อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ
คือ การใช้สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติอย่างชาญ
ฉลาดและใช้ให้เกิดประโยชน์ หลักการและวิธีการอนุรักษ์
สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ มีดังนี้
1. การถนอมรักษา คือ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
และทรัพยากรธรรมชาติให้คงสภาพทั้งปริมาณและ
คุณภาพเอาไว้ โดยใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีอยู่ให้เกิด
ประโยชน์สูงสุด เช่น กรณีแร่เหล็กแทนที่จะนามาใช้
โดยตรงก็นาไปผสมกับแร่ธาตุอื่น ๆ เพื่อใช้เป็นเหล็กกล้า
ซึ่งนอกจากจะลด ปริมาณการใช้เนื้อเหล็กให้น้อยลงแล้วยัง
ช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานออกไปอีกด้วย เป็นต้น
2. การบูรณะฟื้นฟู คือ การทาให้
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกลับคืนมาใช้ประโยชน์
ได้เหมือนเดิม เช่น ดินที่นามาใช้เพื่อการเพราะปลูกพืช
ชนิดเดียวกันติดต่อกันเป็นเวลานานจะทาให้คุณภาพของ
ดินเสื่อมลง การบูรณะฟื้นฟูจะทาได้โดยการใส่ปุ๋ยปลูกพืช
คลุมดิน หรือพักหน้าดินไว้สักช่วงระยะหนึ่ง เป็นต้น
3. การนำกลับมาใช้ใหม่ หรือที่เรียกว่า รีไซเคิล
นอกจากการถนอมรักษาและการบูรณะฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม
และทรัพยากรธรรมชาติแล้ว การนาทรัพยากรธรรมชาติ
และสิ่งแวดล้อมที่ใช้ไปแล้วกลับมาใช้ใหม่ถือเป็นการ
อนุรักษ์อีกวิธีหนึ่ง ซึ่งการอนุรักษ์ชนิดนี้จะทาได้ดีกับ
ทรัพยากรน้าและแร่ธาตุบางชนิด เช่น การนาเศษกระดาษ
พลาสติก อลูมิเนียม สังกะสี ตะกั่ว ทองแดง และเหล็กที่ทิ้ง
แล้วกลับมาหลอมหรือเปลี่ยนสภาพ ให้นากลับมาใช้ได้อีก
เป็นต้น
4. การเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานสิ่งแวดล้อม
และทรัพยากรธรรมชาติบางชนิดจะไม่สามารถนามาใช้
ประโยชน์ได้มาก เช่น น้าที่ไหลลงมาตามลาน้า ถ้าหาก
สร้างเขื่อนขวางกั้นลาน้าเพื่อยกระดับของน้าให้เขื่อนสูงขึ้น
แล้วนาพลังงานน้านั้นมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งเป็นการ
เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานอีกวิธีหนึ่ง
1. ใช้ผ้าแทนกระดาษทิชชู
เพื่อเป็นการลดจำนวนขยะที่เพิ่มขึ้นจากทรัพยากรสิ้นเปลือง
2. ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก
ช่วยทั้งด้านการลดขยะและลดโลกร้อน เพราะถุงผ้าเป็นทรัพยากรที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้หลายครั้ง
3. แยกขยะให้ถูกประเภทก่อนทิ้ง และทิ้งให้ลงถังเสมอ
ข้อดีคือ ช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปกำจัดน้อยลง และสามารถนำขยะสดจำพวกเปลือกผลไม้มาแปรรูปเป็นปุ๋ยให้แก่ต้นไม้ได้อีกด้วย
4. ช่วยกันปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว
ปัจจุบันนี้ต้นไม้ถูกตัดถอนไปจำนวนมาก ทำให้ปริมาณพื้นที่สีเขียวบนโลกลดน้อยลง การปลูกต้นไม้จึงช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวและเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้มีใช้กันอย่างเพียงพอกับทุกชีวิต
5. ทานอาหารให้หมดจาน
ขยะจากอาหารถูกทิ้งให้เป็นขยะรอวันเน่าเสีย กลายเป็นก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศถึง 8% ในประเทศไทยมีขยะอาหารคิดเป็น 64% ของขยะทั้งหมด ยิ่งเรากินอาหารเหลือเยอะ การสร้างก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศจะมากขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัว การปรับพฤติกรรมเล็กๆ ที่สร้างได้ด้วยตัวเองที่บ้านก็มีส่วนช่วยลดโลกร้อนได้แล้ว
6. ไม่เปิดน้ำและไฟทิ้งไว้
เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับทุกคนทั้งในครัวเรือน หรือในระดับองค์กร ช่วยประหยัดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติโดยการใช้เท่าที่จำเป็น ใช้อย่างคุ้มค่า และกำจัดการใช้ที่ไม่จำเป็นหรือมีแนวโน้มที่จะสูญเปล่า
7. ไม่เผาขยะและเศษไม้เศษหญ้า
เพื่อป้องกันฝุ่นละออง และการเกิดสารพิษที่เรียกว่าไดออกซินในปริมาณที่เป็นอันตราย สารไดออกซินเป็นสารเคมีที่มีพิษสูง เมื่อหลุดสู่บรรยากาศจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งเพราะจะปล่อยสารไดออกซิน และมลพิษต่าง ๆ ในระดับที่ไม่สูงจากพื้นดิน ทำให้ผู้คนสูดดมเข้าสู่ร่างกายและตกค้างอยู่บนพืชผลเกษตรกร หรือในแหล่งน้ำได้
8. ไม่บุกรุกพื้นที่ป่า
เนื่องจากป่าไม้เป็นแหล่งการหมุนเวียนของสารระหว่างออกซิเจน, คาร์บอนไดออกไซด์, น้ำและสารอื่นๆในระบบนิเวศที่สำคัญ การทำลายป่าจึงมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศเพิ่มมากขึ้น จนเกิดภาวะเรือนกระจกซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น
9. รักษารถยนต์ด้วยการเปลี่ยนไส้กรอง
เพื่อช่วยลดปัญหาการเกิดควันดำเนื่องจากไส้กรองอากาศที่สกปรกจะทำให้การไหลของอากาศที่สะอาดทำได้น้อยลง มีผลต่อการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ด้วย
10. ไม่ทิ้งของเสียลงแม่น้ำ
เป็นการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไม่ให้ถูกทำลายจากความมักง่ายของผู้คน รวมไปถึงการช่วยควบคุมและป้องกันของเสียให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด