ศัลยกรรมตกแต่ง หรือศัลยศาสตร์ตกแต่งเป็นสาขาวิชาหนึ่งของศัลยศาสตร์คือวิชาที่เกี่ยวกับการ ผ่าตัด โดยเน้นเฉพาะการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับรูปร่างที่จะปรากฏให้เห็นภายนอกร่างกายให้ดูปกติ (FORM) และมีการทำงานที่ดี (Function) โดยจะสามารถแบ่งตามวัตถุประสงค์นี้ออกเป็น 2 ส่วนคือ

1.ศัลยศาสตร์เสริมสร้าง (Reconstructure Plastic Surgery) เป็นการผ่าตัดแก้ไขความผิดปกติ ของรูปร่างหรือความพิการที่มีมาแต่กำเนิด หรือเกิดขึ้นภายหลังจากอุบัติเหตุ

2.ศัลยศาสตร์ตกแต่งเสริมสวย (Cosmetic Plastic Surgery) คือการผ่าตัด เพื่อความสวยงามในคนที่ปกติให้ดูดีขึ้น 

ห้องผ่าตัดแผนกศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้างโรงพยาบาลสุรินทร์ ให้บริการ ศัลยกรรมตกแต่ง หรือ ศัลยกรรมพลาสติก โดยศัลยแพทย์ ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมตกแต่ง  ร่วมกับแพทย์ผู้เชียวชาญด้านศัลยกรรมช่องปากและใบหน้าขากรรไกร หรือ ศัลยกรรมช่องปากและแม็กซิลโลเฟเชียล เป็นศัลยศาสตร์ที่เกี่ยวกับการแก้ไขอาการ โรค การบาดเจ็บ หรือความผิดปกติที่เกี่ยวกับศีรษะ คอ ใบหน้า ขากรรไกร และเนื้อเยื่อบริเวณช่องปาก และบริเวณใบหน้าและขากรรไกร  ให้การดูแลรักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหา ต่างๆ เช่น ได้รับบาดเจ็บทางใบหน้า หรือ มีบาดแผลที่ต้องการผ่าตัดเสริมสร้างให้ใบหน้ากลับมาสวยงามดังเดิม และมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน ในการผ่าตัดดูแลรักษาผู้ป่วย รวมถึงการแก้ไขความพิการตั้งแต่กำเนิด เช่น ใบหน้าที่ผิดปกติ ผู้ป่วยที่ถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวก มีความผิดปกติที่ คอ ปาก ผิวหนัง ผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุ และ มีบาดแผลที่ใบหน้า เป็นต้น

แผนกศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้าง และศัลยกรรมช่องปากและใบหน้าขากรรไกร มีแพทย์ให้การผ่าตัดรักษา จำนวน 4 ท่าน

ผ่าตัดแก้ไขปัญหาหนังตาตก

การรักษาหนังตาตกด้วยการผ่าตัด ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 45 นาทีต่อหนึ่งข้าง โดยแพทย์จะทำการดึงกล้ามเนื้อส่วนเปลือกตาขึ้นมาไม่ให้บังลูกตา ทำให้ผู้ป่วยสามารถยกเปลือกตาได้ดีขึ้น สามารถมองเห็นได้มากขึ้นหรือกลับมาเป็นปกติ หลังผ่าตัดผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้เลยโดยไม่ต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล 

การผ่าตัดซ่อมแซมกระดุกขากรรไกรล่างด้วยกระดูกน่อง : Fibula Free Flap

เป็นการผ่าตัดที่มีความยุ่งยากซับซ้อนมาก มีการใช้เครื่องมือผ่าตัดพิเศษ รวมถึงต้องอาศัยทีมศัลยแพทย์และพยาบาลหลายแผนกในการผ่าตัด  ปัจจุบันโรงพยาบาลสุรินทร์สามารถผ่าตัดรักษาคนไข้ได้สำเร็จ ลดการส่งต่อผู้ป่วย และเพิ่มโอกาศทางการรักษาผู้ป่วยในจังหวัดสุรินทร์และจังหวัดใกล้เคียง

ปากแหว่งเพดานโหว่ (cleft lip and cleft palate) 

    เป็นความพิการของใบหน้าที่เกิดกับทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของมารดา ในประเทศไทยพบผู้ป่วยประมาณ 1-2 คนต่อทารกแรกเกิด 1,000 คน

สาเหตุของโรค

1. การถ่ายทอดทางพันธุกรรมหรือโครโมโซมที่ผิดปกติ

2. ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อสตรีที่ตั้งครรภ์ ในช่วง 3 เดือนแรก เช่น การขาดสารอาหาร ผลข้างเคียงของยา สารเคมีบางอย่าง หรือการติดเชื้อ

อาการของโรคปากแหว่ง

1. มีรอยแยกของริมฝีปากบน

2. อาจมีรอยแยกไปจนถึงเหงือกและเพดานปากส่วนหน้า

เพดานโหว่

1. รอยแยกที่เพดานอ่อนไปจนถึงเพดานแข็ง

2. อาจมีความผิดปกติของกล้ามเนื้อที่เปิด-ปิด ทางระบายหูชั้นกลางผิดปกติ

3. มีน้ำดั่งในหูชั้นกลางส่งผลต่อการได้ยินลดลง

4. มีโครงสร้งของกระดูกใบหน้าส่วนกลางผิดปกติ

5. มีการสบกันของฟันผิดปกติ

6. ทำให้มีปัญหาการพูด คือ พูดไม่ชัด เสียงขึ้นจมูก

วิธีการรักษา

1. ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ ควรได้รับการรักษาตั้งแต่แรกเริ่ม

2. ในแต่ละช่วงวัยจะมีการรักษาและแก้ไขอาการแตกต่างกันไป

3. ผู้ป่วยต้องได้รับการผ่าตัดตามวัย ซึ่งอาจมากกว่า 1 ครั้ง

4. ผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลและผ่าตัดอย่างถูกวิธีจะลดความพิการกลับมาอยู่ในภาวะปกติได้ 

ทีมพยาบาลเฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้าง