" รู้หรือไม่ว่า AI คืออะไร ? "

AI หรือ Artificial Intelligence เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่มนุษย์สร้างขึ้นมา โดย Ai นั้นสามารถทำงานได้เสมือนกับมนุษย์ ทั้งสามารถลอกเลียนแบบการทำกิจกรรมหรือความซับซ้อนที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้เอง  ตัวอย่างเช่น การเรียนรู้ การวางแผน การแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่ง AI สามารถเข้าใจในการประมวลผลและอำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์ได้เป็นอย่างมาก

" AI มีความสำคัญอย่างไร? "

ความสำคัญของ AI แม้จะเป็นเทคโนโลยีที่แปลกใหม่และน่าทึ่ง แต่หลายคนอาจจะยังนึกไม่ออกว่า AI หรือเจ้าปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้นั้นมีความสำคัญอย่างไร ซึ่งในทุกวันนี้ AI มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นและยังมีความสำคัญต่อการเรียนการสอน การทำงานหรือการดำรงชีวิตในปัจจุบัน เช่น สามารถลดระยะเวลาในการทำงาน, สามารถทำงานซ้ำๆและซับซ้อนได้, ประหยัดต้นทุน, สามารถออกแบบสื่อการเรียนรู้ได้หรือการผลิต เป็นต้น นอกจากนี้ AI สามารถที่จะพัฒนาและมีไอเดียแปลกใหม่ให้กับเราได้มากยิ่งขึ้น

" " AI มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร? "

ถึงแม้ AI จะสร้างความสะดวกสบายและพัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่ AI ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียและข้อควรระวังเช่นกัน

ข้อดี : AI สามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อนที่อาจทำได้ยากสำหรับมนุษย์ AI มีประสิทธิภาพและความแม่นยำมากกว่ามนุษย์ในกรณีที่ต้องใช้การคำนวณเฉพาะเรื่องบางอย่างเพื่อป้องกันการผิดพลาดในการทำงานอีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนในการผลิตได้อีกด้วย  

ข้อเสีย : AI มีต้นทุนที่ค่อนข้างสูงอาจเกิดข้อผิดพลาดได้ในการคำนวณข้อมูล เมื่อได้รับข้อมูลผิดพลาดและไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเอง หากไม่มีมนุษย์ควบคุมอีกทั้งยังมีความเสี่ยงทางด้านข้อมูลและความปลอดภัยสามารถถูกโจมตีจากบรรดาพวกแฮ็กเกอร์ได้ทุกเมื่อ และอาจก่อให้เกิดความเสียหาย ได้อย่างแน่นอน 

สำคัญที่สุดของการใช้ Ai ในยุคแห่งเทคโนโลยี คือการพิจารณาโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเพื่อที่เราจะสามารถนำมาใช้ได้อย่างปลอดภัยและแม่นยำเหมาะสมกับงาน ทั้งนี้ในปัจจุบันก็มี Application ต่างๆมากมายที่จะมาช่วยในการออกแบบการเรียนการสอนหรืออำนวยความสะดวกกับมนุษย์มากยิ่งขึ้น

ChatGPT คืออะไร?

• ChatGPT เป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่พัฒนาโดยบริษัท OpenAI

• ออกแบบมาเพื่อ “สนทนา” กับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ

• ใช้เทคโนโลยี Machine Learning และ Natural Language Processing (NLP)

ChatGPT ทำงานอย่างไร?

• รับข้อความ (Prompt) จากผู้ใช้

• ประมวลผลจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่ถูกฝึกมา

• สร้างข้อความตอบกลับตามบริบทที่เข้าใจ

• ทำงานแบบ ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยตรง (หากไม่มีการใช้ Web Tool)

การเขียน Prompt ที่มีประสิทธิภาพช่วยให้ AI เข้าใจความต้องการของคุณได้ชัดเจนและตอบสนองได้ตรงจุดมากขึ้น โดยโครงสร้างที่ดีควรมีองค์ประกอบดังนี้:

1. ระบุเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์  เริ่มต้นด้วยการบอก AI ว่าคุณต้องการอะไร เช่น การสร้างเนื้อหา การแก้ปัญหา หรือการให้คำแนะนำ

ตัวอย่าง:

"ช่วยเขียนบทความเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม"   "อธิบายวิธีการทำงานของเครื่องยนต์สันดาปภายใน"

2. ให้บริบทหรือข้อมูลเพิ่มเติม  เพิ่มรายละเอียดที่ช่วยให้ AI เข้าใจสถานการณ์หรือความต้องการเฉพาะเจาะจง เช่น โทนภาษา กลุ่มเป้าหมาย หรือข้อจำกัด

ตัวอย่าง:

"เขียนในโทนที่เป็นมิตรและเข้าใจง่ายสำหรับเด็ก"    "ใช้คำศัพท์เชิงวิชาการสำหรับนักศึกษา"

3. ระบุรูปแบบหรือโครงสร้างที่ต้องการ  บอก AI ว่าคุณต้องการคำตอบในรูปแบบใด เช่น รายการหัวข้อ ตาราง หรือย่อหน้า

ตัวอย่าง:

"จัดทำเป็นรายการหัวข้อย่อย"

"เขียนเป็นบทสนทนา"

4. ระบุข้อจำกัดหรือความยาว  กำหนดขอบเขต เช่น จำนวนคำหรือความลึกของคำตอบ

ตัวอย่าง:

"เขียนไม่เกิน 300 คำ"

"อธิบายอย่างละเอียดใน 3 ย่อหน้า"

5. ใช้คำถามหรือคำสั่งที่ชัดเจน  หลีกเลี่ยงความกำกวมและใช้ภาษาที่ตรงไปตรงมา

ตัวอย่าง:

"ช่วยแปลข้อความนี้เป็นภาษาอังกฤษ"

"สร้างโค้ด Python สำหรับคำนวณค่าเฉลี่ย"

เคล็ดลับเพิ่มเติม:ใช้คำที่เฉพาะเจาะจง เช่น "เปรียบเทียบ", "สรุป", "วิเคราะห์"หากคำตอบไม่ตรงใจ ลองปรับ Prompt ให้ชัดเจนหรือเพิ่มรายละเอียดเพิ่มเติม

การเขียน Prompt ที่ดีเปรียบเสมือนการตั้งคำถามที่ชัดเจนและตรงประเด็น ยิ่งคุณให้ข้อมูลมากเท่าไร AI ก็จะตอบสนองได้ดีขึ้น! 😊

Gemini AI คืออะไร?
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) รุ่นใหม่ของ Google ที่พัฒนามาเพื่อช่วยคิด วิเคราะห์ และสร้างสรรค์สามารถทำงานกับ ข้อความ, รูปภาพ, เสียง, และวิดีโอ ได้ (Multimodal AI)

2. คุณสมบัติเด่นของ Gemini

• 📖 ช่วยสรุปเนื้อหา เช่น สรุปบทเรียน/เอกสาร
  📝 ช่วยเขียน เช่น เรียงความ บทความ โครงงาน
  💡 ช่วยคิดวิเคราะห์ เช่น การแก้โจทย์ปัญหา คิดไอเดียสร้างสรรค์
  🌍 รองรับหลายภาษา รวมถึงภาษาไทย
  🔎 เชื่อมกับ Google Search และเครื่องมือ Google Workspace
  
  

• ⚙️ การทำงานของ Google Gemini AI

• 1. เป็น AI แบบ Multimodal  หมายถึง Gemini สามารถ เข้าใจและประมวลผลหลายรูปแบบของข้อมูล ได้พร้อมกัน

📝 ข้อความ (Text) → อ่าน, เขียน, สรุป

🖼️ รูปภาพ (Image) → อธิบายภาพ, วิเคราะห์ข้อมูลจากกราฟ

🎧 เสียง (Audio) → เข้าใจเสียงพูด, แปลงเป็นข้อความ

🎥 วิดีโอ (Video) → ช่วยสรุปหรือบรรยายวิดีโอ

💻 โค้ด (Code) → เขียนและตรวจแก้โปรแกรม

• 
  

• 2. ใช้โมเดลภาษา (Large Language Model – LLM)

• Gemini สร้างขึ้นจาก โครงข่ายประสาทเทียม (Neural Networks) ขนาดใหญ่

• ทำงานโดย เรียนรู้จากข้อมูลจำนวนมหาศาล (หนังสือ, บทความ, โค้ด, รูปภาพ ฯลฯ)

• เวลาผู้ใช้ป้อนคำถาม → Gemini ประมวลผล → ตอบกลับโดยสร้างข้อความ/ภาพ/โค้ดที่เหมาะสม

• 
  

• 3. การโต้ตอบกับผู้ใช้ (Chat-based AI)

• ผู้ใช้พิมพ์คำถาม → Gemini วิเคราะห์ความหมาย

• ใช้ “Reasoning” (การให้เหตุผล) + “Knowledge” (ความรู้) → สร้างคำตอบ

• สามารถอธิบายทีละขั้นตอนเหมือนครูช่วยติว

• 
  

• 4. ทำงานร่วมกับเครื่องมือของ Google

• ✅ Google Search → ตรวจสอบข้อมูลล่าสุด

• ✅ Docs, Gmail, Sheets → ช่วยเขียน, ตรวจแกรมมาร์, สร้างตาราง

• ✅ Drive และ Classroom → ช่วยจัดการไฟล์และการเรียนรู้

• ✅ มือถือ Android (Gemini Nano) → ทำงานเป็นผู้ช่วยส่วนตัว เช่น แนะนำการเขียนแชต

3. ตัวอย่างการใช้งานในการเรียน

• ภาษาไทย: ให้ Gemini ช่วยตรวจการสะกดและแนะนำคำที่สละสลวย
  วิทยาศาสตร์: ถาม Gemini เกี่ยวกับการทดลองและเหตุผลทางวิทยาศาสตร์
  คณิตศาสตร์: ให้ Gemini อธิบายวิธีแก้โจทย์ทีละขั้นตอน
  วิทยาการคำนวณ: ใช้ Gemini ช่วยเขียนโค้ดง่าย ๆ และอธิบายโครงสร้าง
  
  

4. ข้อควรระวังและการใช้ AI อย่างปลอดภัย

• ✅ ควรตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเสมอ
  ✅ ใช้เป็น ผู้ช่วย ไม่ใช่แทนการคิดเอง
  ✅ อ้างอิงแหล่งข้อมูลหากนำไปใช้จริง
  ✅ ระวังเรื่อง ข้อมูลส่วนตัว และ ความเป็นส่วนตัว

• 📝 สรุปสั้น ๆ สำหรับนักเรียน

     Gemini AI เกิดจากการพัฒนาโดย Google DeepMind เปิดตัวปี 2023 เพื่อเป็น AI ที่เข้าใจข้อมูลหลายรูปแบบ ใช้แทน Bard และเป็นคู่แข่งสำคัญของ ChatGPT ชื่อ “Gemini” หมายถึงฝาแฝด แสดงถึงความสามารถที่ทำได้หลายอย่างพร้อมกัน 

Gemini AI ทำงานโดยใช้เทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์เชิงภาษาขนาดใหญ่ ที่เรียนรู้จากข้อมูลมากมาย สามารถ เข้าใจข้อความ รูปภาพ เสียง และวิดีโอ เพื่อช่วยคิด วิเคราะห์ สร้างสรรค์ และตอบคำถามได้อย่างชาญฉลาด