โดย Log-in ผ่าน Google Chrome Browser ซึ่งท่านสามารถเข้าใช้งานได้ 3 ทาง คือ
ช่องทางแรก พิมพ์(หรือคลิก) https://sites.google.com ที่ช่อง address bar (สะดวก สำหรับผู้ใช้ GMAIL) ระบบจะนำพาไปที่ หน้าสร้างงาน New Google Sites (https://sites.google.com/new)โดยอัตโนมัติ
ช่องทางที่สอง ผ่านทาง Service Core ของ Google Chrome Browser หรือที่เรียกว่า กลุ่ม Google Apps แสดงด้วย 9 จุด (ซึ่งหากเป็น GMAIL จะไม่พบรายการ ของ SITES ในกลุ่มนี้) ให้ใช้วิธีการของ ช่องทางแรก
ช่องทางที่สาม ผ่านทาง Google Drive (ถ้ายังไม่ได้สร้าง Site ช่องทางนี้ จะยังไม่เกิด)
เมื่อสร้างงาน หรือ Sites แล้ว Sites ที่สร้างจะถูกเก็บไว้ ที่ Google Drive ดังภาพด้านล่าง
ลูกศรสีน้ำเงิน คือ Sites ทั้งหมดที่ทำการสร้างไว้
ลูกศรสีแดง คือ Sites ที่เข้าทำงานครั้งหลังสุด (เป็นส่วนที่เรียกว่า Quick Access)
สลับแท็บเครื่องมือ(ด้านขวามือ) เลือกรายการ PAGES / หน้า
คลิกที่เครื่องหมาย + ดังภาพ ด้าน บน จะเกิดกรอบหน้าต่าง หน้าใหม่ ใส่ชื่อของหน้า Page นี้ ตรงเส้นสีน้ำเงิน ให้เรียบร้อย(ภาษาไทยได้) คลิกที่ปุ่ม เสร็จสิ้น
หน้าที่ได้ตรงส่วนนี้ จะมีสถานะเป็นหน้าเดี่ยว อาทิ หน้า About us (เกี่ยวกับชุมชน) และ Contact us (ติดต่อกับชุมชน) เป็นต้น แต่วิธีการนี้สามารถใช้นำมาสร้างเป็นหน้าของกลุ่มเนื้อหา (อาทิ ภูมิปัญญาท้องถิ่น, แหล่งเรียนรู้, แหล่งท่องเที่ยว, อาชีพท้องถิ่น, ศิลปวัฒนธรรม เป็นต้น) ได้
หลังจากสร้างหน้า(หัวข้อหลัก)หลักแล้ว แต่ละหัวข้อหลักต้องมีหน้าย่อย เพื่อแยกเรื่องย่อยให้อยู่ในกลุ่มหรือหัวข้อหลัก มีขั้นตอนดังนี้
1.ที่ส่วน หน้า(Page) ใช้เมาส์เลือกหัวข้อที่ต้องการเพิ่มหน้าย่อย จะเกิดจุด 3 จุดที่ท้ายรายการ ทำการคลิก จุด 3 จุด
2.จะเกิดรายการย่อย หลายรายการ ในที่นี้ เลือกรายการ เพิ่มหน้าย่อย (Add Subpage)
3.ทำการเพิ่มเนื้อหา ตามขั้นตอนที่ 6
ชื่อที่ตั้งในข้อที่ 2 จะมาปรากฏตรงกลางพื้นที่ส่วนหัว (ซึ่งข้อความตรงนี้สามารถปรับแก้ไข ตัวข้อความใหม่ได้) การปรับขนาดของข้อความตรงส่วนหัวนี้ หากเลือกรูปแบบใด ควรทำให้เป็นรูปแบบใกล้เคียงกัน ทั้ง Sites
วิธีการโดยคลิกที่เส้นสีฟ้ารอบข้อความ จะมีส่วนให้ปรับขนาดตัวอักษร 5 รูปแบบ คือ
1.ข้อความปกติ (Normal text)
2.ชื่อ (Title)
3.ส่วนหัว (Heading)
4.หัวข้อย่อย (Subheading)
5.ตัวอักษรขนาดเล็ก (Small text)
แม้ว่า Google Sites จะมีแบบแบบภาพพื้นหลังเพื่อใช้ทำปกหัวเว็บมากมายก็ตาม แต่ภาพพื้นหลังเหล่านั้น อาจขาดเสน่ห์ในการดึงดูด การเข้าชม หรือเข้าอ่านเนื้อหา สิ่งหนึ่งที่จะเป็นส่วนเสริมให้เว็บข้อมูลความรู้ชุมชน(ประชาชน) มีความโดดเด่น ก็คือการสร้างบรรยากาศ หรือจัดสภาพแวดล้อมที่พิเศษ มีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจ กว่าการเลือกใช้ภาพของ Google Sites สำหรับในเนื้อหานี้เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยทักษะการทำงานด้านโปรแกรมสามัญประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ นั่นก็คือ โปรแกรม Microsoft PowerPoint เพื่อที่จะได้นำไฟล์รูปที่สร้างนำมาใส่เป็นภาพหลักที่หัวเว็บในทุกๆ เนื้อหา ภาพเหล่านี้ จะช่วยส่งเสริมให้เรื่องราวในหน้าที่กำลังนำเสนอ นั้น มีความโดดเด่น
จากภาพตัวอย่างด้านล่าง Google Sites มีธีมชุดสีและภาพฉากหลังต่างๆให้ได้เลือกใช้พอสมควร ถ้างานเร่งด่วน ไม่คิดมากก็สามารถใช้ได้ดีทีเดียว
1) เปิด Sites ที่ต้องการปรับเปลี่ยน ขึ้นมา
2) นำเมาส์มาชี้ตรงส่วนขอบล่างของฉากหลังส่วนหัวของหน้า
3) คลิกเลือกที่รายการ เปลี่ยนรูปภาพ : จะแสดงตัวเลือกให้ 2 รายการ แต่ในที่นี้เลือก
อัปโหลด เป็นการนำภาพฉากหลังที่เตรียมไว้ นำขึ้นระบบของ Sites
ภาพที่เตรียมไว้ควรมีขนาด 1000 x 225 pixels
นอกจากการ อัปโหลด แล้ว ยังมีวิธีอื่นๆอีกที่ Google Site ได้อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งาน ศึกษาเพิ่มเติม
1) ที่กลุ่มเครื่องมือด้านขวา เลือก กลุ่ม Insert หรือ แทรก
2) เลือกรายการย่อย Text box หรือ ช่องข้อความ
3) จะเกิดช่องข้อความขึ้นให้ ทำการพิมพ์ หรือ สำเนาจากเอกสาร Word (หรือข้อความในหน้าเว็บต่างๆ)เลือกใช้เงื่อนไข วางเป็นข้อความธรรมดา หรือ Paste as plain text (Ctrl+Shift+V)
คำแนะนำ
ไม่ควรสำเนาข้อความมาทีเดียว ควรสำเนามาทีละช่วง ตามที่ได้กำหนดไว้ในช่วงทำบทความ (ประมาณ 4-6 บรรทัด A4)
1) ที่กลุ่มเครื่องมือด้านขวา เลือก กลุ่ม Insert หรือ แทรก
2) เลือกรายการย่อย Images หรือ รูปภาพ
3) จะเกิดตัวเลือก Upload กับ Select ให้เลือก Upload
4) ระบบจะเกิดหน้าต่างใหม่ขึ้น ให้ท่านไปยังแหล่งที่เก็บไฟล์ คลิกเลือกไฟล์ ที่ต้องการ
5) คลิกที่ Open ตามลำดับ
6) ทำการปรับ ขนาดให้พอเหมาะ กับหน้าเว็บ
7) คลิกปุ่ม Uncrop หรือ ปุ่มยกเลิกการครอบตัด เพื่อคงความสมบูรณ์ของขนาดภาพทั้งหมด (ยกเว้น หากท่านต้องการครอบตัด เพื่อเอาเฉพาะ ภาพบางส่วน)
มาถึงตรงนี้ ถือว่า ท่าน สร้างหน้าเอกสารเว็บขั้นพื้นฐาน ได้แล้ว
Google Sites ได้เพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้งานในการจัดหน้าเอกสารเว็บด้วย แม่แบบ หรือ Layouts จำนวน 6 แบบ ที่ผู้ใช้งานสามารถนำมาสร้างงานและประยุกต์ใช้ได้อย่างง่ายๆ
1.มีความคงที่ : แม่แบบมีความคงที่ของตำแหน่ง (หากไม่มีการปรับขนาด) ดังนั้นการจัดวางหน้าเอกสารเว็บ จะมีความสวยงาม
2.รองรับการใช้งานที่เพิ่มมุมมองด้านศิลปะมากขึ้น