ภูมิปัญญาท้องถิ่น

งานจักสานไม้ไผ่ของปู่ ภูมิปัญญาของบ้านสุขเกษม

กล่าวถึงบ้านสุขเกษมในสมัยก่อนชื่อหมู่บ้าน หมู่ที่ 4 นี้ ทางราชการใช้ชื่อว่า ”บ้านบางยุง” ส่วนคำว่า ”สุขเกษม”เป็นชื่อของชุมชนหนึ่งเท่านั้น ยังไม่ได้เป็นชื่อหมู่บ้านของทางราชการ จนเมื่อปี พ.ศ. 2544 ได้เปลี่ยนจากบ้านบางยุง เป็นบ้านสุขเกษม หมู่บ้านนี้มีมาตั้งแต่อดีต บรรพบุรุษมาจับ จองอยู่อาศัยทำมาหากินจนถึงปัจจุบัน โดยมี ”วัดเกษมสุริยัมนาจ”เป็นศูนย์รวมจิตใจของ ชาวบ้านที่มาร่วมทำบุญ ตามวันสำคัญทางศาสนาเหตุที่ชื่อว่า ”บ้านสุขเกษม” เป็นเพราะว่าหมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ ริมแม่น้ำท่าจีน อันเป็นถิ่นที่ทำมาหากินที่อุดมสมบูรณ์เป็นอย่างยิ่ง จึงตั้งชื่อชุมชนให้สอดคล้องกับสภาพของสิ่งแวดล้อม และในสมัยก่อนมีการค้าขายทางเรือ มีการส่งสินค้าสะดวกทำให้ชาวบ้านนั้นมีความสุขมาก พืชผลทางการเกษตรมีการส่งขายสะดวก ทั้งทางน้ำและทางบก


คนในชุมชนนอกจากจะมีอาชีพจักสานผักตบชวาแล้วยังที่อาชีพอีกอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจและหาคนที่จะสืบทอดได้ยากคืออาชีพจักสานไม้ไผ่ให้เป็นอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในครัวเรือนหรือนำไปใช้ในการประมงเป็นเครื่องมือหาปลาที่มีความคงทนและสวยงามซึ่งถ้าคนไหนที่ชื่นชอบกับงานจักสานไม้ไผ่แล้วก็จะชอบผลงานของลการจักสานที่ละเอียดสวยงามและมีลายหรือรูปแบบที่หลากหลายนำไปเป็นของฝากหรือนำไปเก็บสะสมไว้เพื่อสวยงามสำหรับคนที่ชอบอนุรักษ์พวกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ไผ่ ซึ่งในซอยสี่ของหมู่บ้านสุขเกษมก็ภูมิใจนำเสนอสินค้าที่จักสานจากไม้ไผ่ที่มีปู่คนหึ่งนั่งสานไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างมากมายจากภูมิปัญญาที่มีอยู่ในหมู่บ้าน


การจักสานไม้ไผ่สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับผู้ที่สนใจที่จะมาเรียนจักสานจากภูมิปัญญาที่มีอยู่ในหมู่บ้านสามารถมาเรียนรู้ได้ สามารถที่จะเข้าไปแสวงหาความรู้จากผู้เฒ่า ผู้แก่ที่มีฝีมือในเรื่องการจักสานไม้ไผ่อย่างเช่นคุณปู่ประสิทธิ์ โพธิ์สุวรรณที่เห็นคนสมัยก่อนเล่าสู่กันมาถึงเรื่องการจักสานไม้ไผ่ที่มีฝีมือมาตั้งแต่หนุ่มๆเขาเล่าว่าปู่สานมาตั้งแต่เป็นหนุ่มและใช้อาชีพจักสานไม้ไผ่นี้หาเลี้ยงครอบครัวมาตลอด เพราะปู่เป็นคนที่มาความใจเย็น มีสมาธิ มีความเรียบร้อย และมีความตั้งใจในการทำงานจึงยึดมาเป็นอาชีพตลอดมา ซึ่งปู่สามารถถ่ายทอดความรู้ได้ทุกคนจากรุ่นพ่อมาจนถึงรุ่นลูกได้ปู่เป็นคนใจดีใครที่เข้ามาสอบถามเรื่องการจักสานปู่ก็จะตอบได้เป็นอย่างดีละชัดเจนและชวนนั่งสานตะกร้าไปพร้อมๆกัน


เคยได้เดินเข้าไปในชุมชนบ้านสุขเกษม หมู่ 4 ก็พบว่าบ้านสุขเกษมซอย 4 เดินเข้าไปประมาณ 200 เมตร มีปู่คนหนึ่งนั่งสานสุ่มที่เป็นเครื่องมือไว้สุ่มปลา นั่งสานแบบสบายๆไม่ใส่เสื้อ ปู่เป็นคนสูงโปร่ง มีนิสัยยิ้มเกรง พูดจาสนุกสนานจึงเป็นที่รักใคร่ของคนในหมู่บ้านถ้าไปถามถึงปู่ทุกคนในหมู่บ้านจะรู้จักหมดเพราะปู่มีชื่อเสียงด้านการจักสานไม้ไผ่ที่มีฝีมือหาตัวจับยาก ปู่บอกว่ามันสานง่ายนิดเดียวถ้าเราอยากจะเรียนรู้ ปู่สานได้หลายอย่างหลายรูปแบบและเป็นงานที่ละเอียดเรียบร้อย เราแนะนำตัวว่าเป็นครูมาจาก กศน.ตำบลบางเลน ว่าหนูสนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องการจักสาน ปู่ก็ชวนคุยและพาดูผลิตภัณฑ์ที่ปู่สานเก็บไว้เพื่อรอลูกค้าที่สั่งซื้อไว้มารับ ของแต่ละชิ้นสวยงามเป็นที่ต้องตาของผู้พบเห็น ปู่บอกครูมันสอนไม่ยากนะถ้าจะเรียนรู้หรือจะให้ปู่สอนวันไหนพร้อมก็มาให้ปู่สอนได้เลยเอาแบบง่ายๆก่อนเดี๋ยวก็เป็นเอง ปู่ใจดีจังเลยแม้เราไม่ใช่คนในหมู่บ้านปู่ก็ยินดีสอนให้ ซึ่งหายากสำหรับสมัยนี้เลย


ดังนั้น ภูมิปัญญาที่มีอยู่ในชมชนหรือในหมู่บ้านก็สมควรที่จะอนุรักษ์ไว้เพราะหลังจากหมดปู่หรือคนรุ่นนี้แล้วก็จะหายากขึ้น การที่จะสานไม้ไผ่ได้ต้องมีใจรักและมีความสนใจจริงๆปัจจุบันปู่ก็ถ่ายทอดให้กับลูกชายตนเองและคนที่เคยได้มาเรียนรู้กับปู่ ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีคนสืบทอดได้เหมือนปู่ไหม เราขอเอาใจช่วยให้ปู่อยู่กับงานจักสานของปู่ไปนานๆจนกว่าปู่จะหมดลมหายใจ มาหาปู่ได้ที่ ซอย 4 บ้านสุขเกษม หมู่ 4 ตำบลบางเลน อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม อย่างลืมอุดหนุนกันเพื่อได้ของ ถูก ดี มีคุณภาพกันนะ

นางสาวรรินทร์ ใจเยือกเย็น ผู้เขียน


ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี บ้านสุขเกษม