คือ ชื่อที่ตั้งขึ้นมาเพื่ออ้างอิงถึงตำแหน่งหน่วยความจำที่ใช้จัดเก็บข้อมูล และสามารถเรียกค่าข้อมูลที่เก็บอยู่ออกมาใช้ได้ กระบวนการสร้างตัวแปร เรียกว่า การประกาศตัวแปร หรือ การกำหนดตัวแปร
เป็นการกำหนดคำขึ้นมาเพื่อเก็บข้อมูลที่อยู่ทางด้านขวา โดยใช้เครื่องหมายเท่ากับ (=)
ในภาษาไพธอนไม่จำเป็นต้องประกาศตัวแปรก่อนใช้งาน สามารถกำหนดคำขึ้นมาแล้วเรียกใช้ได้เลย โดยมีกฎเกณฑ์ดังนี้
1. ใชัตัวอักษร A-Z หรือ a-z โดยตัวอักษรพิมพ์เล็กพิมพ์ใหญ่มีความแตกต่างกัน (Case Sensitive)
2. ตัวแปรห้ามขึ้นต้นด้วยตัวเลขแต่ใช้ประกอบในชื่อตัวแปรได้ตั้งแต่ 0-9
3. ใช้สัญลักษณ์ขีดล่าง (Underscore) ขึ้นต้น หรือผสมอยู่ในตัวแปรได้
4. ตัวแปรห้ามมีช่องว่าง
5. ห้ามมีสัญลักษณ์พิเศษ (@, ?, #, $, ...)
6. ตัวแปรห้ามซ้ำกับคำสงวน ได้แก่
*ควรตั้งชื่อตัวแปรที่สื่อความหมายให้ชัดเจน เพื่อผู้อื่นตีความหมายได้เข้าใจ แต่ถ้ามีความยาวมากให้ย่อ เช่น student_name ควรใช้ st_name เป็นต้น
สำหรับภาษาไพธอนไม่จำเป็นต้องกำหนดชนิดข้อมูลก่อนใช้งาน เนื่องจากไพธอนจะทำการเลือกประเภทข้อมูลให้โดยอัตโนมัติ หากผู้ใช้งานไม่ได้ทำการระบุ จึงสามารถจัดเก็บข้อมูลเข้าไปอยู่ในตัวแปรได้เลย
int ตัวเลขจำนวนเต็ม เช่น 1, 2, 3, 4, 5
float ตัวเลขมีทศนิยม เช่น 1.2, 2.5, 5.43, 9.345
complex ตัวเลขจำนวนเชิงซ้อน โดยเขียนอยู่ในรูปแบบ x+yi โดยเรียก x ว่า ส่วนจริง เรียก y ว่า ส่วนจินตภาพ ส่วน i ในภาษาไพธอน (Python) สามารถใช้ ‘j’ หรือ ‘J’ หลังตัวเลข สร้างส่วน จินตภาพเพื่อสร้างจำนวนเชิงซ้อน
เป็นข้อมูลที่มีค่าเป็นจริงหรือเท็จเท่านั้น โดยจะแทนด้วย True และ False
เป็นข้อมูลที่ไม่มีค่า หรือยังไม่ได้กำหนดค่า
เป็นข้อมูลที่ประกอบไปด้วยตัวอักษร ตัวเลข สัญลักษณ์และอักขระต่างๆ เช่น a-z, A-Z, ก-ฮ, 0–9, + — * @ * เป็นต้น ซึ่งจะเรียงต่อกันภายในเครื่องหมาย double quote (" ") หรือ single quote (' ') โดยข้อมูลต้องอยู่ต้องอยู่บรรทัดเดียวกัน และสามารถใช้เครื่องหมาย backslash (\) แทรกหากต้องการแยกบรรทัดใหม่
เป็นข้อมูลที่เรียงต่อกันภายใช้เครื่องหมายวงเล็บก้ามปู [ ] คั่นด้วยเครื่องหมายคอมม่า (,)
เป็นข้อมูลที่เรียงต่อกันภายใช้เครื่องหมายวงเล็บหรือไม่ต้องมีวงเล็บครอบก็ได้ และคั่นด้วยเครื่องหมายคอมม่า (,) ลักษณะจะเหมือนกับ List แต่จะไม่สามารถ เพิ่ม เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือลบข้อมูลใน Tuple ได้
เป็นข้อมูลที่เรียงต่อกันคั่นด้วยเครื่องหมายคอมมา (,) ภายในเครื่องหมายวงเล็บปีกกา { } สามารถเพิ่ม แก้ไข ลบข้อมูลและเป็นค่าว่างได้ แต่การจัดเก็บข้อมูลจะไม่มีลำดับ และจะไม่เก็บข้อมูลที่ซ้ำซ้อนกัน ดังนั้นจะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลด้วยตำแหน่งข้อมูล (index)
เป็นข้อมูลที่เรียงต่อกันคั่นด้วยเครื่องหมายคอมมา (,) ภายในเครื่องหมายวงเล็บปีกกา { } และอยู่ในรูปแบบของ key:value
การตรวจสอบตัวแปรใน Python ว่าเก็บข้อมูลชนิดใด สามารถทำได้โดยใช้ฟังก์ชัน type() ตัวอย่างเช่น
การแปลงชนิดข้อมูลในตัวแปรสามารถทำได้โดยใช้ฟังก์ชั้นต่างๆ ดังนี้
str() แปลงข้อมูลเป็นตัวอักษร (string)
int() แปลงข้อมูลเป็นตัวเลขจำนวนเต็ม (int. number)
float() แปลงข้อมูลเป็นตัวเลขจำนวนจริงหรือตัวเลขทศนิยม (float number)
💻 ตัวอย่าง การตรวจสอบตัวแปรว่าเก็บข้อมูลชนิดใดอยู่ และเปรียบเทียบการใช้ + ในการเชื่อม string
ผลลัพธ์
หมายถึง เครื่องหมายที่ใช้ในการดำเนินการต่างๆ เช่น เครื่องหมายบวกเป็นการเพิ่มค่า เครื่องหมายลบเป็นการลบค่า หรือเพื่อให้เข้าใจจ่ายๆ ตัวดำเนินการ ก็คือ เครื่องหมายที่ไว้จัดการกับตัวแปร ยกตัวอย่างเช่น
กำหนดให้ a = 1
กำหนดให้ b = 2
ดังนั้น ถ้า a + b = 3 ตัวดำเนินการก็คือ " + "
ตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ (Arithmetic Operators) หมายถึง เครื่องหมายที่ใช้ในการดำเนินการทางคณิตศาสตร์ เช่น การบวก ลบ คูณ หาร
💻 ตัวอย่าง การใช้ตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์
ตัวดำเนินการกำหนดค่า (Assignment Operators) หมายถึง เครื่องหมายที่ใช้ในการกำหนดค่าให้กับตัวแปร
💻 ตัวอย่าง การใช้ตัวดำเนินการกำหนดค่า
ตัวดำเนินการเปรียบเทียบ (Comparison Operators) หมายถึง ตัวดำเนินการที่ใช้ในการเปรียบเทียบค่าในตัวแปรซึ่งจะได้ผลลัพธ์ออกมาเป็น จริง (True) หรือ เท็จ (False) เท่านั้น โดยทั่วไปแล้วจะใช้กับการทำงานแบบมีเงื่อนไขหรือทางเลือก (IF Statement) และการทำงานแบบวนซ้ำ (Loop)
*ข้อควรระวัง ในการใช้คำสั่ง If ต้องระวังในเรื่องการแบ่งบล็อก เพราะ ไพทอนใช้การแบ่งบล็อกในการประมวลผล
💻 ตัวอย่าง การใช้ตัวดำเนินการเปรียบเทียบ
ตัวดำเนินการทางตรรกะ หรือตัวดำเนินการแบบสัมพันธ์ (Logical Or Relational Operator) คือ ตัวดำเนินการที่ทำหน้าที่เชื่อมการเปรียบเทียบเงื่อนไขตั้งแต่สองเงื่อนไขขึ้นไป
💻 ตัวอย่าง การใช้ตัวดำเนินการทางตรรกะ (Logical or Relational Operators)
ตัวดำเนินการสมาชิก (Membership Operators) คือตัวดำเนินการที่มีไว้ตรวจสอบสมาชิกในตัวแปร
💻 ตัวอย่าง การใช้ตัวดำเนินการสมาชิก (Membership Operators)