งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
เรวดีเพชรศิราสัณห์ และคณะ (2550)ได้ทำการวิจัยเรื่องความสุขและวิถีการสร้างเสริมพลังทางสุขภาพของผู้สูงอายุ ผลการศึกษาพบว่า วัยผู้สูงอายุให้ความหมายของความสุข คือ การได้รับการสร้างเสริมพลังทางสุขภาพ จะช่วยให้ชีวิตมีคุณค่าและการทำกิจกรรมสร้างเสริมพลังทางสุขภาพร่วมกันยังสามารถส่งเสริมความสุขในครอบครัวได้อีกด้วยเกรียงศักดิ์ ซื่อเลื่อม และคณะ (2554) หลักสำคัญของการดูแลผู้สูงอายุด้วยตัวผู้สูงอายุเอง คือ ต้องให้ผู้สูงอายุเหล่านั้นสามารถดำเนินชีวิตได้ด้วยตนเองโดยพึ่งพาผู้อื่นน้อยที่สุดและมีความสุขกายสบายใจในบั้นปลายของชีวิตดังคำที่ว่า “เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของลูกหลาน”การดูแลผู้สงอายุด้วยตัวผู้สูงอายุเอง หมายถึง จะทำอย่างไรให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี คือ ผู้สูงอายุที่มีความสุขความพอใจตามอัตภาพ สามารถทำประโยชน์ทั้งต่อตนเอง ต่อผู้อื่น ต่อชุมชน และต่อสังคม เพื่อที่จะนำไปสู่การได้รับคำยกย่องและสรรเสริญจากสังคมโดยรวม สิ่งสำคัญที่จะทำให้ผู้สูงอายุมีชีวิตที่เป็นสุข คือ การมีคุณภาพชีวิตที่ดีซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยหรือองค์ประกอบของการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุสายฤดี วรกิจโภคาทร และคณะ (2550) การดูแลผู้สูงอายุมีลักษณะและความต้องการที่แตกต่างกัน แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่
1) การดูแลภายในครอบครัวคือ การให้ความดูแลเอาใจใส่แก่ผู้สูงอายุในปัจจัยสี่ ไม่ว่าจะเป็นการให้อาหาเสื้อผ้าจัดที่อยู่อาศัย การดูแลสุขภาพ รักษาพยาบาล รวมทั้งการให้เงิน การดูแลเอาใจใส่ทั้งด้านร่างกายจิตใจเป็นต้น
2) การดูแลในสถาบันแยกเป็นการดูแลในสถานสงเคราะห์ และการดูแลในสถานพยาบาลหรือสถานที่
รับดูแลเฉพาะผู้สูงอายุ
3) การดูแลโดยชุมชนเพื่อสร้างจิตสำนึกให้คนในชุมนเกิดการแก้ไขปัญหาระดมความร่วมมือและพัฒนาบริการต่างๆ ให้แก่สมาชิกในชุมชนของตนระหว่างผู้สูงอายุครอบครัว ชุมชน องค์การ และ สถาบันทางสังคมต่างๆซึ่งมีรูปแบบและลักษณะบริการแตกตางกัน
4) การดูแลในสถานการณ์พิเศษSwagerty D.L.J.,Takahashi P.Y, Evans J.M. (1999) ยังได้ศึกษาแนวทางความช่วยเหลือผู้สูงอายุโดยเน้นในกลุ่มที่มีปัญหาการดูแลอย่างไม่เหมาะสมโดยการแก้ปัญหาต้องเริ่มต้นการฟังเรื่องราวจากมุมมองของผู้ป่วยสูงอายุเพราะเป็นความจริงที่เกิดขึ้นในส่วนของผู้ป่วยซึ่งจะช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้ครอบครัวและผู้ป่วยมีทักษะการแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์และปัญหารอบตัวได้ดีขึ้นอันจะส่งผลต่อสุขภาพผู้ป่วยสูงอายุในระยะยาวศศิพัฒน์ยอดเพชร และคณะ (2552) ได้นำเสนอตัวแบบการดูแลผู้สูงอายุที่ดีของครอบครัวและชุมชนในชนบทไทยซึ่งเป็นการถอดตัวแบบพฤติกรรมของผู้ดูแลที่มีต่อผู้สูงอายุโดยมุ่งหวังให้เกิดผลทางจิตวิทยา มากกว่าการลอกเลียนซึ่งพบว่า ตัวแบบการดูแลที่ดีของครอบครัวประกอบด้วยตัวชี้วัดหลัก 9ประการ ได้แก่ การดูแลสุขภาพวิทยาส่วนบุคคลการจัดการเรื่องยา การช่วยเหลือในการเคลื่อนไหว การดูแลแผลกดทับการจัดอาหารที่เหมาะสม การป้อนอาหาร การดูแลด้านการขับถ่ายการสร้างความมั่นคงทางด้านอารมณ์ และการดูแลด้านอารมณ์จิตใจและจิตวิญญาณโดยผู้ดูแลในครอบครัวเป็นองค์ประกอบแรกที่มีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพามากที่สุดบัณฑิตเคียงธนสมบัติ (2547) ได้ศึกษาเรื่องการสนับสนุนทางสังคมการมีกิจกรรมกับความพึงพอใจในชีวิตของผู้สูงอายุพบว่าการสนับสนุนทางสังคมโดยรวมมีความสัมพันธ์ทางบวกกับความพึงพอใจในชีวิตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า การสนับสนับสนุนทางสังคม ได้แก่การสนับสนุนทางด้านเครื่องมือ ข้อมูลข่าวสาร และอารมณ์-สังคมมีความสัมพันธ์ทางบวกกับความพึงพอใจในชีวิตอย่างมีนัยสำคัญOrem (1980) การดูแลตนเองเป็นพฤติกรรมการเรียนรู้และเป็นพฤติกรรมที่มีเป้าหมายเพื่อสนองความต้องการในการดูแลตนเองพฤติกรรมการดูแลตนเองของบุคคลแสดงออกตามความเชื่อค่านิยวัฒนธรรม ตลอดจนลักษณะของบุคคล อันได้แก่ เพศอายุรายได้ระดับการศึกษา สถานภาพสมรส ประสบการณ์การทำงาน