ประวัติหลวงพ่อโต
ประวัติหลวงพ่อโต
ประวัติหลวงพ่อโต วัดชัยชนะสงคราม จังหวัดตาก
วัดชัยชนะสงคราม ตั้งอยู่ที่บ้านท่าแค ริมถนนไทยชนะ ตำบลเชียงเงิน ในเขตเทศบาลเมืองตาก สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2258 เดิมมีชื่อว่า วัดท่าชัย หรือวัดดอยท่าชัย แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดท่าแค ตามชื่อหมู่บ้าน วัดนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในการที่กองทัพอยุธยาได้รับชัยชนะในการรบสู้กับข้าศึกในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ ทางด้านหลังหมู่บ้านมีคันคู ซึ่งสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์มีรับสั่งให้ทหารขุดดินทาคันคูต้านทานกองทัพข้าศึก พื้นที่ที่ได้ขุดลงไปเป็นหนองน้ำเรียก หนองคา ปัจจุบันยังปรากฏให้เห็นอยู่ ภายในวัดมีอาคารเสนาสนะที่สาคัญ ได้แก่ อุโบสถ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2520 ศาลาการเปรียญ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2515 หอสวดมนต์เป็นอาคารตึก 2 ชั้น สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2525 กุฏิสงฆ์ 2 หลัง เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ และมีเจดีย์ 1 องค์ ภายในอุโบสถประดิษฐานพระประธาน หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย สมัยสุโขทัย หน้าตักกว้าง 2.30 เมตร สูง 3.30 เมตร เชื่อกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มภัย และมีพระพุทธรูปเนื้อทองสัมฤทธิ์ สมัยเชียงแสน อีก 2 องค์ ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อสองพี่น้อง วัดนี้ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. 2449
ประวัติหลวงพ่อโต วัดชัยชนะสงคราม จังหวัดตาก สร้างขึ้นราวปีพุทธศักราช 2299 ถือเป็นพระพุทธรูปสำคัญประจำจังหวัดตาก "หลวงพ่อโต-บันดาลชัยให้สมปรารถนา" คือ คำบอกเล่าในพุทธบารมีหลวงพ่อโต ตามหลักฐานประวัติศาสตร์ชาติไทย เมื่อครั้งพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถี กับขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด จนมีชัยชนะ บริเวณดอยช้าง ตำบลเกาะตะเภา อำเภอบ้านตาก ซึ่งเป็นเมืองตากเดิมในสมัยนั้น จนกระทั่งต่อมามีการย้ายเมืองตาก มาอยู่ในปัจจุบัน คือ ตำบลระแหง อำเภอเมืองตาก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำปิง ทางทิศตะวันออก โดยให้แม่น้ำปิง เป็นคูเมืองปราการ สู้ข้าศึกศัตรูพม่าที่ยกทัพเข้ามาทางด้านด่านแม่ละเมา และต้องตีฝ่าเมืองตากเป็นแห่งแรก ก่อนจะกรีธาทัพเข้าไปยังหัวเมืองชั้นใน ชื่อเมืองตาก ปรากฏอยู่ในจารึกประวัติศาสตร์มาแต่โบราณกาลตามที่ได้กล่าวมา ย้อนไปในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พระเจ้าหงสาวดี นำกองทัพพม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยา โดยสั่งให้พระเจ้าเชียงใหม่ ซึ่งขณะนั้นเมืองเชียงใหม่เป็นเมืองขึ้นของพม่า ต่อเรือรบแล้วลำเลียงมาไว้ที่ตำบลระแหง เพื่อจะเข้าตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ จึงสั่งให้แม่ทัพไทยยกทัพขึ้นไปสู้รบทัพหน้าของพระเจ้าหงสาวดี เมื่อยกกองทัพไปถึงบ้านท่าแค ตำบลเชียงเงิน เมืองตาก แม่ทัพไทยได้สั่งให้ทหารขุดดินหลังบ้านท่าแค (ปัจจุบันพื้นที่ ที่ขุดลงไปกลายเป็นหนองน้ำเรียกหนองคา) ขึ้นมาทำคันคูต้านกองทัพข้าศึก ที่ตั้งทัพอยู่คนละฝั่งแม่น้ำ ที่บริเวณวัดหนองบัวค่ายหรือวัดบัวล้อมร้าง (ปัจจุบันปรากฏเพียงซากวัดร้างอยู่ใน ตำบลหนองบัวใต้) ปรากฏว่าการศึกครั้งนั้นรบชนะพม่า จึงได้สร้างวัดไว้เป็นอนุสรณ์เรียกว่า วัดดอยท่าชัย หรือ วัดชัยชนะสงคราม ในสมัยต่อมา แต่ชาวบ้านยังนิยมเรียกว่า วัดท่าแค ตามชื่อหมู่บ้านเดิมมาแต่โบราณกาล
"หลวงพ่อโต" แห่งวัดชัยชนะสงคราม ได้รับการบอกเล่าตามหลักฐานประวัติศาสตร์ท้องถิ่น โดย นายสมศักดิ์ สะมะโน หัวหน้ากลุ่มอำนวยการและประสานงาน สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตาก ในฐานะปราชญ์พื้นบ้านของเมืองตาก ว่าองค์หลวงพ่อโต ที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ ณ วัดชัยชนะสงครามแห่งนี้ สร้างขึ้นราวปีพุทธศักราช 2299
ในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ดำรงตำแหน่งเป็นหลวงยกกระบัตรเจ้าเมืองตาก พระองค์ทรงสร้างตำหนัก สวนม่วง ปัจจุบันตำหนักสวนม่วงนี้อยู่ที่ตำบลป่ามะม่วง ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิงตรงข้ามกัน ซึ่งในสมัยนั้นพระองค์ได้ทรงทำนุบำรุงสร้างวัดวาอารามหลายแห่ง และที่วัดดอยท่าชัย หรือวัดชัยชนะสงคราม พระองค์ทรงโปรดให้สร้างพระอุโบสถและพระประธานในอุโบสถขึ้น ชาวบ้านขนานนามว่า "หลวงพ่อโต" จากนั้นไม่เคยมีผู้ใด บูรณปฏิสังขรณ์ เพราะยุ่งกับสงคราม ไทย-พม่า จึงเป็นเหตุให้วัดถูกทิ้ง-รกร้างว่างเปล่าเป็นเวลามานาน จนอุโบสถเหลือเพียงแต่ผนังตึก 4 ด้าน ส่วนองค์หลวงพ่อโตถูกน้ำฝนชะทำให้สึกกร่อน
ต่อมาเมื่อราวปี พ.ศ.2449 พระอธิการยิ้ม เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พระครูเจ้าคณะแขวง กิ่งอำเภอเชียงเงิน พร้อมด้วยพระศักดาเรืองฤทธิ์ เจ้าเมืองตาก พร้อมศรัทธาพุทธศาสนิกชนชาวบ้านร่วมกันบูรณะพระอุโบสถ และซ่อมแซมองค์หลวงพ่อโต โดยใช้ใบมงคั้นเอาน้ำผสมกับปูนขาวเหนียว เสริมตกแต่งให้รูปทรงของหลวงพ่อโต ดีดังเดิม ดังที่เห็นในปัจจุบันและได้ก่อสร้างเสริมอาสนะหลวงพ่อโต กว้างขวางออกไปอีก เมื่อซ่อมเสร็จในปีเดียวกันนี้ ได้มีพ่อเลี้ยงเป็นชาวเชียงใหม่ ได้ล่องเรือบรรทุกพระพุทธรูปมาจอดที่ท่าน้ำหน้าวัดชัยชนะสงคราม แล้วขึ้นมานมัสการหลวงพ่อโตในโบสถ์ เห็นมีพระประธานองค์เดียว จึงมีจิตศรัทธานำพระพุทธรูป สมัยเชียงแสน สิงห์สาม ที่บรรทุกมาในเรือ หรือพระสองพี่น้อง เนื้อทองสัมฤทธิ์ถวายไว้ในโบสถ์ข้างๆ องค์หลวงพ่อโตซ้ายและขวาจวบจนปัจจุบันพุทธศาสนิกชนชาวบ้านที่ ศรัทธาในองค์หลวงพ่อโตได้ปฏิสังขรณ์พระอุโบสถอีกหลายครั้ง เพื่อเป็นพุทธบูชา เป็นที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อโตสืบไป พระพุทธรูปปางต่างๆ
พระพุทธรูปที่สำคัญของไทย "หลวงพ่อโต -บันดาลชัยให้สมปรารถนา" คือ คำบอกเล่าในพุทธบารมีหลวงพ่อโต วัดชัยชนะสงคราม ชาวบ้านที่ศรัทธาองค์หลวงพ่อโต ได้ร้องขอบนบานให้การงานสำเร็จ บางคนก็ขอให้ขายที่ดิน บางคนก็อยากให้ลูกหลานสอบได้ บางคนบนบานอยากเป็นข้าราชการ บางคนก็ได้โชคลาภก้อนโตนอกจากพวงมาลัยมะลิสดและผลไม้สดตามฤดูกาลนานาชนิดแล้ว เนื้อสัตว์ หัวหมู ถือว่าเป็นสิ่งต้องห้าม เพราะเชื่อว่าหลวงพ่อโต วัดชัยชนะสงคราม ไม่โปรด
ผู้เขียน นางทักษพร วงษ์พานิช
ผู้ถ่ายภาพ นางทักษพร วงษ์พานิช
ข้อมูลอ้างอิง
1. https://takculturaltourism.com/view-attraction-1/
2. www.tumsrivichai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538723905&Ntype=42