หากพูดถึงพืชเศรษฐกิจสำคัญของเกษตรกรในจังหวัดกระบี่ คงจะหนีไม่พ้นการทำสวน “ปาล์มน้ำมัน” และการทำ “สวนยางพารา” ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความคุ้นชินเนื่องจากเกษตรกรในพื้นที่ยึดการทำสวนปาล์มน้ำมัน และสวนยางพาราเป็นอาชีพหลักมาเป็นเวลานาน นอกจากนี้ การขายปาล์มน้ำมันและยางพารายังสามารถสร้างรายได้จำนวนมากให้แก่เกษตรกรอีกด้วย
แต่เนื่องจากปัญหาเรื่องของราคาปาล์มน้ำมันและยางพาราที่ตกต่ำลง ทำให้เกษตรกรหลายรายเริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำเกษตรแบบเชิงเดี่ยว มาสู่การทำเกษตรแบบผสมผสาน เพื่อเป็นการสร้างรายได้เสริมให้แก่ตนเองและครอบครัว ทำให้นอกจากปาล์มน้ำมันและยางพาราที่เป็นจุดเด่นของจังหวัดกระบี่แล้ว “การทำเกษตรแบบผสมผสาน” ก็ถือเป็นการเกษตรอีกรูปแบบหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน
ชาวบ้านอำเภอคลองท่อมให้ความสำคัญกับการทำเกษตรแบบผสมผสาน และการทำเกษตรอินทรีย์ เพื่อสร้างรายได้และอาชีพเสริมให้ตนเองและครอบครัว การทำเกษตรของชาวบ้านในอำเภอคลองท่อม ในอดีตชาวบ้านจะเน้นการทำเกษตรแบบเชิงเดี่ยวหรือการทำเกษตรโดยเน้นการปลูกพืชเพียงอย่างเดียว และอย่างที่ทราบดีว่าปลามน้ำมันและยางพารานั้นถือเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดกระบี่ จึงทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่เน้นการปลูกปาล์มน้ำมันและยางพาราไปโดยปริยาย อีกทั้งปาล์มน้ำมันยังเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของการทำเกษตรในจังหวัดกระบี่อีกด้วย
การปลูกผักกางมุ้งอินทรีย์ อีกหนึ่งรายได้เสริมของเกษตรกร การปลูกผักกางมุ้งนั้นคือ การปลูกผักโดยใช้วิธีการทางธรรมชาติร่วมกับวิธีการอื่นๆ ที่ปลอดภัย โดยหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีและยาปราบศัตรูพืช ทั้งยังสามารถป้องกันในเรื่องของแมลงได้เป็นอย่างดี ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่ที่ปลูกหลายรุ่นหรือพื้นที่ที่มีการปลูกอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีอีกด้วย
สำหรับการปลูกผักกางมุ้งอินทรีย์นั้น การเตรียมดินก็ถือเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญมากขั้นตอนหนึ่ง ดังนั้น จึงต้องมีการปรุงด้วยปุ๋ยคอกก่อน แล้วจึงนำดินไปตากให้แห้งเพื่อรอนำต้นกล้าที่เพาะมาลงต่อไป นอกจากดินแล้วเรื่องปุ๋ยก็เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง โดยปุ๋ยที่ใช้นั้นจะเป็นปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพที่คุณคณิตเป็นผู้ผลิตเอง ซึ่งการเลือกใช้ปุ๋ยที่ผลิตเองนอกจากจะเป็นการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีแล้ว ยังถือเป็นการลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรอีกด้วย
นอกจากการเตรียมดินและการให้ปุ๋ยแล้ว การให้น้ำก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน โดยจะให้น้ำด้วยระบบสปริงเกลอร์ทั้งตอนเช้าและตอนเย็น ซึ่งที่เลือกใช้ระบบสปริงเกลอร์เพราะสะดวก ทั้งยังสามารถช่วยให้เกษตรกรประหยัดเวลาอีกด้วย และเนื่องจากเป็นผักกางมุ้ง ซึ่งมุ้งที่ใช้นั้นเป็นผ้าที่มีความหนาเป็นพิเศษจึงสามารถป้องกันปัญหาเรื่องศัตรูพืชและแมลงได้เป็นอย่างดี
สำหรับการปลูกผักกางมุ้งอินทรีย์นั้น ผลตอบแทนที่มากกว่าคำว่า “รายได้” นอกจากจะเป็นการสนับสนุนให้เกษตรกรหันมาทำเกษตรแบบผสมผสานและเกษตรอินทรีย์เพื่อสร้างรายได้เสริมจากการขายปาล์มน้ำมันและยางพาราแล้ว ยังถือเป็นแหล่งเรียนรู้และแปลงทดลองทำเกษตรสำหรับชาวบ้านที่สนใจและต้องการเริ่มต้นทำการเกษตรด้วย
หากท่านใดสนใจที่จะเรียนรู้วิธีการทำเกษตรแบบผสมผสานและเกษตรอินทรีย์ ก็สามารถมาเรียนรู้ได้ที่ บ้านเลขที่ ๔/๓ หมู่ที่ ๕ ตำบลพรุดินนา อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๐-๗๐๘-๓๖๔๓ ไม่เพียงแค่ให้องค์ความรู้ในเรื่องการปลูกผักเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการทำปุ๋ยหมักชีวภาพและการเตรียมดินก่อนนำต้นกล้าลงปลูก การทำน้ำหมักชีวภาพ การทำน้ำหมักป้องกันแมลง และการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอีกด้วย เพื่อให้เกษตรกรหรือผู้ที่สนใจสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้กับสวนของตนเองได้อีกด้วย