นายอุดม ระดาสิทธิ์ เกิดที่จังหวัดร้อยเอ็ด บิดา มารดา ประกอบอาชีพทำนาเป็นหลัก มีเพื่อนบ้านได้ชักชวนมาจับจองที่ดินทำกินแห่งใหม่ ที่จังหวัดพิจิตร จึงอพยพครอบครัวมาซื้อที่ดินทำกิน ในขณะที่ยังวัยเยาว์ และได้เรียนรู้การประกอบอาชีพเกษตรกรรมเรื่อยมา จนกระทั่งได้มีครอบครัวก็ประกอบอาชีพทำนา ทำสวน ทำไร่ จนสร้างฐานะพอสมควร จนใน พ.ศ. ๒๕๒๘ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด คือ ขณะที่ตนเองและภรรยาไปไถนาอยู่นั้นเกิดไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง ไม่มีทรัพย์สินเหลืออยู่เลย ตนเองจึงมุ่งมั่นที่จะประกอบอาชีพทำนา ต่อไป จนได้ปลูกบ้านหลังใหม่ในเวลาต่อมา จากการที่มีความสนใจในอาชีพเกษตรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็จะศึกษาหาความรู้ด้วยการลองผิด ลองถูกและ ฝึกปฏิบัติด้วยตนเองอยู่เสมอ จนผู้ใหญ่บ้านเห็นว่าเป็นผู้มีความรู้ ความชำนาญด้านเกษตรมากกว่าบุคคลอื่น เมื่อมีการประกวดหมู่บ้านครั้งใดก็จะได้รับเชิญให้เป็นผู้นำเสนอข้อมูลด้านการเกษตรให้กับคณะกรรมการประกวดหมู่บ้านทุกครั้ง ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๓๒ ได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานด้านพืชสวนที่บ้านวังทับไทร อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร ก็นำความรู้มาปรับที่ดินของตนเองให้มีพืชที่หลากหลาย และมีความสนใจที่จะพัฒนาตนเองยิ่งขึ้นจึงสมัครเป็นหมอดินอาสาประจำหมู่บ้าน หลังจากนั้นได้เก็บเงินซื้อที่ดินอีก ๔๐ ไร่ มาทำเกษตรผสมผสาน โดยใช้พื้นที่ของตนเองฝึกปฏิบัติลองผิด ลองถูก จะใช้ปุ๋ยอินทรีย์และสารสกัดชีวภาพที่ทำเองมาทดลองใช้ และแนะนำให้เพื่อนบ้านนำไปใช้ และขยายผลให้กับชุมชนอื่นๆและผู้สนใจที่มาขอคำแนะนำอยู่เสมอ จนกระทั่ง ปี พ.ศ.๒๕๔๕ จึงได้ริเริ่มจัดตั้งกลุ่มการทำปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด โดยการจัดเวทีชาวบ้านในการแก้ไขปัญหาการใช้ปุ๋ยเคมีทำให้ต้นทุนการผลิตสูงของเกษตรกรในหมู่บ้าน ได้ร่วมกับชาวบ้านคิดค้นหาสูตรที่เหมาะสมกับวัตถุดิบในชุมชน และเครื่องอัดเม็ดปุ๋ยก็คิดดัดแปลงจากเครื่องมือการเกษตรที่มีอยู่เอง จนประสบผลสำเร็จและมีการรวมหุ้นจากสมาชิก เพื่อรวมทุนจัดหาวัตถุดิบมาให้เพียงพอกับความต้องการ และต่อมาได้รับการสนับสนุนเครื่องปั้นปุ๋ยจากองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งใหญ่ในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จากนั้นก็ได้ศึกษาเรียนรู้พัฒนาตนเองในด้านการเกษตรอินทรีย์อย่างต่อเนื่อง นำความรู้ที่ได้มาพัฒนาตนเองและเผยแพร่ให้กับคนในชุมชน และนอกชุมชนเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ประสบการณ์การทำงานด้านที่ เชี่ยวชาญด้านที่เชี่ยวชาญเฉพาะ ประสบการณ์การทำงานด้านที่เสนอขอตามข้อ ความรู้และประสบการณ์ด้านการเกษตรอินทรีย์ ได้แก่ การทำปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพการปุ๋ยน้ำชีวภาพสูตรต่างๆ เช่น น้ำหมักพืชผักผลไม้ น้ำหมักหอยเชอรี่ น้ำหมักจุลินทรีย์หน่อกล้วย น้ำหมักรกหมู ฮอร์โมนไข่ น้ำหมักลูกตาล น้ำส้มควันไม้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงการทำสารชีวภัณฑ์ เช่น การผลิตเชื้อราไตรโคเดอร์มา การผลิตเชื้อราบิวเวอร์เรีย การทำสารสกัดชีวภาพไล่แมลง การทำนาแบบไม่เผาตอซังการปรับปรุงดินโดยใช้ปุ๋ยพืชสดระยะเวลาในการทำงานด้านที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ (ระบุระยะเวลาในการทำงาน/การถ่ายทอดความรู้)ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๕ – ปัจจุบันการถ่ายทอดและการพัฒนาการถ่ายทอดความรู้ (ระบุรูปแบบวิธีการถ่ายทอด/การพัฒนาการถ่ายทอด)อบรมและให้ความรู้ให้กับบุคลทั่วไปทังภายใน และภายนอกชุมชน เรื่อง การทำปุ๋ยชีวภาพ การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรต่างๆ การทำสารสกัดไล่แมลง การทำสารชีวภัณฑ์ในการกำจัดโรคพืช และได้อุทิศบ้านตนเองเป็นแหล่งเรียนรู้ในการอบรมและศึกษาดูงาน รวมถึงการตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ปัจจุบันมีสมาชิก ๔๐ คน การพัฒนาการถ่ายทอดองค์ความรู้ ได้จัดหาทำสื่อในรูปแบบต่างๆ เช่น แผ่นพับ ป้ายข้อมูล สื่อจากของจริงสำหรับให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ฝึกปฏิบัติ และการทดลองการใช้ดินในการปลูกพืช การขยายพันธุ์พืชต่างๆ เช่น การปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษ การปลูกและขยายพันธุ์ผักหวานป่า การขยายพันธุ์ข้าวอินทรีย์ การเลี้ยงปลาโดยใช้น้ำหมักจากจุลินทรีย์ ผู้รับการถ่ายทอดความรู้ในโรงเรียน/นอกโรงเรียน/ตามอัธยาศัย ได้เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้นับแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๕ จนถึงปัจจุบัน ผลงานซึ่งเป็นที่ยอมรับในสังคม ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหมอดินประจำอำเภอโพธิ์ประทับช้าง ,ได้รับการคัดเลือกให้เป็นประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ ,ได้รับคัดเลือกเป็น ภูมิปัญญาท้องถิ่นดีเด่น อำเภอโพธิ์ประทับช้าง พ.ศ. ๒๕๕๕,ประกาศนียบัตรเป็น เกษตรกรปราชญ์เปรื่อง(Smart Farmer) ต้นแบบด้านข้าว ปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ,เกียรติบัตรเป็นผู้ประสบผลสำเร็จในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม จังหวัดพิจิตร ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ,ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นวิทยากรอบรมโครงการเสริมสร้างความเป็นพลเมืองตามระบอบประชาธิปไตย สำนักงาน กกต.จังหวัด ปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ,รับเกียรติบัตรพ่อดีเด่นของตำบลทุ่งใหญ่ พ.ศ.๒๕๕๘ ,รับเกียรติบัตรเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรมประพฤติดีงามเพื่อประโยชน์สุขแก่ตนและสังคม ปี พ.ศ.๒๕๕๙ ,รับเกียรติบัตรเป็นแหล่งเรียนรู้ในการขยายผลให้ความรู้และความเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปี พ.ศ.๒๕๕๙ ,รับเกียรติบัตรผ่านการพัฒนาตนเองตามระบบมาตรฐานงานพัฒนาชุมชน ประเภทผู้นำชุมชนประจำปี ๒๕๕๙ ,ได้รับคัดเลือกไปศึกษาดูงานประเทศไต้หวันกับกรมการพัฒนาที่ดิน ปีพ.ศ.๒๕๕๘ ได้รับคัดเลือกเป็น ภูมิปัญญาท้องถิ่นดีเด่น อำเภอโพธิ์ประทับช้าง พ.ศ. ๒๕๕๕ ,ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหมอดินประจำอำเภอโพธิ์ประทับช้าง สถานีพัฒนาที่ดินพิจิตร ,ได้รับเกียรติบัตรพ่อดีเด่นของตำบลทุ่งใหญ่ พ.ศ.๒๕๕๘ ,ได้รับเกียรติบัตรผ่านการพัฒนาตนเองตามระบบมาตรฐานงานพัฒนาชุมชน ประเภทผู้นำชุมชนประจำปี ๒๕๕๙