เมื่อย่างเข้าหน้าร้อนของทุกปี จะเป็นช่วงเวลาที่ต้นยางพาราผลัดใบและทิ้งใบ เป็นสัญญาณเตือนให้เกษตรกรชาวสวนยางพาราต้องหยุดกรีดยาง เพื่อเป็นการพักต้นยาง ทำให้ชาวสวนยางต้องหาอาชีพเสริม เพื่อสร้างรายได้ให้ครอบครัวแบบไม่ขาดตอน ซึ่งนางเพียร ชนะกุลและชาวบ้านที่บ้านช่องเสียด หมู่ที่ ๑๑ ตำบลพรุดินนา อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ก็มีวิถีชีวิตเหมือนกับคนใต้ทั่วไปอาชีพหลักคือทำสวนยางพารา เวลาว่างก็ทำน้ำอ้อยขาย และทำไม้กวาดดอกอ้อขาย
แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมาเกิดวิกฤตราคายางพาราตกต่ำ ชาวอำเภอคลองท่อม มองว่าหากหวังจะพึ่งจากการกรีดยางอย่างเดียวนั้น ตนเอง ครอบครัวและญาติพี่น้องต้องประสบกับความอดอยากอย่างแน่นอน ในที่สุดเธอตัดสินใจรวบรวมกลุ่มญาติพี่น้องในหมู่บ้านเดียวกัน ที่มีแววใจรักและมีฝีมือในการทำไม้กวาด มาร่วมตัวทำไม้กวาดดอกอ้อ ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ จากนั้นพากันช่วยกันเก็บดอกอ้อ นำมาตากทำไม้กวาดขายให้กับเพื่อนบ้านในหมู่บ้าน ปรากฏว่า สร้างรายได้เสริมจากอาชีพหลักที่ทำสวนยางพารา ได้เป็นกอบเป็นกำ สามารถจุนเจือรายจ่ายในครอบครัวได้เป็นอย่างดี
ว่า "การทำไม้กวาดดอกหญ้าของชาวบ้านตำบลพรุดินนา มักจะเริ่มทำในช่วงหน้าร้อน เป็นช่วงที่ชาวบ้านหยุดกรีดยาง และจะมีดอกหญ้าซึ่งเป็นพืชที่ขึ้นตามป่าและริมถนนตามธรรมชาติเป็นจำนวนมาก" และว่า ขั้นตอนการทำไม้กวาดดอกหญ้า เริ่มจากการไปเลือกเก็บดอกหญ้าที่มีลักษณะสมบูรณ์ อยู่ในช่วงดอกบานพอดี แล้วนำมาตากแดดเป็นเวลา 2-3 วัน ซึ่งชาวบ้านมักจะนำมาตากกันริมถนน เมื่อแห้งดีแล้วจะทำการสลัดดอกหญ้าออก แล้วมัดขึ้นรูปเป็นไม้กวาด
โดยจะนำดอกหญ้ามาแบ่งออกเป็น 1 กำมือ แล้วมัดด้วยเชือกไว้ก่อน เมื่อมัดด้วยเชือกแล้ว ต่อมาก็เอาก้านดอกหญ้านำมามัดรวมกับดอกหญ้าที่ได้มัดไว้ก่อนหน้านั้น แล้วก็นำก้านดอกหญ้ามาหุ้มก้านไม้ไว้ และมัดให้เเน่นอีกรอบหนึ่ง ตกแต่งให้สวยงาม เป็นไม้กวาดที่มีดอกหญ้าเรียงกันเต็มสมบูรณ์ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
สำหรับไม้กวาดดอกหญ้าของชาวบ้านพรุดินนา มีจุดขายที่แตกต่างจากที่อื่น คือ มีความคงทน ซึ่งเทคนิคอยู่ที่การเลือกดอกหญ้าอายุพอดี ไม่อ่อนหรือแก่จัดจนเกินไป รวมไปถึงการมัดขึ้นรูปไม้กวาดที่แน่นหนาและแข็งแรง หากเก็บหรือใช้ดี ๆ ระวังไม่ให้โดนน้ำ ไม้กวาดดอกหญ้าพรุดินนาจะมีอายุการใช้งานถึง 3 – 4 ปีเลยทีเดียว ซึ่งนับว่าคุ้มค่ามาก
ราคาขายด้ามละ 50 บาทเท่านั้น โดยการทำไม้กวาดดอกหญ้าขาย สามารถสร้างรายได้เสริมให้สมาชิกในครอบครัวได้ประมาณ 300-500 บาทต่อวัน หรือประมาณ 8,000-10,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว เป็นการสร้างได้เสริมที่เข้ามาชดเชยรายได้หลักจากการกรีดยางที่ต้องหายไปในช่วงนี้ โดยในส่วนของลูกค้า หลักๆ มักจะเป็นคนในตำบลพรุดินนา อำเภอคลองท่อม โดยส่วนใหญ่จะชื่นชอบการใช้ไม้กวาดที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เพราะมีความคงทน คุ้มค่า ใช้ได้นานหลายปี ทำให้หลายคนซื้อติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของใช้และของฝากญาติสนิทมิตรสหาย
บ้านช่องเสียด หมู่ที่ ๑๑ ตำบลพรุดินนา อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่