ปัจจุบันการใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเชื้อเพลิงหลักที่นำมาใช้ในการผลิตไฟฟ้า คือ เชื้อเพลิงฟอสซิล เริ่มลดลงเรื่อย ๆดังนั้นหากผู้ใช้พลังงานไฟฟ้ายังไม่ตระหนักถึงสาเหตุดังกล่าว จนอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้ จึงจำเป็นต้องเข้าใจถึงสถานการณ์พลังงานไฟฟ้า และแนวโน้มการใช้ไฟฟ้าในอนาคต ในเรื่องที่ 2 ประกอบด้วย 3 ตอน คือ
ตอนที่ 1 สถานการณ์พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทย
ตอนที่ 2 สถานการณ์พลังงานไฟฟ้าของประเทศในกลุ่มอาเซียน
ตอนที่ 3 สถานการณ์พลังงานไฟฟ้าของโลก
ตอนที่1 สถานการณ์พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทย
พลังงานไฟฟ้าเป็นปัจจัยที่สำคัญในการดำเนินชีวิตและการพัฒนาประเทศ ที่ผ่านมาความ ต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องประมาณร้อยละ 4 - 5 ต่อปีซึ่งสอดคล้อง กับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ปัจจุบันพลังงานไฟฟ้าได้เข้ามามี บทบาทต่อการดำรงชีวิตประจ าวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมทั้งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจของประเทศมากขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2557 ประเทศไทยมีการใช้ไฟฟ้าเป็นอันดับที่ 24 ของโลก ซึ่งเป็นที่น่ากังวลว่าพลังงานไฟฟ้าจะเพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าในอนาคตหรือไม่ ดังนั้นความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้าจึงมีประเด็นสำคัญที่ประชาชนทุกคนควรรู้ ดังนี้
1. สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงประเภทต่าง ๆ ของประเทศไทย
การผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยมีการใช้เชื้อเพลิงที่หลากหลาย ซึ่งได้มาจากแหล่ง เชื้อเพลิงทั้งภายในและภายนอกประเทศ จากข้อมูลปี พ.ศ. 2558 พบว่า ประเทศไทยมีการผลิต ไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 69.19 ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด รองลงมา คือ ถ่านหินนำเข้าและถ่านหินในประเทศ (ลิกไนต์) ร้อยละ 18.96 พลังงานหมุนเวียน ร้อยละ 11.02 น้ำมันเตาและน้ำมันดีเซล ร้อยละ 0.75 และมีการนำเข้าไฟฟ้าจากมาเลเซีย ร้อยละ 0.07
2. การใช้ไฟฟ้าในแต่ละช่วงเวลาในหนึ่งวันของประเทศไทย
การเลือกใช้เชื้อเพลิงมาผลิตไฟฟ้า นอกจากการพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่ได้กล่าว มาแล้วนั้น อีกปัจจัยสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณาด้วย คือ ประเภทของโรงไฟฟ้าที่ต้องการในระบบ ให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ไฟฟ้าในแต่ละช่วงเวลา เพื่อความมีประสิทธิภาพของระบบและ ต้นทุนค่าไฟฟ้าที่เหมาะสม เพราะโรงไฟฟ้าแต่ละประเภทมีความเหมาะสมในการผลิตไฟฟ้าใน แต่ละช่วงเวลาที่ต่างกัน และโรงไฟฟ้าแต่ละประเภทก็มีการใช้เชื้อเพลิงที่แตกต่างกันด้วย ดังภาพ
3. สภาพปัจจุบันและแนวโน้มการใช้พลังงานไฟฟ้า
กำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2558 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 38,774เมกะวัตต์ แบ่งเป็นกำลังการผลิตภายในประเทศ 35,387 เมกะวัตต์ คิดเป็นร้อยละ 91.26 และกำลังผลิตที่มี สัญญาซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศอีก 3,387 เมกะวัตต์ คิดเป็นร้อยละ 8.74 โดยมีความต้องการ ไฟฟ้าสูงสุดที่ 27,346 เมกะวัตต์ ซึ่งความต้องการไฟฟ้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปีตามสภาพภูมิอากาศ จำนวนประชากรที่เพิ่มสูงขึ้น และการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม
4. แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (Power Development Plan : PDP)
แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า คือ แผนแม่บทในการผลิตไฟฟ้าของประเทศ ว่าด้วย การจัดหาพลังงานไฟฟ้า ในระยะยาว 15 – 20 ปี เพื่อสร้างความมั่นคงและความเพียงพอต่อความ ต้องการใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของ ประเทศ ปัจจุบันใช้แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยปี 2558 - 2579 (PDP 2015) ซึ่งเป็นแผนฉบับล่าสุด และเป็นแผนที่สอดคล้องกับแผนอนุรักษ์พลังงาน ที่มีเป้าหมายเพื่อประหยัด และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ซึ่ง การจัดทำแผน PDP ต้องจัดทำค่าพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้าของประเทศ เพื่อนำค่าพยากรณ์ ความต้องการไฟฟ้าจัดทำแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าให้เพียงพอในอนาคตต่อไป การจัดทำค่าพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้าของประเทศนั้น ใช้ค่าประมาณการแนวโน้ม การขยายตัวทางเศรษฐกิจระยะยาว อัตราการเพิ่มของประชากร และมีการประยุกต์ใช้แผนการ อนุรักษ์พลังงาน รวมทั้งพิจารณากรอบของแผนพัฒนาและพลังงานทางเลือกด้วย สำหรับกรอบใน การจัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าประเทศไทย มีดังนี้
1)ด้านความมั่นคงทางพลังงาน (Security) ต้องจัดหาไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความ ต้องการใช้ไฟฟ้าและใช้เชื้อเพลิงหลากหลาย รวมทั้งมีความเหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงจากการ พึ่งพาเชื้อเพลิงชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไป
2)ด้านเศรษฐกิจ (Economy) ต้องคำนึงถึงต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่เหมาะสมและ คำนึงถึงการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพในภาคเศรษฐกิจต่าง ๆ 3)ด้านสิ่งแวดล้อม (Ecology) ต้องลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมและชุมชน โดยเฉพาะเป้าหมายในการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วยการผลิตไฟฟ้า