การจัดการศึกษาแบบห้องเรียนคู่ขนาน เป็นการจัดการศึกษาสำหรับผู้เรียน ออทิสติก ที่มุ่งเน้นพัฒนา ศักยภาพของผู้เรียนอย่างสูงสุดในทุกด้าน เหมาะสมกับวัย และสามารถศึกษาเรียนรู้คู่ขนานไปกับเด็กปกติ พร้อมทั้งดำรงชีวิตในสังคมแบบมีส่วนร่วมได้อย่างเท่าเทียม โดยการบูรณาการองค์ความรู้และการจัดการทาง การศึกษาต่างๆ ที่กระทรวงศึกษาธิการได้เคยทำเอาไว้แล้วมาผนวกกัน เพื่อสร้างเป็นระบบจัดการทางการศึกษา สำหรับผู้เรียนออทิสติกโดยที่การจัดการศึกษาแบบห้องเรียนคู่ขนาน สามารถจัดการศึกษาสำหรับผู้เรียนออทิสติก ได้ในทุกกลุ่มอาการในการที่จะถ่ายโอนเด็กเข้าสู่ระบบการจัดการศึกษาแบบเด็กปกติต่อไปเมื่อผู้เรียนนั้นมีศักยภาพ เพียงพอและสามารถใช้สำหรับเด็กที่ยังไม่เคยเข้ารับการศึกษาในสถานศึกษาแบบเรียนรวม ร่วมกับผู้เรียนปกติ ทั้งนี้ การจัดการศึกษาแบบคู่ขนานจะยึดหลักผู้เรียนเป็นสำคัญ ปรัชญาการศึกษาแบบเรียนรวม และมุ่งเน้นใน การใช้ทรัพยากรต่างๆ ที่มีอยู่แล้วในสถานศึกษา ทั้งห้องเรียนและครูผู้สอน
การจัดการศึกษาแบบห้องเรียนคู่ขนาน เป็นการจัดการศึกษาสำหรับเด็ก/บุคคล ออทิสติกที่มี การบูรณาการ องค์ความรู้หลายส่วนเข้าด้วยกัน เพื่อให้เด็กได้สามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างสูงสุด โดย ใช้หลักปรัชญาการศึกษาที่ยึด ผู้เรียนเป็นสำคัญ (Child Center) ซึ่งจะทำให้การจัดการศึกษาในเรื่องต่างๆนั้น สอดคล้องกับศักยภาพของเด็กแต่ละคน 3.1 องค์ประกอบในการจัดการ การจัดการแบบห้องเรียนคู่ขนานนั้น จะเป็นการจัดการที่มุ่งเน้น พัฒนาศักยภาพของเด็กออทิสติก จนสามารถเรียนรวมกับเด็กปรกติในห้องเรียนปรกติได้ โดยก่อนหน้านั้น เด็กจะต้องได้รับการกระตุ้น และ เสริมสร้างทักษะในด้านต่างๆทุกด้าน รวมถึงด้านวิชาการความรู้ ตามกลุ่มสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ตาม หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของกระทรวงศึกษาธิการ องค์ประกอบที่สำคัญของการจัดการแบบห้องเรียนคู่ขนานนั้น สามารถแบ่งออกเป็นหัวข้อใหญ่ๆได้ คือ 1. ห้องเรียนคู่ขนานออทิสติก 2. หลักสูตรการเรียนการสอน 3. วิธีการจัดการศึกษา 4. คณะครูคู่ขนาน
การจัดการศึกษาแบบห้องเรียนคู่ขนานออทิสติก ธรรมชาติของเด็ก/บุคคลออทิสติกนั้น มีความบกพร่องทางพัฒนาการหลายด้าน ซึ่งเราสามารถจำแนกประเด็น ความบกพร่องนั้น ออกได้เป็น 3 เรื่องที่สำคัญๆ คือ 1. ความบกพร่องทางปฏิสัมพันธ์ทางสังคม 2. ความบกพร่องทางภาษาและการสื่อสาร 3. ความบกพร่องด้านพฤติกรรมและอารมณ์ เด็กออทิสติกแต่ละคน ก็มีความบกพร่องในแต่ละด้านมากน้อยแตกต่างกัน ดังนั้นในการจัดการศึกษา ให้เด็ก/บุคคลออทิสติก จึงจำเป็นต้องพิจารณาถึงศักยภาพของเด็กแต่ละคนเป็นสำคัญ และ การจัดการศึกษานั้นก็ จำเป็นที่จะต้องสอดคล้องกับศักยภาพของเด็กด้วย โดยมุ่งพัฒนาทักษะของเด็กที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ใน ขณะเดียวกันก็ต้องพัฒนาทักษะที่ยังไม่ดีของเด็กให้ดีขึ้น เพื่อให้เด็กสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างสูงสุด ซึ่งการจัดห้องเรียนคู่ขนานสำหรับบุคคออทิสติก ให้ปฏิบัติตามหลักการเดิมของการจัดห้องเรียนคู่ขนาน ปี 2547 คือ กำหนดให้มีนักเรียนออทิสติกที่มีอาการระดับรุนแรง/มาก 3-6 คน ต่อ 1 ห้องเรียน และมีครู ประจำห้องเรียนคู่ขนาน 2 คน