ลิสต์ใน Python คือ ชนิดข้อมูลคอลเลคชันที่ใช้เก็บข้อมูลหลายค่าภายในตัวแปรเดียว สามารถเก็บค่าที่มีหลายประเภท (เช่น ตัวเลข, สตริง, เป็นต้น) และถูกสร้างขึ้นโดยใช้เครื่องหมายวงเล็บเหลี่ยม [ ]
1. การสร้างลิสต์
ลิสต์ถูกสร้างขึ้นโดยใช้เครื่องหมายวงเล็บเหลี่ยม [ ] เพื่อรวมสมาชิกต่าง ๆ โดยใช้เครื่องหมายจุลภาค , คั่นระหว่างสมาชิก
เป็นการสร้างลิสต์ชื่อ fruits ที่ประกอบด้วยสมาชิก 3 ตัว ได้แก่ 'apple', 'banana', และ 'cherry'
2. การแสดงผลลิสต์
ใช้ฟังก์ชัน print() เพื่อแสดงผลค่าของลิสต์ fruits
ผลลัพธ์
['apple', 'banana', 'cherry']
3. การเข้าถึงค่าภายในลิสต์
ใน Python ดัชนีเริ่มต้นที่ 0 ดังนั้น fruits[0] จะเข้าถึงสมาชิกตัวแรกในลิสต์ ซึ่งคือ 'apple' ค่าที่เข้าถึงได้จะถูกเก็บไว้ในตัวแปร first_fruit
ผลลัพธ์
apple
4. การเพิ่มข้อมูลลงในลิสต์
เมธอด append() ถูกใช้เพื่อเพิ่มสมาชิกใหม่ 'orange' ไปยังท้ายของลิสต์ fruits.
ผลลัพธ์
['apple', 'banana', 'cherry', 'orange']
5. การเปลี่ยนแปลงค่าภายในลิสต์
ลิสต์สามารถเปลี่ยนแปลงค่าของสมาชิกได้โดยใช้ดัชนี ในที่นี้ fruits[1] จะถูกเปลี่ยนจาก 'banana' เป็น 'kiwi'.
ผลลัพธ์
['apple', 'kiwi', 'cherry', 'orange']
6. ลบข้อมูลจากลิสต์
เมธอด remove() ถูกใช้เพื่อลบสมาชิกที่มีค่า 'cherry' ออกจากลิสต์ fruits.
ผลลัพธ์
['apple', 'kiwi', 'orange']
7. ข้อมูลในลิสต์สามารถมีประเภทแตกต่างกัน
ลิสต์ใน Python สามารถเก็บข้อมูลที่มีประเภทต่างกันได้ เช่น ในที่นี้ mixed_list มีสมาชิกที่เป็นจำนวนเต็ม (1), สตริง ('apple'), จำนวนทศนิยม (3.14), และบูลีน (True).
ผลลัพธ์
[1, 'apple', 3.14, True]
💻 ตัวอย่าง การใช้งานลิสต์ (List)
!! ข้อควรระวัง !!
การตรวจสอบขอบเขตของดัชนี ต้องแน่ใจว่าดัชนีที่ใช้เข้าถึงลิสต์อยู่ภายในขอบเขตของลิสต์ ไม่เช่นนั้นจะเกิดข้อผิดพลาด (IndexError)
การจัดการข้อมูลประเภทต่างกัน ควรพิจารณาวิธีการจัดการข้อมูลที่มีประเภทต่างกัน เพื่อป้องกันความสับสน
ลิสต์สองมิติ (2D List) คือ การใช้ลิสต์ภายในลิสต์ ซึ่งช่วยให้สามารถจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบตาราง เช่น แถวและคอลัมน์
1. การสร้างลิสต์สองมิติ (ตาราง)
สร้างลิสต์สองมิติชื่อ matrix ซึ่งประกอบด้วย 3 แถว และแต่ละแถวมี 3 คอลัมน์
2. การแสดงผลลิสต์สองมิติ
ใช้ฟังก์ชัน print() เพื่อแสดงผลค่าของลิสต์สองมิติ matrix
ผลลัพธ์
[[1, 2, 3], [4, 5, 6], [7, 8, 9]]
3. การเข้าถึงค่าภายในลิสต์สองมิติ
การเข้าถึงค่าภายในลิสต์สองมิติจะใช้การระบุแถวและคอลัมน์ โดย matrix[1][2] หมายถึงแถวที่ 1 (ซึ่งคือ [4, 5, 6]) และคอลัมน์ที่ 2 (ซึ่งมีค่าเป็น 6). ค่าที่เข้าถึงได้จะถูกเก็บไว้ในตัวแปร value
ผลลัพธ์
6 (แถวที่ 1 คอลัมน์ที่ 2)
4. การเปลี่ยนแปลงค่าภายในลิสต์สองมิติ
สามารถเปลี่ยนแปลงค่าของสมาชิกในลิสต์สองมิติได้ โดยในที่นี้ matrix[0][1] หมายถึงแถวที่ 0 และคอลัมน์ที่ 1 ซึ่งเดิมมีค่าเป็น 2 จะถูกเปลี่ยนเป็น 10
ผลลัพธ์
[[1, 10, 3], [4, 5, 6], [7, 8, 9]]
(แถวที่ 0 คอลัมน์ที่ 1 เปลี่ยนเป็น 10)
5. การเพิ่มแถวใหม่ในลิสต์สองมิติ
เมธอด append() ถูกใช้เพื่อเพิ่มแถวใหม่ [10, 11, 12] ไปยังท้ายของลิสต์สองมิติ
ผลลัพธ์
[[1, 10, 3], [4, 5, 6], [7, 8, 9], [10, 11, 12]]
6. การลบแถวจากลิสต์สองมิติ
คำสั่ง del ถูกใช้เพื่อลบแถวที่ 1 (ซึ่งคือ [4, 5, 6]) ออกจากลิสต์สองมิติ matrix
ผลลัพธ์
[[1, 10, 3], [7, 8, 9], [10, 11, 12]]
(ลบแถวที่ 1)
💻 ตัวอย่าง การใช้งานลิสต์ 2 มิติ (2D List)
โปรแกรมเริ่มจากการสร้างตารางเวลาในแต่ละวัน (ใช้ลิสต์สองมิติ) และดำเนินการเข้าถึงข้อมูลของวันพุธ จากนั้นเปลี่ยนกิจกรรมในวันศุกร์ และสุดท้ายแสดงตารางวันศุกร์ที่แก้ไขแล้ว
!! ข้อควรระวัง !!
ตรวจสอบขอบเขตของดัชนี ต้องมั่นใจว่าได้ใช้ดัชนีที่ถูกต้องสำหรับแถวและคอลัมน์ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด IndexError
ความยาวของลิสต์ย่อย ต้องระวังลิสต์ย่อยที่มีความยาวต่างกัน เพราะจะทำให้การเข้าถึงข้อมูลทำได้ยากขึ้น