ชื่อ-สกุล นางมะลิวัลย์ นฤวรนนท์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียน บ้านก้างปลา อำเภอเมืองเลย จังหวัด เลย
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1
สอนรายวิชา สังคมศึกษา ประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง
ครูที่ปรึกษานักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ส่วนที่ 1 ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่ง
1. ภาระงาน จะมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 18 ชั่วโมง/สัปดาห์ ดังนี้
- กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม/วิชาสังคมศึกษา ชั้น ม.1-ม.3
จำนวน 9 ชั่วโมง /สัปดาห์
- กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม/วิชาประวัติศาสตร์ ชั้น ม.1-ม.3
จำนวน 3 ชั่วโมง /สัปดาห์
- กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม/วิชาหน้าที่พลเมือง ชั้น ม.1-ม.3
จำนวน 3 ชั่วโมง /สัปดาห์
- กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา/วิชาสุขศึกษา ชั้น ม.1
จำนวน 1 ชั่วโมง /สัปดาห์
- กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน/กิจกรรมชุมนุม จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน/กิจกรรมลูกเสือ ชั้น ม.1-ม.3 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์
- จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้/จัดทำสื่อประกอบการจัดการเรียนรู้ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- จัดทำข้อมูลระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานครูที่ปรึกษา งานดูแลนักเรียน งานโฮมรูม จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- การมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
- หัวหน้างานบริหารงานบุคคล จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- ปฏิบัติงานหัวหน้าโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานโครงการโรงเรียนวิถีพุทธ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
โครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
จัดการเรียนรู้เน้นการปฏิบัติจริง Active Learning จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
การสอนประวัติศาสตร์ (แหล่งเรียนรู้ท้องถิ่น) จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Based Learning) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง (สมุนไพรพื้นบ้าน) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
ภายหลังจากที่ได้มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเบื้องต้นพบว่านักเรียนมีปัญหาเรื่องทักษะการทำงานที่สอดคล้องกับการดำเนินชีวิต (RealWorld)ตั้งแต่การวางแผน การควบคุมการปฏิบัติให้เป็นไปตามแผน การแก้ปัญหา การประเมินการปฏิบัติ การสื่อสารและการนำเสนอ และความ รับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ของตนเองในการทำงาน ครูจึงได้พัฒนา คิดค้น และปรับเปลี่ยนรูปแบบการการสอนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Based Learning) ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จัดประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน
ให้แก่ผู้เรียนเหมือนกับการทำงานในชีวิตจริงอย่างมีระบบ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีประสบการณ์ตรง ได้เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหา วิธีการหาความรู้ความจริงอย่างมีเหตุผล ได้ทำการทดลอง ได้พิสูจน์สิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง รู้จักการวางแผน
การทำงาน ฝึกการเป็นผู้นำ ผู้ตาม ตลอดจนได้พัฒนากระบวนการคิดโดยเฉพาะการคิดขั้นสูง และการประเมินตนเอง โดยมีครูเป็นผู้กระตุ้นเพื่อนำความสนใจที่เกิดจากตัวผู้เรียนมาใช้ในการทำกิจกรรมค้นคว้าหาความรู้ ด้วยตัวเอง นำไปสู่การเพิ่มความรู้ที่ได้จากการลงมือปฏิบัติ การฟัง และการสังเกตจากผู้รู้ โดยผู้เรียนมีการเรียนรู้ผ่านกระบวนการทำงานเป็นกลุ่ม ที่จะนำมาสู่การสรุปความรู้ใหม่ มีการเขียนกระบวนการจัดทำโครงงานและได้ผลการจัดกิจกรรมเป็นผลงาน แบบรูปธรรม
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 ศึกษา วิเคราะห์หลักสูตรของโรงเรียนในรายวิชาสังคมศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
2.2 ศึกษารูปแบบการสอนแบบโครงงาน (Project Based Learning) ซึ่งมีขั้นตอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ดังนี้
1. ขั้นกำหนดปัญหา หรือสำรวจความสนใจ ผู้สอนเสนอสถานการณ์หรือตัวอย่างที่เป็นปัญหาและกระตุ้น ให้ผู้เรียนหาวิธีการแก้ปัญหาหรือยั่วยุให้ผู้เรียนมี ความต้องการใคร่เรียนใคร่รู้ ในเรื่องใด เรื่องหนึ่ง
2. ขั้นกำหนดจุดมุ่งหมายในการเรียน ผู้สอนแนะนำให้ผู้เรียนกำหนดจุดมุ่งหมายให้ชัดเจนว่าเรียนเพื่ออะไร จะทำโครงงานนั้นเพื่อแก้ปัญหาอะไร ซึ่งทำให้ผู้ เรียนกำหนดโครงงานแนวทางในการดำเนินงานได้ตรงตามจุดมุ่งหมาย
3. ขั้นวางแผนและวิเคราะห์โครงงาน ให้ผู้เรียนวางแผนแก้ปัญหา ซึ่งเป็นโครงงานเดี่ยวหรือกลุ่มก็ได้แล้วเสนอแผนการดำเนินงานให้ผู้สอนพิจารณาให้คำแนะนำช่วยเหลือและข้อเสนอแนะการวางแผนโครงงานของผู้เรียน ผู้เรียนเขียนโครงงานตามหัวข้อซึ่งมีหัวข้อสำคัญ (ชื่อโครงงาน หลักการและเหตุผลวัตถุประสงค์หรือจุดมุ่งหมาย เจ้าของโครงการ ที่ปรึกษาโครงการ แหล่งความรู้ สถานที่ดำเนินการ ระยะเวลาดำเนินการ งบประมาณวิธีดำเนินการ เครื่องมือที่ใช้ ผลที่คาดว่าจะได้รับ
4. ขั้นลงมือปฏิบัติหรือแก้ปัญหา ให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติหรือแก้ปัญหาตามแผนการที่กำหนดไว้ โดยมีผู้สอน เป็นที่ปรึกษา คอยสังเกต ติดตาม แนะนำให้ผู้เรียนรู้จักสังเกต เก็บรวบรวมข้อมูล บันทึกผล ดำเนินการด้วยความมานะอดทน มีการประชุมอภิปราย ปรึกษาหารือกันเป็นระยะ ๆ ผู้สอนจะเข้าไปเกี่ยวข้องเท่าที่จำเป็น ผู้เรียนเป็นผู้ใช้ความคิด ความรู้ ในการวางแผนและตัดสินใจทำด้วยตนเอง
5. ขั้นประเมินผลระหว่างปฏิบัติงาน ผู้สอนแนะนำให้ผู้เรียนรู้จักประเมินผลก่อนดำเนินการ ระหว่างดำเนินการและหลังดำเนินการ คือรู้จักพิจารณาว่าก่อนที่จะดำเนินการมีสภาพเป็นอย่างไร มีปัญหาอย่างไร ระหว่างที่ดำเนินงานตามโครงงานนั้น ยังมีสิ่งใดที่ผิดพลาดหรือเป็นข้อบกพร่องอยู่ ต้องแก้ไขอะไรอีกบ้าง มีวิธีแก้ไขอย่างไร เมื่อดำเนินการไปแล้ว ผู้เรียนมีแนวคิดอย่างไร มีความพึง พอใจหรือไม่ ผลของการดำเนินการตามโครงงาน ผู้เรียนได้ความรู้อะไร ได้ประโยชน์อย่างไร และสามารถนำความรู้นั้นไปพัฒนาปรับปรุงงานได้อย่างดียิ่งขึ้น หรือเอาความรู้นั้นไปใช้ในชีวิตได้อย่างไร โดยผู้เรียนประเมินโครงงานของตนเองหรือเพื่อนร่วมประเมิน จากนั้นผู้สอนจึงประเมินผลโครงงานตามแบบประเมิน ซึ่งผู้ปกครองอาจจะมีส่วนร่วมในการประเมินด้วยก็ได้
6. ขั้นสรุป รายงานผล และเสนอผลงาน เมื่อผู้เรียนทำงานตามแผนและเก็บข้อมูลแล้ว ต้องทำการวิเคราะห์ข้อมูล สรุปและเขียนรายงานเพื่อนำเสนอผลงาน ซึ่งนอกเหนือจากรายงานเอกสารแล้ว อาจมีแผนภูมิ แผนภาพ กราฟ แบบจำลอง หรือของจริงประกอบการนำเสนอ อาจจัดได้หลายรูปแบบ เช่น จัดนิทรรศการ การแสดงละคร ฯลฯ
2.3 ศึกษาหาความรู้เรื่องสมุนไพรพื้นบ้านโดยนำนักเรียนเรียนรู้จากภูมิปัญญาชาวบ้านในชุมชน
2.4 ผู้สอนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยมีขั้นตอนดังนี้
(1) ขั้นให้ความรู้พื้นฐาน
(2) ขั้นกระตุ้นความสนใจ
(3) ขั้นจัดกลุ่มร่วมมือ
(4) ขั้นแสวงหาความรู้
(5) ขั้นสรุปสิ่งที่เรียนรู้
(6) ขั้นนำเสนอผลงาน
2.5 ผู้เรียนประเมินรูปแบบการสอนโดย
ประเมินตามสภาพจริง โดยผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันประเมินผลว่ากิจกรรมที่ทำไปนั้นบรรลุตามจุดประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่ อย่างไร ปัญหาและอุปสรรคที่พบคืออะไรบ้าง ได้ใช้วิธีการแก้ไขอย่างไร ผู้เรียนได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการทำโครงงานนั้นๆ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบโครงงาน (Project Based Learning) นี้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่ อย่างไร จากนั้นผู้สอนนำผลการประเมินมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
3.ผลลัพธ์การพัฒนาที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
1. เชิงปริมาณ
(1) ผู้เรียนร้อยละ 80 มีทักษะกระบวนการทำงานภายหลังการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบโครงงาน (Project Based Learning) ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
(2) ผู้เรียนร้อยละ 100 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบโครงงาน (Project Based Learning) อยู่ในระดับมาก
(3) ผู้เรียนร้อยละ 100 ได้รับการพัฒนากระบวนการทำงานอย่างเป็นระบบ
2. เชิงคุณภาพ
(1) ผู้เรียนผ่านเกณฑ์การคิดวิเคราะห์
(2) ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอน โดยใช้รูปแบบการสอนแบบโครงงาน (Project Based Learning)
(3) ผู้เรียนได้รับการพัฒนาทักษะกระบวนการทำงาน นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
<<คลิกได้เลยค่ะ>>
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์E-book
<<คลิกได้เลยค่ะ>>
VDO ผลงานนักเรียน