บ้านหนองพง เป็นชุมชนขนาดเล็ก ประชาชนในหมู่บ้านส่วนหนึ่งย้ายถิ่นฐานมาจากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีวัฒนธรรม ประเพณีของคนในท้องถิ่นโดยเฉพาะ เช่น การทอผ้าเครื่องนุ่งห่มใช้เองในครัวเรือน ถือเป็นงานของสตรีในหมู่บ้านที่ใช้เวลาว่างจากการทำนา ทำไร่ในช่วงหลังฤดูเก็บเกี่ยว โดยมีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ทำเสื้อใยมาทอเป็นผ้าไหมชั้นดี มีคุณค่า เป็นที่ภาคภูมิใจของคนในชุมชน เป็นการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีการปลูกฝ้าย แล้วนำดอกฝ้ายมาทอเป็นผืนผ้า แต่ผ้าที่ทอจากฝ้ายเมื่อนำไปใช้เป็นเครื่องนุ่งห่มจะไม่คงรูป คงทน และความวิจิตรสวยงามแพ้ผ้าไหมต่อมาเมื่อปี 2529 โครงการไทย – ออสเตรเลีย ภายใต้การดำเนินงานของสำนักงานเกษตรจังหวัดพิจิตร ได้แนะนำให้ชาวบ้านหนองพง รวมกลุ่มจัดตั้งเป็นกลุ่มทอผ้า โดยมีสมาชิกทั้งชายและหญิงร่วมกันปลูกโรงเรือนชั่วคราวและได้รับการอนุเคราะห์ที่ดินในการปลูกสร้างจาก คุณพ่อบุญมี –แม่ทองจันทร์ สืบสวน และคุณพ่อทา – แม่สวาท ผาริโน พื้นที่ประมาณ 200 ตารางวา ต่อมาได้จัดการฝึกอบรมทักษะการทอผ้าจากกี่กระตุก ซึ่งโครงการฯ จัดซื้อกี่ให้จำนวน 5 ตัว สำนักงานพัฒนาชุมชนสนับสนุนกี่กระตุกให้อีกจำนวน10 และเปลี่ยนอาคารชั่วคราวให้เป็นอาคารถาวร นอกจากนี้ยังมีส่วนราชการหน่ายหน่วยงานเข้ามาให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนทั้งจัดหาวิทยากรมาฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะและสนับสนุนเงินทุนในการดำเนินงาน ทำให้สมาชิกกลุ่มได้มีอุปกรณ์ในการทอผ้าใช้กันอย่างทั่วถึง ปี 2544 สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตร สนับสนุนวิทยากรเพิ่มทักษะในการทอผ้าไหม และกรรมวิธีย้อมไหมให้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น สามารถยกระดับในการทผ้าทอให้เป็นที่ยอมรับของตลาดและมีการทอผ้ากันอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา

ต่อมาในปี 2557 กลุ่มทอผ้าบ้านหนองพง ได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ของเครือข่าย KBO จังหวัดพิจิตร ได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์ ในการพัฒนาแปรรูปผลิตภัณฑ์ผ้าทอของกลุ่มให้เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทของใช้ต่าง ๆ เป็นการพัฒนาฝีมือในด้านการทอผ้า – ตัดเย็บผ้า สั่งสมภูมิปัญญาส่งต่อให้ลูกหลานภายในชุมชนต่อไป ต่อมาทางกลุ่มได้เริ่มปรับตัว มีการริเริ่มพัฒนาการทอผ้าในเรื่องของลาย การทำการตลาด จึงทำให้ทางกลุ่มทอผ้าบ้านหนองพง เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันนี้ทางกลุ่ม สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง มีการคิดค้นลายผ้าทอใหม่ ๆ ขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์ของลูกค้าที่หลากหลายกลุ่มวัย รวมถึงได้ต่อยอดการทอลายดอกบุญนาค ให้มีหลากหลายสีสัน เพื่อเพิ่มความสวยงามในการสวมใส่ จุดเด่นของผ้าที่นี่คือ เน้นทอให้เนื้อแน่น เพื่อให้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ลายประจำถิ่น : ดอกแก้ว, โคมห้า, ข้าวหลามตัด, สนหัวนาค สินค้าอื่นๆ : ผ้าพื้นตัดเสื้อ ผ้าลายดอก ผ้าถุง ผ้าขาวม้าและผ้าโสร่ง สอบถามข้อมูล : นางเตือนจิตร แก้วเกิด โทร. 0918237088 การเดินทาง กลุ่มทอผ้าบ้านหนองพงตั้งอยู่บนถนนชนบทหมายเลข ๓๐๔๕ หากเดินทางจากกรุงเทพฯ ให้ใช้เส้นทางถนนทางหลวงเส้น ๑๑๗ เมื่อถึงร้านครัวปลาใหญ่ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนน ๓๐๔๕ เข้าไปอีกประมาณ ๘.๕ กิโลเมตรความสำเร็จและมีความต่อเนื่องยั่งยืนในอาชีพนั้นๆ ได้ภายใน (ตั้งแต่เริ่มนำไปประกอบชีพ) ในระยะเวลา3 ปี ขึ้นไป โดยกลุ่มผ้าทอบ้านหนองพงได้รวมกลุ่มตั้งอาชีพทอผ้า ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ" เป็นของขวัญปีใหม่ 2564 พระราชทานคนไทยและสื่อความหมายถึงการส่งมอบความรัก ความสุขให้แก่ชาวไทยทุกคนพร้อมพระราชทานพระอนุญาตให้กลุ่มทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค สามารถนำไปใช้ทอผ้า ผลิตผ้ากลุ่มทอผ้าบ้านหนองพงได้ใช้สีธรรมชาติในการทอ ทำให้มีสีไม่ฉูดฉาด มีสีสันที่มีลักษณะเฉพาะ คือ สีจะออกโทนสี ขรึม เช่น น้ำตาล แดง เขียว ดา เหลือง อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมจากเปลือกไม้ ฝีมือการทอผ้าของกลุ่มทอผ้าบ้านหนองพงจะทอแน่นมีความละเอียดอ่อนในการทอและประณีต รู้จักผสมผสานลวดลายต่างๆ เข้าด้วยกัน แสดงถึงศิลปะที่สวยงามกว่าปกติ แต่เดิมนั้นการทอผ้าไหมของชาวบ้านทำเพื่อไว้ใช้เอง แต่ปัจจุบันทางจังหวัดพิจิตรรณรงค์ให้ข้าราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ เจ้าหน้าที่ทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนประชาชนทั่วไป ให้แต่งกายด้วยผ้าไทยสัปดาห์ละ 1 วัน ส่งเสริมการแต่งกายด้วยผ้าไทย ผ้าพื้นเมือง ทำให้เกิดความประสบความสำเร็จในกลุ่มอาชีพ