ยืดผมถาวร เป็นการเปลี่ยนผมที่หยิกหรือหยักศกให้ยืดตรงอยู่ได้นาน 3-12 เดือน ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ยืดผมถาวร ยืดผมวอลลุ่ม ยืดผมปรับโครงสร้าง ซึ่งมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม การยืดผมถาวรอาจทำให้เส้นผมอ่อนแอลง จึงควรหมั่นดูแลเส้นผมเพื่อป้องกันผมเสีย แห้งกรอบหรือหลุดร่วง
การยืดผมถาวร..ผมที่ผ่านการยืดไปแล้วจะอยู่ได้ถาวร ส่วนโคนผมขึ้นมาใหม่ระยะเวลาที่เริ่มฟูไม่สวยแล้วประมาณ 4-6 เดือนขึ้นไป ขึ้นอยู่กับรูปแบบการเจริญเติบโตของเส้นผมของแต่ละคน บางคนผมยาวเร็ว บางคนผมยาวช้า รวมถึงปัจจัยอื่นๆ
การยืดโคนผมจะช่วยถนอมเส้นผม หากเรายืดผมบ่อยๆปลายผมผมเราอาจจะช็อตแห้งเสียได้ฉะนั้นเหมาะกับคนที่ยืดผมบ่อยบ่อยแล้วปลายผมยังตรงอยู่สามารถยืดแค่โคนก็ได้
1. สาวๆที่อยู่ในวงการยืดผมเป็นประจำอยู่แล้ว ควรเลี่ยงการยืดผมตลอดเส้นซ้ำๆต่อเนื่อง อาจทำให้ปลายผมเสียได้ เพื่อรักษาสภาพผม MAYSA แนะนำยืดเฉพาะโคนนะคะ เพราะผมส่วนปลายที่ตรงอยู่แล้วจะได้ไม่โดนเคมีซ้ำ
2. เลือกใช้แชมพูที่ทำให้ผมเป็นกลาง และปรับสภาพเส้นผมเพื่อให้ผมนุ่มชุ่มชื้นและได้รับการบำรุงที่ดี
3. ใช้ทรีทเม้นท์หลังสระผมสม่ำเสมอเพื่อบำรุงให้เส้นผมแข็งแรง
4. ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมเคราติน เพราะเคราตินจะเข้าไปเคลือบเส้นผม มีผลกระทบการยืด/ดัดในครั้งถัดไป
การยืดผมวอลลุ่มนั้น คือการเพิ่มวอลลุ่มให้กับทรงผม โดยใช้เทคนิค "ยืดโคนดัดปลาย" ทำให้ทรงผมดูไม่ลีบแบน หรือตรงทื้อจนเกินไป และไม่หยิกหยอยเหมือนลอนดัด จะดูเหมือนการไดร์วอลลุ่ม หรือ ไดร์ม้วน ไดร์ฟาร่า ก็แล้วแต่สาวๆจะเรียกกัน ทรงผมจะพองๆ งุ้มๆ ถ้าเน้นลอนเยอะ ก็ซอยผมให้มีเลเยอร์หน่อยก็จะได้ทรงผมที่มีชั้น ดูหนาขึ้น พองขึ้น มองดูเป็นธรรมชาติ และลูกค้าสามารถกลับไปสระเซ็ทเองได้ที่บ้าน เพียงแค่เป่าตามวิธีที่ช่างสอนเท่านั้นก็จะได้ทรงเหมือนวันแรกที่ทำเลยค่ะ!!
ยืดผมวอลลุ่มคืออะไร
ยืดวอลลุ่มคือการพูดแบบภาพรวมของงานค่ะ ซึ่งจริงๆแล้วมันคือ การยืดโคนแล้วช่วงปลายจะทำการดัดดิจิตอลให้เกิดวอลลุ่ม ซึ่งจะได้วอลลุ่มจริงหรือไม่ก็อยู่ที่เทคนิคช่างอีกที บางท่านที่อาจเข้าใจผิดคิดว่ายืดอย่างเดียวคือ ปลายจะได้ความวอลลุ่มด้วยซึ่ง ที่จริงขั้นตอนค่อนข้างซับซ้อนมากกว่ายืดตรงปกติ
แล้วแต่เทคนิคช่างแต่ละท่าน ราคาจึงแยกกันชัดเจน ยืดดัดเท่านี้ ดัดอย่างเดียวเท่านี้ ส่วนผมตรงอยุ่แล้วก็สามารถที่จะแค่ดัดปลายทำวอลลุ่มได้เลย การยืดโคนคือควรยืดสำหรับท่านที่อยากให้เส้นผมเรียงตัวสวย เช่นผมหยักโศก ผมฟูเป็นต้นเวลาที่ใช้ในการทำนั้นก็จะอยู่ที่ 3-5 ชม ถ้ายืดดัดจะค้อนข้างนานกว่าดัดอย่างเดียว แต่ก็แล้วแต่ความยากง่ายของงาน บางเคสผมมีปัญหาหรือผมค่อนข้างเสียก็จะใช้เวลานานกว่าเพราะต้องบำรุงด้วย เพื่อปกป้องเส้นผมไม่ให้แห้งเสียไปมากกว่าเดิม ทั้งนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไปก็มีเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามา เช่น การยืดยกโคนผมไม่ให้โคนผมล้มหรือลีบแบน และการยืดปรับโครงสร้างได้ฟิลผมตรงธรรมชาติที่มีเฉพาะร้านMAYSA
1.งดมัดผมแน่นๆ เป็นเวลานาน เพื่อป้องกันรอยหักของเส้นผม
หลังจากยืดผมเสร็จแล้ว ควรปล่อยผมให้ทิ้งตัวลงอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ควรมัดผมแน่นเป็นเวลานาน เพราะอาจจะทำให้ผมเป็นรอยหักได้หากมัดผมเเน่นจนเกินไป แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ควรใช้ที่รัดผมแบบหลวมๆแทนจะดีกว่านะคะ 2วันก็เพียงพอแล้วค่าาา
2.ใช้ทรีทเม้นท์หลังสระผมทุกครั้ง
หลังจากการยืด/ดัดผมแล้ว สาวๆอย่าละเลยเส้นผมนะค่ะ เพราะเส้นผมของเรานั้นทั้งโดนน้ำยาเคมีที่รุนแรงและความร้อนในการหนีบผมเพื่อเปลี่ยนโครงสร้างผมให้เรียบตรง ถ้าปล่อยผมให้แห้งเสียไม่บำรุงเลย เส้นผมอาจจะแห้งไม่มีน้ำหนัก เป็นสาเหตุให้เส้นผมฟูก่อนเวลาอันควร ดังนั้นอย่าลืมใช้ทรีทเม้นท์บำรุงผมกันด้วยนะคะ
3.หลีกเลี้ยงการใช้ความร้อนกับเส้นผมโดยตรง
เมื่อสาวๆสระผมเสร็จแล้วเป็นไปได้ ถ้าไม่ได้ไปไหนก็ควรใช้ไดร์เป่าผมใช้ลมอุ่นเป่าให้เส้นผมแห้งสนิท เพื่อหลีกเลี้ยงความร้อน ถ้าจะม้วนผมหรือหนีบผมให้เป็นทรงมากยิ่งขึ้น ควรใส่อาหารผมหรือตัวบำรุงกันความร้อนเพื่อรองพื้นไปก่อนหนีบม้วนผมด้วยนะค่ะ ใส่ขณะผมเปียกแล้วเป่าแห้งค่อยจัดแต่งทรงผม แล้วจบท้ายด้วยเซรั่มหรือน้ำมันใส่ผมลูบบางๆอีกทีค่ะ
4.เล็มผมแตกปลายอยู่เรื่อยๆ
หลังจากการยืดผมแน่นอนปลายผมของสาวๆที่อ่อนแอสุดๆ อาจจะมีแห้งลงไปบ้าง ดังนั้นอย่าปล่อยผมให้แตกปลายอยู่อย่างนั้นเพราะจะยิ่งทำให้เส้นผมของเรานั้น แตกขาดเยอะเพิ่มมากขึ้น ควรเล็มผมอย่างน้อย 1-2 เดือนครั้งก็ดี ผมส่วนไหนที่เสียอย่าไปเสียดาย ตัดทิ้งแล้วรอข้างบนยาวลงมาใหม่จะดีกว่าค่ะ
5.มาบำรุงผมที่ ซาลอนอย่างน้อย เดือนละ 1 ครั้ง
เพื่อเป็นการผลักวิตามิน หรือ อาหารผมที่เส้นผมต้องการให้เข้าไปอย่างล้ำลึก เพราะที่ร้านทำผมจะมีผลิตภัณฑ์ที่ดี และเข้มข้นมากกว่าท้องตลาดทั่วไป จะช่วยฟื้นฟูผมให้กลับมาแข็งแรงได้ไวกว่าการหมักผมเองที่บ้าน