ตั้งแต่มนุษย์สมัยใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้น มนุษย์เหล่านั้นมีเพศสภาพหลัก (primary gender)
ได้แก่ เพศชาย เพศหญิง และมีเพศสภาพรอง (secondary gender) อีก 3 เพศ ได้แก่ อัลฟ่า เบต้า โอเมก้า
Alpha (α): สัดส่วนประชากรโดยประมาณ 20%
อัมฟ่าเป็นกลุ่มที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นกลุ่มที่มีสติปัญญาสูงที่สุด เนื่องจากมีสัดส่วนของนักวิทยาศาสตร์ นักเขียน นักดนตรี นักวิทยาศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์ รวมไปถึงอัจฉริยะในแต่ละสาขามากที่สุดเมื่อเทียบกับเพศสภาพรองทั้งหมด
ชาวคริสต์เชื่อว่าเป็นเพราะพระเจ้าทรงอุปถัมป์ค้ำชู เนื่องจากเป็นลูกหลานของพระองค์ ซึ่งพบได้ในพระคัมภีร์* จึงได้รับอภิสิทธิ์ในการเข้าถึงทรัพยากร สังคม สวัสดิการ ดำรงตำแหน่งชั้นสูง
ในขณะที่ทางวิทยาศาสตร์ให้เหตุผลว่าพันธุกรรมในโครโมโซมA ส่งผลให้สมองและร่างกายของกลุ่มอัลฟ่าแตกต่างไปจากกลุ่มอื่น
อัลฟ่าทั้งเพศชายและหญิงสามารถให้อสุจิ(sperm)ได้ อัลฟ่าหญิงมีองคชาติอยู่ภายในช่องท้อง เมื่อถูกกระตุ้นสามารถขยายเพื่อใช้งานได้เหมือนกับอัลฟ่าชาย และอัลฟ่าหญิงยังสามารถตั้งครรภ์ได้อีกด้วย แต่มีโอกาสในการแท้งจากสภาวะโครโซมAA และสภาวะร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวยสูงถึง 75% ดังนั้นแล้วการจับคู่ระหว่างอัลฟ่าชายกับอัลฟ่าหญิงจึงถูกหลีกเลี่ยงมาตั้งแต่อดีต รวมถึงความเชื่อฝังลึกว่าผิดต่อจารีต ฝืนประสงค์ของพระเจ้า
กลุ่มอัลฟ่ามีความเป็น Dominant แต่กำเนิด ลักษณะทั่วไปของอัลฟ่านั้นมีรูปร่างสูงใหญ่ ร่างกายแข็งแรง หวงคู่บอนด์และพื้นที่ส่วนตัว โคนขององคชาติมีเนื้อเยื่อที่มีลักษณะเป็นฟองน้ำ เมื่อเกิดการรัทจะสามารถกักเลือดเอาไว้จนเกิดการขยายตัวเรียกว่าน็อต(knot) ซึ่งจะต้องรอจนกระทั่งอัลฟ่าหลั่งน้ำอสุจิ(semen)เพื่อให้มีโอกาสปฏิสนธิสูงสุด เลือดจึงหายคั่งและถอนองคชาติออกจากช่องคลอดได้ โดยทั่วไปจะใช้เวลา 20 - 30 นาที อีกทั้งอสุจิของอัลฟ่าสามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้ดี ทนทานต่ออุณหูมิจากการฮีท ต่อมลูกหมากใหญ่กว่า สามารถหลั่งได้มากกว่า จึงเป็นกลุ่มที่สามารถทำให้โอเมก้าตั้งครรภ์ได้สูงกว่ากลุ่มอื่น
อัลฟ่าจะเกิดอาการรัทเมื่อได้กลิ่นฟีโรโมนโอเมก้าในช่วงฮีท ไม่สามารถควบคุมตัวเอง ขาดสติ ร่างกายขับเคลื่อนตามสัญชาตญาณที่ต้องการสืบพันธ์
Beta (β): สัดส่วนประชากรโดยประมาณ 70%
เบต้าเป็นกลุ่มที่พบมากที่สุด มีบทบาทกับทุกระดับชั้นของสังคม
ลักษณะภายนอกไม่ปรากฎความเป็นอัลฟ่าและโอเมก้า ไม่สามารถสร้างบอนด์กับอัลฟ่าและโอเมก้า เฉพาะเบต้าชายเท่านั้นที่ให้อสุจิ(sperm) และเฉพาะเบต้าหญิงเท่านั้นที่ตั้งครรภ์ได้
เบต้ายังสามารถแบ่งออกได้อีก 3 ลักษณะ ได้แก่
มีสัดส่วนประชากรคิดเป็น 20% ของเบต้าทั้งหมด เบต้ากลุ่มนี้เป็นพาหะของอัลฟ่า แต่ถูกโครโมโซมเบต้าข่มไว้ ลักษณะภายนอกจึงเหมือนเบต้าแท้ สามารถรับรู้ถึงกลิ่นฟีโรโมนที่เข้มข้นได้แต่ไม่ทำให้เกิดการรัท
มีสัดส่วนประชากรคิดเป็น 35% ของเบต้าทั้งหมด เป็นกลุ่มเบต้าแท้ ไม่มีการแสดงออกหรือพฤติกรรมที่เกิดจากโครโมโซมอัลฟ่าหรือเบต้า ไม่สามารถรับรู้ถึงกลิ่นฟีโรโมนได้
มีสัดส่วนประชากรคิดเป็น 45% ของเบต้าทั้งหมด กลุ่มนี้เป็นพาหะของโอเมก้า แต่ถูกโครโมโซมเบต้าข่มไว้ ลักษณะภายนอกจึงเหมือนเบต้าแท้ ไม่มีกลิ่นฟีโรโมน ไม่ฮีท
Omega (Ω): สัดส่วนประชากรโดยประมาณ 10%
โอเมก้าเป็นกลุ่มที่ถูกเหยียดจากสังคมมากที่สุด อดีตไม่มียาระงับการฮีท ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ทั้งเดือนอย่างเต็มที่จากการฮีท อีกทั้งยังเป็นสิ่งกระตุ้นมอมเมาเพศอื่น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจุบันโอเมก้าจะสามารถเข้าถึงยาระงับการฮีทแล้ว แต่ยังไม่สามารถครอบคลุมความเสี่ยงที่จะเกิดการฮีทจากการทานยาไม่ตรงเวลา หรือการฮีทที่คาดไม่ถึง องค์กรหรือบริษัทจึงมักจะรับโอเมก้าเป็นลำดับสุดท้าย และอาจจ่ายค่าตอบแทนและสวัสดิการในอัตราที่ต่ำกว่า
กลุ่มโอเมก้ามีความเป็น submissive แต่กำเนิด ลักษณะทั่วไปมีโครงสร้างเล็ก เป็นกลุ่มที่ทั้งเพศชายและหญิงสามารถตั้งครรภ์ได้ สามารถคลอดได้ด้วยวิธีธรรมชาติ โอเมก้าชายมีองคชาติเหมือนเพศชายทั่วไป หลั่งน้ำอสุจิ(semen)ปกติ แต่มีปริมาณอสุจิ (sperm) ต่ำกว่าอัลฟ่าและเบต้า สามารถทำให้เบต้าหญิงและโอเมก้าตั้งครรภ์ได้ แต่โอกาสที่จะทำให้ตั้งครรภ์ต่ำกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอกาสที่จำทำให้อัลฟ่าหญิงตั้งครรภ์แทบเป็นศูนย์ อย่างไรก็ตามโอเมก้าทั้งชายและหญิงไม่มีประจำเดือน มดลูกหนาตัวภายหลังเกิดการปฏิสนธิเท่านั้น
ความหายากของโอเมก้าทำให้เกิดธุรกิจผิดกฎหมายในเชิงค้ามนุษย์และประเวณีสูงกว่าเพศรองอื่น ๆ
ในโอเมก้าชาย ช่องทวารหนักจะเชื่อมต่อกับลำไส้ตรง(Rectum) และช่องคลอด(Vagina) ในสภาวะปกติผนัง Epivagina จะปิดช่องคลอดไว้ แต่เมื่อถูกกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ ผนังนี้จะเคลื่อนปิดลำไส้ตรงแทน
ก่อนถูกกระตุ้น
หลังถูกกระตุ้น
โอเมก้ามีรอบฮีทต่อเดือน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 2 - 7 วัน ในช่วงเวลานี้มีโอกาสตั้งครรภ์สูงที่สุด โอเมก้าจะหลั่งของเหลวใสคล้ายเหงื่อทางช่องคลอดจำนวนมากเรียกว่า สลิค(slick) ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของกลิ่นฟีโรโมนเข้มข้น
เมื่อโอเมก้าตั้งครรภ์ การเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายจะกระตุ้นให้นำวัสดุที่มีความนุ่มมากองสุมไว้บนที่นอนของตน เช่น ผืนผ้า ตุ๊กตา หมอน สิ่งของที่มีกลิ่นของอัลฟ่าช่วยให้จิตใจสงบ เรียกพฤติกรรมนี้ว่าการทำรัง (nesting) อีกทั้งยังต้องการความอบอุ่นมากกว่าปกติ ตอบสนองต่อกลิ่นต่างๆมากขึ้น อย่างไรก็ตามโอเมก้าชายมีปริมาณน้ำนมน้อย และมีเพียงแค่ 1 เดือน
Note