ภาคเรียนที่ 2/2566 รวม 20 ชั่วโมง ดังนี้
วิชาภาษาไทย 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
วิชาคณิตศาสตร์ 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
วิชาสังคมศึกษาฯ 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
วิชาประวัติศาสตร์ 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
แนะแนว 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
ชุมนุม 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
ลูกเสือ 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
ภาคเรียนที่ 1/2567 รวม 25 ชั่วโมง ดังนี้
วิชาภาษาไทย 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
วิชาคณิตศาสตร์ 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
วิชาสังคมศึกษาฯ 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
วิชาประวัติศาสตร์ 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
วิชาภาษาอังกฤษ 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
วิชาการงานอาชีพ 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
วิชาศิลปะ 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
แนะแนว 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
ชุมนุม 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
ลูกเสือ 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
ll ตารางสอน ภาคเรียนที่ 2/2566 ll
ll ตารางสอน ภาคเรียนที่ 1/2567 ll
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู ไม่มีวิทยฐานะ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง คือ การปรับประยุกต์ การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น
สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
ในการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ป่านี้มีคุณค่า เป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับมาตราตัวสะกด โดยมาตราตัวสะกดมี 8 แม่ ได้แก่ แม่กก แม่กง แม่กด แม่กน แม่กบ แม่กม แม่เกย และแม่เกอว นอกจากนี้มีแม่ ก กา เป็นมาตรา แต่ไม่ใช่มาตราตัวสะกด เพราะแม่ ก กา ไม่มีตัวสะกด ซึ่งมาตราตัวสะกดแบ่งออกตามลักษณะของตัวสะกด โดยมาตราตัวสะกดที่มีตัวสะกดเพียงตัวเดียว มี 4 มาตรา ได้แก่ แม่กง แม่กม แม่เกย และแม่เกอว เราเรียกว่ามาตราตัวสะกดตรงตามมาตรา และอีก 4 มาตราที่เหลือ ได้แก่ แม่กก แม่กด แม่กน และแม่กบ คือมาตราตัวสะกดที่ไม่ตรงตามมาตรา เนื่องจากมีตัวสะกดในแต่ละแม่มากกว่า 1 ตัว ซึ่งส่งผลต่อการอ่านคำของผู้เรียน อาจทำให้สับสน และออกเสียงผิดได้ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้อ่านขาดความมั่นใจในการอ่านหนังสือ ไม่กล้าออกเสียงเพราะกลัวผิด และจะทำให้ผู้เรียนอ่านหนังสือไม่คล่อง หรือบางคนอ่านหนังสือไม่ออก ครูผู้สอนจึงทำการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี วิธีการสอน พบว่าแนวทางที่สามารถนำมาปรับใช้ในการพัฒนาทักษะการอ่านคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา ที่จะทำให้นักเรียนเกิดความสนุกกับการอ่าน คือ การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ซึ่งชุดกิจกรรมการเรียนรู้จะช่วยให้การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนนั้นมีขั้นตอนที่หลากหลาย ตามความเหมาะสมของเนื้อหาที่เรียน อีกทั้งผู้เรียนสามารถใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ได้ด้วยตนเองอีกด้วย
วัตถุประสงค์ของการดำเนินการ
1. เพื่อเปรียบเทียบทักษะการอ่านคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2SCG
2. เพื่อเปรียบเทียบคะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์ของทักษะการอ่านคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2SCG
3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2SCG ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
1. วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) และหลักสูตรฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแหลมมะขาม (กัลยาณกิตติวิทยา) และสาขาบ้านแหลมทองหลาง วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดของเนื้อหา เรื่อง มามตราตัวสะกด
2. สร้างชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2SCG จำนวน 4 ชุดกิจกรรม ได้แก่ มาตราแม่กก แม่กด แม่กน และแม่กบ สร้างแบบทดสอบก่อน-หลังใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2SCG และสร้างแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2SCG
3. จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง มาตราตัวสะกดที่ไม่ตรงตามมาตรา
4. ให้ผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบความถูกต้อง ในเนื้อหาของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2SCG แบบทดสอบ และแบบประเมินความพึงพอใจ พร้อมทั้งเสนอแนะ เพื่อปรับปรุง แก้ไข
5. ครูผู้สอนนำชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2SCG แบบทดสอบ และแบบประเมินความพึงพอใจมาปรับปรุง แก้ไขตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
6. นำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน โดย
6.1 ทำการทดสอบวัดทักษะการอ่านคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา ก่อนการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2SCG (pretest) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 7 คน
6.2 นำชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2SCG มาใช้ในการจัดการเรียนการสอนเรื่องมาตราตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2SCG จำนวน 4 ชุด ตามแผนการจัดการเรียนรู้ 1 แผน จำนวน 4 เรื่อง เรื่องละ 2 ชั่วโมง รวมเป็น 8 ชั่วโมง
6.3 เมื่อเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2SCG ครบทั้ง 4 ชุด ทำการทดสอบวัดทักษะการอ่านคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา หลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2SCG (posttest) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งเป็นฉบับเดียวกับฉบับก่อนเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ และบันทึกคะแนนเพื่อเปรียบเทียบกับคะแนนก่อนเรียน
6.4 นักเรียนทำแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2SCG
7. บันทึกผล แจ้งให้ผู้เรียนทราบ
ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
1. เชิงปริมาณ
- -- นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 7 คน สามารถอ่านคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราโดยมีคะแนนหลังใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2SCG มากกว่าก่อนใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2SCG
- นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 7 คน มีคะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์ของทักษะการอ่านคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา อยู่ในระดับ สูง เกณฑ์คะแนน ร้อยละ 50 ของนักเรียนทั้งหมด
- นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจ ร้อยละ 80 ของนักเรียนทั้งหมด
2. เชิงคุณภาพ
- นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 7 คน มีทักษะการอ่านคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา และสามารถอ่านคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราได้อย่างถูกต้องเมื่อพบเจอคำเหล่านี้ในชีวิตประจำวันได้
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. นักเรียนมีความรู้เรื่องมาตราตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา
2. นักเรียนสามารถอ่านคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราได้
3. นักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในชีวิตประจำวันได้