิเศษที่สมเด็จแม่ของแผ่นดินพระราชทานให้กับชาวนราธิวาสคือการทำเครื่องปั้นดินเผา โดยทรงให้ดำเนินเป็นโครงการส่วนพระองค์ ชื่อโครงการศูนย์ศิลปาชีพพิเศษเครื่องปั้นดินเผา เมื่อ พ.ศ. 2528 โครงการตั้งอยู่ภายในพื้นที่เขตพระราชฐานชั้นนอกของพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ และพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ให้กับโครงการนี้ และเสด็จฯทรงเปิดศูนย์แห่งนี้เมื่อวันที่11 กันยายน พ.ศ.2528
5.โครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ และศูนย์ตุ๊กตาชาววังบางเสด็จ
โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากราษฎรชาวอ่างทองเดือดร้อนจากอุทกภัยในปี พ.ศ. 2549 พระองค์ทรงให้จัดทำโครงการฟาร์มตัวอย่างนี้ขึ้น เพื่อช่วยให้ราษฎรที่ประสบภัยมีงานทำ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมการปลูกผัก ผลไม้ปลอดสารพิษ แปลงเพาะเห็ด และสวนป่า เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีศูนย์ตุ๊กตาชาววัง ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดท่าสุทธาวาส เป็นอีกหนึ่งโครงการสร้างรายได้แก่ราษฎร นักท่องเที่ยวสามารถชมวิธีสาธิตการปั้นตุ๊กตาชาววัง พร้อมกับการจัดจำหน่ายในราคาย่อมเยา อีกทั้งยังส่งออกไปขายทั่วโลก ท่ามกลางทัศนียภาพอันร่มรื่นริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
6.โครงการส่งเสริมศิลปาชีพบ้านไอร์บาลอ
เมื่อวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๔๓ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จเยี่ยมราษฎรหมู้บ้านไอร์บาลอหมู่ที่ ๓ ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นหมูู่บ้านในชนบทอยู่พื้นที่ราบเชิงเขาที่ห่างไกลความเจริญ และในโอกาสนั้นพระองคได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ราษฎรเข้าเฝ้าเพื่อสอบถามความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพที่ทำรายได้ให้กับครอบครัว เมื่อทรงทราบว่าราษฎรมีความเป็นอยู่ที่ลำบากเพราะรายได้ต่ำ จึงทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ราษฎรได้ฝึกอบรมวิชาชีพเสริมตามความสมัครใจในหลายอาชีพ โดยทรงพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ รับราษฎรบ้านไอรแบาลอและหมู่บ้านใกล้เคียงไว้เป็นสมาชิกโครงการศิลปาชีพฯ โดยจัดอบรมวิชาชีพปักผ้าและจักสานย่านลิเภา อีกทั้งพระองคแทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งกลุ่มศิลปาชีพปักผ้าและกลุ่มจักสานย่านลิเภาบ้านไอร์บาลอ ส่งเสริมกลุ่มอาชีพ เช่น การทำเสื่อกระจูด ย่านลิเภา เรือกอและจำลอง รวมทั้งงานหัตกรรมต่างๆเพื่อเป็นรายได้เสริมโดยเน้นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม
7. โครงการส่งเสริมศิลปาชีพบ้านสมพรรัตน์
ตั้งอยู่ที่อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี แต่เดิมผ้าไหมบ้านสมพรรัตน์ เป็นผ้าไหมที่มีชื่อเสียงมาช้านาน ที่เกิดจากการถ่ายทอดภูมิปัญญามาจากบรรพบุรุษ และเมื่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสร็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎร ณ โรงเรียนบ้านขอนแป้น ตำบลคอแลน เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537 ได้มีกลุ่มราษฎรทูลเกล้าฯ ผลิตภัณฑ์ผ้าไหม เมื่อทอดพระเนตรเห็นว่าเป็นผ้าไหมที่มีความงดงาม ได้พระราชทานเงินเพื่อเป็นทุนแก่กลุ่มสมาชิกดังกล่าวและทรงรับไว้เป็นสมาชิกโครงการส่งเสริมศิลปาชีพ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา