ชื่อ-นามสกุล นางสาวศิรินันท์ ชัยผล
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการ
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านหนองโค้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1
ห้องเรียนที่จัดการเรียนรู้ ห้องเรียนวิชาสามัญหรือวิชาพื้นฐาน
ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ
ซึ่งเป็นตำแหน่งและวิทยฐานะที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับผู้อำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 21 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)
รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
กิจกรรมแนะแนว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมชุมนุม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน - ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 7 ชั่วโมง/สัปดาห์
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
คณะกรรมการตามคำสั่งโรงเรียนบ้านหนองโค้ง ที่ 31/2568 เรื่อง แต่งตั้งครูและ
บุคลากรทำหน้าที่ครูผู้สอน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568
ลงวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2568 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน - ชั่วโมง/สัปดาห์
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 24 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)
รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชาชีพพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชาต้านทุจริตศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชาการสื่อสารและ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
การนำเสนอ
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
กิจกรรมแนะแนว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมชุมนุม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน - ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 7 ชั่วโมง/สัปดาห์
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
คณะกรรมการตามคำสั่งโรงเรียนบ้านหนองโค้ง ที่ 97/2567 เรื่อง มอบหมายการปฏิบัติ
หน้าที่ราชการ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567
ลงวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2567 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน - ชั่วโมง/สัปดาห์
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการ คือ แก้ไขปัญหา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การจัดการเรียนการสอนแบบ Activity based learning เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง การอ่านเพื่อความเข้าใจ (Reading Comprehension) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ มุ่งหวังให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อภาษาต่างประเทศ สามารถใช้ภาษาต่างประเทศ สื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ แสวงหาความรู้ ประกอบอาชีพ และศึกษาต่อ ในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องราวและวัฒนธรรมอันหลากหลายของประชาคมโลก และสามารถถ่ายทอดความคิดและวัฒนธรรมไทยไปยังสังคมโลกได้อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งหนึ่งในสาระสำคัญ คือ ภาษาเพื่อการสื่อสาร การใช้ภาษาต่างประเทศในการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน แลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเห็น ตีความ นำเสนอข้อมูล ความคิดรวบยอดและความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลอย่างเหมาะสม (กระทรวงศึกษาธิการ , 2551 : 221) หลักสูตรการศึกษาในประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิตและการทำงานในศตวรรษที่ 21 โดยหลักสูตรได้กำหนดให้วิชาภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งในวิชาหลักที่ต้องเรียนรู้ เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ใช้ในการสื่อสารทั่วโลก ซึ่งการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ (Reading Comprehension) เป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถของผู้เรียนให้เข้าถึงข้อมูลและองค์ความรู้ที่หลากหลาย (กระทรวงศึกษาธิการ, 2560).
การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษถือเป็นหัวใจสำคัญของการจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ใช้ในการสื่อสาร การแสวงหาความรู้ และการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ (Reading Comprehension) ซึ่งเป็นทักษะที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถตีความ วิเคราะห์ และเชื่อมโยงสาระจากบทอ่านไปสู่การประยุกต์ใช้ได้อย่างมีเหตุผล (Grabe & Stoller, 2011; Snow, 2002) การอ่านเพื่อความเข้าใจจึงไม่ใช่เพียงการถอดรหัสข้อความ แต่เป็นกระบวนการคิดเชิงซ้อนที่หล่อหลอมการเรียนรู้ในทุกวิชา
จากผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนในสาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม ยังอยู่ในระดับต่ำกว่ามาตรฐาน โดยเฉพาะมาตรฐานการเรียนรู้ ต 2.1 ที่มุ่งให้ผู้เรียนเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมและสามารถนำไปใช้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ สิ่งนี้สะท้อนถึงข้อจำกัดในการพัฒนาทักษะการอ่านเชิงวัฒนธรรม ที่ไม่เพียงแต่ต้องเข้าใจภาษา แต่ยังต้องเข้าใจบริบทและคุณค่าทางวัฒนธรรมของบทอ่านควบคู่กันเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว จำเป็นต้องพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ที่สามารถกระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้เรียน และสร้างประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับชีวิตจริง การจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning: ABL) จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสม เนื่องจากเน้นให้ผู้เรียนมีบทบาทในการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ผ่านการมีส่วนร่วม ลงมือปฏิบัติ และการสะท้อนผลการเรียนรู้ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดคอนสตรัคติวิสม์ (Constructivist Theory) (Buehl, 2001; Ayotola & Ishola, 2013) โดยงานวิจัยของ รัชนีกร ทัพชัย (2552) และศศิธร ลิจันทร์พร (2556) ยังยืนยันว่า ABL ช่วยพัฒนาทักษะการคิด การวิเคราะห์ และสร้างแรงจูงใจให้ผู้เรียนมีความสุขกับการเรียนรู้
นอกจากนี้ การบูรณาการ ภูมิปัญญาท้องถิ่นโคมลอยบ้านหนองโค้ง ซึ่งเป็นอัตลักษณ์สำคัญของชุมชนและเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของล้านนา จะช่วยทำให้การเรียนรู้มีความหมายและใกล้ชิดกับผู้เรียนมากขึ้น การนำเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติ ความเชื่อ ความสำคัญ และคุณค่าของโคมลอยมาเป็นเนื้อหาบทอ่าน ไม่เพียงช่วยฝึกการอ่านเพื่อความเข้าใจในระดับ Literal, Interpretive และ Critical reading แต่ยังช่วยให้ผู้เรียนเกิดความภาคภูมิใจในท้องถิ่น และตระหนักถึงคุณค่าของวัฒนธรรมไทยควบคู่ไปกับการเรียนภาษาอังกฤษ
ดังนั้น การพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ เรื่อง การอ่านเพื่อความเข้าใจ โดยใช้กระบวนการ Activity-Based Learning ร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่นโคมลอยบ้านหนองโค้ง จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นแนวทางที่จะช่วยแก้ปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ และสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ ตลอดจนเป็นการปลูกฝังคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่คู่กับการพัฒนาการศึกษาอย่างยั่งยืน
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 ศึกษาสาระ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เลือกหัวข้อ (topic) หน้าที่ภาษา (language functions) และรูปแบบภาษา (language forms) ที่ตรงกับหน้าที่ภาษา (function) ตามตัวชี้วัดของสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับสิ่งที่ต้องการพัฒนา
2.2 วิเคราะห์เนื้อหาสาระที่ใช้ในการสอนทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ (Reading Comprehension) จากหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 วิชาภาษาอังกฤษระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อออกแบบหน่วยการเรียนรู้ และจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ Activity – Based Learning
2.3 ศึกษาการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ Activity – Based Learning
2.4 ออกแบบหน่วยการเรียนรู้ และจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ Activity – Based Learning และนำไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่กำหนดไว้
2.5 จัดทำรายงานผลการจัดการเรียนการสอนแบบ Activity based learning เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนเรื่อง การอ่านเพื่อความเข้าใจ (Reading Comprehension) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
นิยามความหมายของรูปแบบการสอนแบบ (Activity – Based Learning : ABL)
การจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรมเป็นฐาน (Activity Based Learning : ABL) หมายถึง รูปแบบการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้และมีบทบาทในการเรียนรู้ โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ และทำความเข้าใจในเนื้อหาบทเรียน ผ่านกิจกรรมที่ผู้เรียนเป็นผู้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองผ่านการเล่นเกม การร้องเพลง บทบาทสมมุติ และสถานการณ์จำลอง คุณครูทำหน้าที่เป็นผู้ออกแบบกิจกรรมโดยการจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เหมาะสม และมีการวางแผนการใช้สื่อที่ดีเพื่อให้ผู้เรียนเรียนอย่างมีและสามารถภาษาอังกฤษไปด้วยความมั่นใจ
ขั้นตอนตามกระบวนการจัดการเรียนรู้ของ ABL ดังนี้
1.ขั้นทบทวนประสบการณ์ ในขั้นนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้คำแนะนำการเรียนรู้แก่นักเรียน ทบทวนความรู้เดิมและกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความสนใจในเนื้อหาที่จะเรียน
2.ขั้นกิจกรรม ในขั้นนี้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ทำงานร่วมกันตามกิจกรรมที่ครูจัดเตรียมไว้ให้ทั้งงานเดี่ยว งานกลุ่ม
3.ขั้นสะท้อนคิด ในขั้นนี้นักเรียนต้องสะท้อนคิดและองค์ความรู้ที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรม โดยคิด วิเคราะห์สถานการณ์และกิจกรรรมต่างๆที่เกิดขึ้นในขณะที่ร่วมกิจกรรมและนำเสนอผลงาน
4.ขั้นประเมินผล ในขั้นนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อประเมินผลการเรียนรู้จากสิ่งที่ผู้เรียนได้เรียนรู้มา
5.ขั้นประยุกต์ใช้ เป็นขั้นสุดท้ายของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในแต่ละชั่วโมง เพื่อนำสิ่งที่ผู้เรียนได้เรียนรู้ นำมาใช้ในสถานการณ์ใหม่หรือสถานการณ์ใกล้เคียงกับสิ่งที่ได้เรียนรู้มา
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองโค้ง ร้อยละ 70 เมื่อได้รับการจัดการเรียนการสอนแบบ Activity – Based Learning ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
3.2 เชิงคุณภาพ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะในการอ่านเพื่อความเข้าใจ (Reading Comprehension) เพิ่มมากขึ้น และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันหรือสถานการณ์จริงได้
สแกน qr code
ผู้สอนได้ แก้ไขปัญหา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น
ลงชื่อ .......ศิรินันท์ ชัยผล..............
(นางสาวศิรินันท์ ชัยผล)
ตำแหน่งครูชำนาญการ
ผู้จัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน
1 ตุลาคม พ.ศ. 2567