“วิสาหกิจชุมชนออมทรัพย์เพื่อการผลิต กลุ่มหินใหญ่ร่วมใจพัฒนา”
กศน.เทศบาลตำบลจ.ป.ร. อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง
..................................................................................
1. ความเป็นมาและความสำคัญ
ในปี พ.ศ. 2557 ได้เกิดวิกฤติผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ซึ่งทำให้ประชาชนในพื้นที่ตำบลจ.ป.ร. โดยส่วน ใหญ่มีอาชีพด้านการเกษตรได้รับผลกระทบจากวิกฤตินั้น และในขณะนั้น นายชัยวัตน์ ตะโกนอก ซึ่งเป็นประชาชนในพื้นที่ หมู่ที่ ๖ ตำบลจ.ป.ร.ที่ได้รับผลกระทบ จึงได้เกิดแนวคิดต่อสู้กับผลกระทบที่เกิดขึ้น และอยากเห็นชุมชนดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง เข้มแข็งและยั่งยืน จึงได้ชักชวนเพื่อนบ้านที่มีแนวคิดไปเป็นแนวทางเดียวกันร่วมกันจัดตั้งกลุ่มเพื่อแก้ปัญหา ประกอบกับในขณะนั้นนายชัยวัตน์ ตะโกนอก กำลังศึกษา กศน. จึงได้มีการปรึกษาหารือกับครูผู้สอน คือ นายสมบัติ มูลี เพื่อร่วมดำเนินกิจกรรมในการแก้ปัญหาดังกล่าว และทางกศน.อำเภอกระบุรีได้สนับสนุนดำเนินการกิจกรรมกลุ่มครั้งแรกโดยเป็นกิจกรรมลดต้นทุนทางการผลิตในทางการทำเกษตรโดยใช้วัสดุเหลือใช้ในชุมชนเป็นกิจกรรมการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ เพื่อลดต้นทุนการใช้ปุ๋ย จำนวนสมาชิกครั้งแรก 11 คน และต่อมาทางสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอกระบุรีออกหนังสือรับรองการดำเนินกิจกรรมของกลุ่ม รับรองว่ากลุ่มปุ๋ยหินใหญ่ร่วมใจพัฒนา บ้านน้ำขาว หมู่ที่ 6 ตำบลจ.ป.ร. ได้มีการดำเนินถูกต้องตามระเบียบและหลักการของกรมพัฒนาชุมชนทุกประการ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2558 และต่อมาได้ขอจดทะเบียนกับสำนักงานเกษตรอำเภอกระบุรี เป็น วิสาหกิจชุมชนหินออมทรัพย์เพื่อการผลิตกลุ่มใหญ่ร่วมใจพัฒนา เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2558 รหัสทะเบียนเลขที่ 8-85-04-06/1-0012 ที่ตั้งเลขที่ 214/1 หมู่ที่ 6 ตำบลจ.ป.ร. อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง จำนวนสมาชิก 14 คน หลังจากนั้นมีการรับสมาชิกเพิ่มและมีการประชุม ตั้งกฎระเบียบกลุ่ม ตั้งกฎการออมสัจจะของกลุ่มและได้มีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการเพื่อความเหมาะสมในการทำงานและในปัจจุบันศูนย์เรียนรู้การเกษตรพอเพียงตามรอยพระยุคลบาทกลุ่มหินใหญ่ร่วมใจพัฒนามีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับความรู้เรื่องหลักการดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง/เกษตรธรรมชาติ โดยใช้ฐานเรียนรู้ในชุมชน กระจายทั่วไปในตำบลจ.ป.ร. สามารถให้ความรู้กับผู้ที่สนใจ ที่จะนำความรู้ไปใช้ดำเนินชีวิต ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน,มีผลผลิตในการบริโภคและนำความรู้ไปประกอบเป็นอาชีพได้ และจุดหมายที่สำคัญคือเพื่อขจัดความเสียหายหรือผลกระทบที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ การพึ่งปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตรการทำเกษตรธรรมชาติตั้งอยู่แนวคิดที่ว่าด้วยเรื่องการปรับปรุงคุณภาพของผลผลิตการเกษตรที่ปลอดภัยเพื่อพัฒนาสุขภาพชีวิตที่ดี โดยตั้งอยู่บนรากฐานของปรัชญาที่ว่ามนุษย์ตลอดโดยสิ่งมีชีวิตต่างๆบนโลกจะดำรงอยู่ได้ด้วยการอนุรักษ์ระบบนิเวศที่สอดคล้องกับกฎของธรรมชาติและ ดิน เป็นปัจจัยพื้นฐานของการผลิต และจากผลการที่สมาชิกกลุ่มได้รวมทอดองค์ความรู้การดำเนินชีวิตตามรอยพระยุคลบาทแล้วได้นำมาขยายผลสำหรับเกษตรกรนำร่องในพื้นที่และขยายผลโดยใช้ฐานเรียนรู้ในชุมชนซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่ได้เข้ารับความรู้ตามความต้องการและได้นำไปใช้ในการประกอบอาชีพ เช่นกลุ่มเป้าหมายได้เรียนรู้การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ก็ได้นำความรู้นั้นไปประยุกต์ใช้กับครอบครัวเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยและในส่วนที่เหลือจากการใช้ก็ได้นำไปจำหน่าย
2. จุดประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน
เพื่อต้องการให้แนวทางในการดำเนินชีวิต ด้วยการส่งเสริมการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน ให้เข้ากับสภาวะปัจจุบัน โดยใช้ฐานเรียนรู้ในชุมชน ซึ่งเป็นกิจกรรมโดยใช้ภูมิปัญญาในท้องถิ่นในมาปรับใช้ในการประกอบอาชีพเช่น ให้ความรู้เกี่ยวกับองค์ความรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง,จัดกิจกรรมพัฒนาฐานเรียนรู้การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ, จัดกิจกรรมพัฒนาฐานเรียนรู้ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ,จัดกิจกรรมพัฒนาฐานเรียนรู้การเลี้ยงปลากระชัง,จัดกิจกรรมฐานเรียนรู้การเลี้ยงปลาบ่อพลาสติก,จัดกิจกรรมพัฒนาฐานเรียนรู้แม่บ้านกลุ่มหินใหญ่,จัดกิจกรรมพัฒนาฐานเรียนรู้การอนุรักษ์ป่าและธรรมชาติและจัดกิจกรรมอบรมศึกษาอาชีพจากฐานเรียนรู้และนำกิจกรรมการเรียนรู้จากฐานเพื่อสร้างโอกาสและทางเลือกให้เกิดการเรียนรู้ กระบวนการสร้างงาน สร้างรายได้และกระตุ้นให้ชุมชนได้เปลี่ยนแนวคิดในการประกอบอาชีพเพื่อสร้างเสริมรายได้
เพื่อให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้ที่หลากหลาย และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์สร้างอาชีพให้แก่คนในชุมชน
3.กระบวนการ/ขั้นตอนการดำเนินการ วิธีการและนวัตกรรมที่เป็น Best Practice
จัดกิจกรรมอบรมศึกษาอาชีพจากฐานเรียนรู้และนำกิจกรรมการเรียนรู้จากฐานเรียนรู้ไปดำเนินการฝึกอาชีพเพื่อการมีงานทำได้จริง ขยายผลโดยการจัดทำโครงการฝึกอบรมสำหรับเกษตรกรนำร่องในพื้นที่และขยายผลโดยใช้ฐานเรียนรู้ในชุมชนซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่ได้เข้ารับความรู้ตามความต้องการและได้นำไปใช้ในการประกอบอาชีพ เช่นกลุ่มเป้าหมายได้เรียนรู้การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ก็ได้นำความรู้นั้นไปประยุกต์ใช้กับครอบครัวเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยและในส่วนที่เหลือจากการใช้ก็ได้นำไปจำหน่าย
รูปแบบกระบวนในการดำเนินการ การบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้
- การบริหารจัดการศูนย์เรียนรู้จัดเป็นระบบกลุ่มโดยมีการกระบวนการในการคัดเลือกสมาชิกในการบริหารจัดการตามความเหมาะสม
- ถ่ายทอดความรู้จากภูมิปัญญาให้กับผู้สนใจ
- ประกาศจัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงวิสาหกิจชุมชนออมทรัพย์เพื่อการผลิต กลุ่มหินใหญ่ร่วมใจพัฒนา
- เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงวิสาหกิจชุมชนออมทรัพย์เพื่อการผลิต กลุ่มหินใหญ่ร่วมใจพัฒนา
4. ผลการดำเนินการ/ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ที่ได้รับ
กลุ่มเป้าหมายในชุมชนมีการนำความรู้ไปใช้อย่างต่อเนื่อง ความรู้ความเข้าใจตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี โดยอาศัยความรอบรู้มาใช้ในการวางแผนพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการการดำรงชีวิตอย่างมั่นคงและมีความสุขความสำคัญในกิจกรรมดังกล่าวสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้กลุ่มในพื้นที่ ได้รับโอกาสเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ด้วยการส่งเสริมการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน ให้เข้ากับสภาวะปัจจุบัน
5. ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จปัจจัยสู่ความสำเร็จในการดำเนินงานของกลุ่มฯ มีทั้งองค์กรที่เป็นเครือข่าย ทั้งเกษตรอำเภอ พัฒนาที่ดิน พัฒนาชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่นๆในพื้นที่ได้สนับสนุนทั้งวัสดุอุปกรณ์ ความรู้ทางวิชาการที่จะนำไปปฏิบัติ และได้มีการตั้งกฎ ระเบียบการดำเนินการของกลุ่มที่ชัดเจน
6. บทเรียนที่ได้รับและบทบาทของกศน.ต่อการส่งเสริมสนับสนุนแหล่งการเรียนรู้
- กศน.ได้เข้าไปจัดกิจกรรมและสนับสนุนกิจกรรมตามที่ชุมชนต้องการนั้นและผลจากการที่ประชาชนนำความรู้ไปใช้จริงจนเกิดการลดค่าใช้จ่ายและมีรายได้เสริมนำมาซึ่งเกิดอาชีพให้กับครอบครัว
- ประสานงานเครือข่าย
- การร่วมเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์กับแหล่งการเรียนรู้อื่นๆ
7. การเผยแพร่และแนวทางการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในอนาคต
แนวทางการพัฒนาสู่ความยั่งยืนในการจัดและสนับสนุนกิจกรรมจากกลุ่มฯให้กับประชาชนในชุมชนนั้นต้องพัฒนาจากพื้นฐานความต้องการ เพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ ได้รับโอกาสเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ด้วยการส่งเสริมการประกอบอาชีพ ให้เข้ากับสภาวะปัจจุบัน เป็นการสร้างรากฐานต่อการดำรงชีวิตให้กับประชาชนในชุมชนอย่างยั่งยืนโดย
- เน้นให้ผู้เรียนพึ่งตนเองได้ หรือใช้ชีวิตพอเพียงระดับบุคคลและครอบครัว
- ฝึกให้ผู้เรียนรู้จักประยุกต์ใช้หลักความพอเพียง สามารถวิเคราะห์วางแผนและจัดทำบันทึกรายรับ-รายจ่ายของตนเองและครอบครัวอย่างมีประสิทธิภาพและชุมชน มีส่วนร่วมในการดูแลบำรุงรักษาทรัพยากรต่าง ๆ ทั้งด้านวัตถุ สิ่งแวดล้อม ภูมิปัญญา วัฒนธรรมและรวบรวมองค์ความรู้ต่าง ๆ มาเป็น ข้อมูลในการเรียนรู้วิถีของชุมชน และเห็นคุณค่าของการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
- ประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงกับชุมชน มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชน สามารถสำรวจและวิเคราะห์ความพึงพอใจในระดับต่าง ๆ และในมิติต่าง ๆ ทั้งทางวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมใน ชุมชนใกล้ตัว เห็นคุณค่าของการใช้หลักพอเพียงในการจัดการชุมชน และในที่สุดแล้วสามารถนำหลักการ พอเพียงมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของแต่ละคน จนนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสู่ความพอเพียง ได้ในที่สุด
- เตรียมคนให้เป็นคนที่ดีต่อประเทศชาติสามารถทำประโยชน์ให้กับสังคมได้ ต้องเริ่มเข้าใจความพอเพียง
สามารถนำหลักคิดหลักปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียงมาบูรณาการสู่การเรียนการสอนในทุกกลุ่มสาระการ เรียนรู้ของทุกระดับได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน และเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์และมีความสุข